10 สุดยอดเรื่องราว เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 อินชอนเกมส์

10 สุดยอดเรื่องราว เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 อินชอนเกมส์

10 สุดยอดเรื่องราว เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 อินชอนเกมส์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปิดฉากลงไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับมหกรรมกีฬาของมวลหมู่คนเอเชีย "เอเชียนเกมส์ 2014" ที่ประเทศ เกาหลีใต้

"อินชอนเกมส์ 2014" ณ แดนกิมจิ มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นตลอด 2 สัปดาห์ที่ร่วมประชันฝีไม้ลายมือในด้านกีฬา บ้างก็สมหวัง บ้างก็ผิดหวัง บ้างก็ถึงขึ้นหลั่งน้ำตา

ท้ายสุดทัพกีฬาจาก "แดนมังกร" ประกาศศักดา คว้าเจ้าเหรียญทองแบบม้วนเดียวจบ ที่ 151 เหรียญทอง ดูท่าแล้วยากยิ่ง ที่จะหาชาติได้ในเอเชีย มาล้มเจ้าเหรียญทองของจีนลงได้

ส่วนผลงานนักกีฬาไทย ดีกว่าครั้งก่อนอยู่ 1 เหรียญทอง ซึ่งถือว่า 12 เหรียญทอง  7 เหรียญเงิน และ 28 เหรียญทองแดง เป็นผลงานที่เยี่ยมยอด แถมเรายังจบด้วยอันดับ 6 เป็นรองแค่ จีน, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, คาซัคสถาน และ อิหร่าน  เท่านั้น

วันนี้ ทีมงานสนุกดอทคอม รวบรวม 10 สุดยอดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ ลองมาดูซิว่าว่ามีเรื่องอะไรที่โดนใจแฟนกีฬากันบ้าง

------------------------------------------------------------------

ที่สุด ของนักกีฬาทรงคุณค่าอินชอนเกมส์

"โคซึเกะ อากิโนะ" ฉลามหนุ่มแดนซามูไร ที่ระเบิดฟอร์มสุดยอด กวาดไปถึง 4 เหรียญทอง  1 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง ในการว่ายน้ำครั้งนี้

7 เหรียญที่พ่อหนุ่มแดนอาทิตย์อุทัยทำได้ใน "อินชอนเกมส์ 2014" มาจาก 4 เหรียญทอง จากท่าผสม 200 และ 400 เมตร รวมทั้งฟรีสไตล์ 200 เมตร กับว่ายผลัดฟรีสไตล์ 4x200 เมตร ขณะที่อีก 1 เหรียญเงิน มาจากฟรีสไตล์ 400 เมตร รวมทั้ง 2 เหรียญทองแดง จากท่ากรรเชียง 100 และ 200 เมตร

จึงไม่น่าจะแปลกอะไร ที่เขาก้าวขึ้นไปพิชิตรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยม (MVP) ในกีฬา เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 จากการประกาศผล ระหว่างพิธีปิดการแข่งขันเมื่อค่ำของวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา

 
ที่สุด แห่งวีรกรรมหักหน้าเจ้าภาพ 

 

"สาริตา เทวี" นักมวยหญิงจากอินเดีย จากเหตุการณ์ไม่ยอมรับเหรียญรางวัล พร้อมกับนำไปให้นักชกสาวเจ้าภาพ เชิงประชดประชัน เพราะมองว่าตัวเองถูกปล้นชัยชนะในรอบรองชนะเลิศ

ทั้งที่ตัวเองเป็นตัวเต็งของรุ่นนี้ และชกได้ดีกว่าในไฟต์รอบรองฯ ที่เธอแพ้คะแนนนักชกเจ้าภาพ

ข่าวนี้ถูกตีแผ่ไปในวงกว้าง และถูกคนทั่วโลกที่ไม่เฉพาะคนเอเชีย ต่างก็เข้าไปวิพากษ์วิจารณ์ หลังได้ดูคลิปดังกล่าว สุดท้ายเธอไม่ต้องถูกลงโทษจาก คณะกรรมการโอลิมปิกเอเชีย (OCA)

แถมยังทำให้ สหพันธ์กีฬามวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ (AIBA) ที่เป็นบิ๊กเบิ้มของวงการกำปั้น เกิดอาการหน้าชา ที่สำคัญการตัดสินมวยสากลสมัครเล่นในครั้งนี้ มันค้านสายตาหลายต่อหลายคู่ จนยากที่นักกีฬาจะรับได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตัดสินที่เอนเอียงไปฝั่งเจ้าภาพอย่างน่าเกลียดเกิ๊น!



ที่สุด แห่งประวัติศาสตร์ กัมพูชาคว้าเหรียญทองแรกในเอเชียนเกมส์!

จอมเตะสาวกัมพูชา "ซอน เซียวเหม่ย" ผงาดคว้าเหรียญทองเหรียญแรก ในรอบ 44 ปีให้กับประเทศของเธอได้สำเร็จ

"ซอน เซียวเหม่ย" นักเทควันโดสาว ในรุ่น 73 กก.หญิง คว้าเหรียญทองแรกในประวัติศาสตร์ ของการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ให้กับประเทศกัมพูชา โดยในรอบชิง เธอเอา ชน ะฟาเตเมะห์ รูฮานี่ จอมเตะอิหร่าน

ทั้งนี้กัมพูชาลงแข่งขันเอเชียนเกมส์มาแล้ว 10 ครั้ง เคยทำได้ 2 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง ก่อนที่ "ซอน" จะทำเหรียญทองได้เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์

 

ที่สุดของความศรัทธา


"ขุนพลช้างศึก" ทีมฟุตบอลชายไทย ชุดยู 23 ที่กุมบังเหียนโดย "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตกองหน้าชื่อดังของเรานั่นเอง ต้องบอกเลยว่าเด็กหนุ่มชุดนี้ คือผู้ปลุกปั่นให้กระแสฟุตบอลทีมชาติไทยฟีเวอร์กลับมาอีกครั้ง

ด้วยลีลาการเล่นที่สวยงาม จิตใจที่มุ่งมั่น น่าลุ้นน่าเชียร์อย่างแรง เรียกได้ว่ากระแสความนิยมตอนนี้ "ฮอต" แซงหน้าทีมชาติชุดใหญ่เรียบร้อย ถึงแม้จะได้แค่อันดับที่ 4

ผลงานครั้งนี้ เป็นการกอบกู้ "ศรัทธา" จากแฟนฟุตบอลชาวไทยกลับมาได้มหาศาล นี่ยังไม่รวมเสียงกรี๊ดจากบรรดาสาวน้อย-สาวใหญ่ หญิงแท้-หญิงเทียม ที่มีให้ "ชาริล ชัปปุยส์" กองกลางตัวเก่งสุดหล่อ ลูกครึ่งไทย-สวิส ที่แจ้งเกิดกับทัวร์นาเม้นต์นี้ได้แบบเต็มตัว 

 

ที่สุดของการรอคอย

ต้องยกให้สาวเก่งคนนี้ "แทมมี่" แทมมารีน ธนสุกาญจน์ นักเทนนิสสาวจอมเก๋าวัย 37 ปีของไทย ซึ่งในที่สุดเธอก็ได้เหรียญทองเอเชียนเกมส์ครั้งแรกซะที

หลังจากลงแข่งในประเภทหญิงคู่ ร่วมกับรุ่นน้องเจ้าของเหรียญเงินหญิงเดี่ยวเอเชียนเกมส์ครั้งนี้อย่าง "น้องลัก" ลักษิกา คำขำ เอาชนะคู่จากจีนไปได้อย่างสุดมันส์ 2-1 เซต

เรียกได้ว่ามาประสบผลสำเร็จจนได้ในช่วงบั้นปลายอาชีพ หลังจากเคยทำได้ดีที่สุดแค่เหรียญเงินประเภทหญิงเดี่ยวมา 2 ครั้ง สุดยอดจริงๆแทมมี่!

 

ที่สุดของประวัติศาสตร์หน้าใหม่

เป็นวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยของเรานั่นเอง กับการสร้างประวัติศาสตร์เอาชนะญี่ปุ่นในรอบชิงเหรียญทองแดงไปได้ 3-0 เซต ซึ่งนับเป็นเหรียญรางวัลประวัติศาสตร์ เหรียญแรกของทีมในการแข่งขันเอเชียนเกมส์

หลังจากทำได้ดีที่สุดก่อนหน้านี้เพียงอันดับที่ 4 มา 3 ครั้ง (1986,1998 และ 2006) ถึงแม้จะพลาดเป้าหมายไปเล็กน้อย

เพราะก่อนจะมาอินชอน ทางสมาคมคาดหวังไว้สูงถึงเหรียญทอง หรืออย่างน้อยๆต้องเข้าชิงฯ จนถึงขั้นตัดใจทิ้งการแข่งขันวอลเลย์บอลชิงแชมป์โลกที่ประเทศอิตาลี ในช่วงเวลาคาบเกี่ยวกัน ด้วยการส่งทีมชุดเล็กไปเล่น และนำผู้เล่นชุดใหญ่มาแข่งขันรายการนี้แทน

 

ที่สุดของความไร้เทียมทาน

ทีมนักหวดลูกพลาสติก ไทยส่ง 4 ประเภท โดยตั้งเป้าเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจาก 4 เหรียญทองเท่านั้น และบทสรุปสุดท้ายคือพวกเขาทำได้!

4 เหรียญทองถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของสมาคมเซปักตะกร้อแห่งประเทศไทย เมื่อประกาศศักดา "กวาดเรียบ" ทั้ง ทีมชุดชาย-หญิง, ทีมเดี่ยวชาย-หญิง ชนิดที่เรียกได้ว่า "งานสบาย" กว่าที่คิด

จะบอกว่าที่เราทำได้ เพราะวงการตะกร้อของคู่รักคู่แค้นคนสำคัญอย่างมาเลเซียกำลังอยู่ในช่วงตกต่ำ หรือเกาหลีใต้กับเมียนมาร์ กำลังอยู่ในช่วงพัฒนา ก็ดูจะเป็นการไม่ให้เครดิตนักกีฬาของเราเท่าไรนัก

ต้องชื่นชมทั้งตัวนักกีฬาและทางสมาคมฯเอง ที่รักษามาตรฐานได้อย่างยอดเยี่ยม แค่ทีมเดี่ยวชายก็ได้ 5 สมัยติดต่อกันแล้ว ไร้เทียมทานมั้ยล่ะ!

ที่สุด ของความน่ารักแบบแซ่บเวอร์ "อแมนด้า คาร์ "

 

 

"อแมนด้า คาร์" นักปั่นลูกครึ่งไทย- อเมริกัน ที่ลงรับใช้ทีมชาติไทยเป็นครั้งแรก และเธอก็ไม่ทำให้แฟนๆผิดหวัง เมื่อสามารถเอาชนะความแกร่ง 2 สาวจีน พร้อมกับก้าวขึ้นไปคว้าเหรียญทองจากกีฬาจักรยาน BMX ได้สำเร็จ

แต่สิ่งที่คนไทยและแฟนกีฬาต่างชื่นชมเธอ คือการให้สัมภาษณ์ในภาษาอีสานที่สุดแสนจะน่ารัก ที่เรียกว่าฟังไปยิ้มไป 

งานนี้เดียวบอกได้คำเดียวว่า สาววัย 24 ปีจาก บ้านหนองเม็ก อ.หนองหาร จ.อุดรธานี คนนี้ กลายเป็นขวัญใจของคนไทยไปแล้วเรียบร้อย

 

ที่สุด ของเหรียญทองแรก และ เหรียญทองสุดท้าย ในอินชอนเกมส์

กีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ ทัพนักกีฬาไทยต้องรอคอยมาถึง 4 วัน ก่อนจะได้ "โจ้" ญาณพล ลาภอาภารัตน์ ที่คว้าเหรียญทองแรกให้ไทย จากโบว์ลิ่ง ประเภท บุคคลชาย เมื่อวันที่ 23 ก.ย.  

ซึ่งนี่เองที่ช่วยคลายแรงกดดันต่างๆให้กับนักกีฬาไทย จนสุดท้ายทัพกีฬาของไทยเราช่วยกันคว้ามาได้ถึง 12 เหรียญทอง

ส่วนเหรียญทองสุดท้ายในอินชอนเกมส์ของไทย ได้มาจาก "เจ้าเอ็ม" วุฒิชัย มาสุข นักชกเหรียญทองเพียงหนึ่งเดียวของทีมมวยสากลสมัครเล่น ที่ในรอบชิงฯ เฉือนชนะเจ้าภาพแบบที่กองเชียร์ลุ้นหัวใจแทบวาย

ที่สุดของความสุข กับผลงานนักกีฬาไทย

 

 

12 เหรียญทอง  7 เหรียญเงิน และ 28 เหรียญทองแดง ถือว่าผลงานเยี่ยมยอด เมื่อเทียบกับผลงานเมื่อครั้ง กว่างโจวเกมส์

ในฐานะคนไทย และคนเชียร์กีฬา คงต้องขอบคุณพวกเขาเหล่านี้ ที่ได้เสียสละแรงกายแรงใจ ฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ เพื่อเป้าหมายคือการสร้างผลงานให้ออกมาดีที่สุดในนาม "ประเทศไทย"

ความสุขแบบเต็มเปี่ยมในยามที่เห็น ตัวแทนของคนไทย ประสบความสำเร็จ โดยที่มีธงไตรรงค์ติดหราอยู่หน้าอกซ้าย ขอบอกว่ามัน "โคตรภูมิใจเลยครับ"

สุดท้ายขอบคุณ สำหรับรอยยิ้มและเสียงไชโย ที่พวกเขาได้มอบให้กองเชียร์อย่างพวกเราได้สัมผัสมาตลอด2สัปดาห์เต็มๆ  ขอบคุณ และ ขอบคุณครับ

 

- ทีมข่าวสนุกดอทคอม -

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook