เชียร์แข้งไทยหักโสมขาวสร้างประวัติศาสตร์

จากฟอร์มที่ทีมชาติไทยอัดจอร์แดนไป 2-0 เข้ารอบรองฯได้สำเร็จ ทำให้แฟนๆบอลชาวไทยฝันที่จะพาทีมเข้าไปลุ้นเหรียญรางวัลในครั้งนี้ให้ได้

เชื่อว่าแฟนบอลทีมชาติไทย ช่วงนี้คงมีความสุขสุดๆ จากฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของ ทัพนักเตะทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในศึก เอเชียนเกมส์ 2014  "อินชอน เกมส์"  

หลังเก็บชัยเหนือ จอร์แดน ไปได้ 2-0 จากการทำประตูของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ เข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย ไปพบกับ เกาหลีใต้ ซึ่งถือว่าเป็นงานที่หนักที่สุดใน ทัวร์นาเม้นต์นี้ของทีมชาติไทย

แต่หากใครได้ดูฟอร์มการเล่นของทีมชาติไทย ชุดนี้แล้ว อาจจะมีความหวังขึ้นมาเลยก็ว่าได้ ว่าเราอาจจะล้ม เกาหลีใต้ ได้แบบแมตช์ปาฏิหาริย์ในปี 2541 และ เข้าไปชิงเหรียญทองก็ได้

"อย่าลืมเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะครับ"

นักเตะชุดนี้ภายใต้การทำหน้าที่กุนซือของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หากเราได้ชมแล้วนั้นมีสไตล์เล่นบอลกันได้อย่างไหลลื่นเนียนตา ต่อบอลกันได้สนุกเร้าใจเล่นด้วยความเข้าใจ ดูดีมีอนาคตมากๆ

บวกกับแนวรุกที่มีความรวดเร็วไม่ว่าจะเป็น ภิญโญ อินพินิจ, นูรูล ศรียานเก็ม, ชนาธิป สรงกระสินธ์  รวมถึง อดิศักดิ์ ไกรษร แม้ว่าเราจะเสียกองหน้าตัวหลักอย่าง "เจ้าทู" ชนานันท์ ป้อมบุปผา ไปเนื่องจากอาการบาดเจ็บ ในเกมที่เรา ถล่ม อินโดนีเซียก็ตาม

แต่ "เจ้ากอล์ฟ" อดิศักดิ์ ไกรษร ก็เข้ามาเติมเต็มพื้นที่ของ ชนานันท์ ได้อย่างลงตัว เรามาดูเกมที่ "ช้างศึก" เอาชนะ จอร์แดน ไป 2-0 จะเห็นได้ว่ารูปร่างของนักเตะไทยเรา เป็นรองแข้งจอร์แดน มากพอสมควร แต่เราใช้ความเล็กของเราเป็นจุดแข็ง ความคล่องแคล่ว การจ่ายบอลอันแม่นยำ ทำให้เราสยบจอร์แดนได้อยู่หมัด

หากเรามาดูสถิติตั้งแต่เริ่มทัวร์นาเม้นต์นี้ จอร์แดน ยังไม่เสียประตู แม้แต่ลูกเดียวเช่นเดียวกับทีมชาติไทย ที่ยังไม่เสียประตูเลย แต่วันนี้แนวรับของพวกเขาโดนเจาะและเสียไปถึง 2 ประตู นั่นแสดงให้เห็นว่าเรามีแนวรุกที่ยอดเยี่ยมมากพอสมควร ควรรักษาฟอร์มแบบนี้ไว้ให้นานๆ

รอบ 8 ทีมกับจอร์แดนก็ขนลุกแล้ว เย็นนี้ขอแบบนี้อีกนะ!

อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ กองกลางหน้าหยก ชาริล ชัปปุยส์ ที่เล่นได้อย่างโดดเด่นตลอดทัวร์นาเม้นต์ นี้ กองกลางหน้าหล่อเคยคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาแล้วเมื่อปี 2009 กับ ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ยู-17 ปี แต่เจ้าตัวเลือกมารับใช้ทีมชาติไทย และได้โชว์ฟอร์มออกมาให้เห็นว่าเขาคือ นักเตะที่ทีมชาติไทยจะขาดไม่ได้เลย

และจากผลงานที่ทีมชาติไทยเอาชนะจอร์แดนได้ ทำให้นักเตะไทยรับเงินอัดฉีดเพิ่มอีก 13.3 ล้านบาท จากบริษัท โหลทอง โฮลดิ้ง จำกัด 5 ล้านบาท และ “บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ 7 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ล้านบาทจากการเอาชนะจอร์แดนได้

บวกโบนัสที่สามารถผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้อีก 5 ล้านบาท ทั้งนี้จากรอบแรกและรอบ 16 ทีม นักเตะไทยรับเงินอัดฉีดไป 1.3 ล้านบาท ทำให้รวมทั้งหมดแข้งไทยรับเงินอัดฉีดไปแล้ว 13.3 ล้านบาท นี่ยังไม่รวมกรณีได้เหรียญทอง ซึ่งทางโตโยต้าประเทศไทย มอบให้อีก 10 ล้านบาท

เกมกับ เกาหลีใต้ ในวันนี้ เวลา 18.00 น. แฟนบอลทีมชาติไทย ไม่ควรพลาด เราอาจจะเอาชนะเกาหลีใต้ได้แบบเอเชียนเกมส์ ที่เราเป็นเจ้าภาพเมื่อปี 2541 ก็เป็นได้ ถึงเวลานั้นเรามาลุ้นกันครับ