10 เหตุการณ์สำคัญของตำนานบุนเดสลีกา "เคลาดิโอ ปิซาร์โร"

10 เหตุการณ์สำคัญของตำนานบุนเดสลีกา "เคลาดิโอ ปิซาร์โร"

10 เหตุการณ์สำคัญของตำนานบุนเดสลีกา "เคลาดิโอ ปิซาร์โร"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในที่สุด เคลาดิโอ ปิซาร์โร ก็ตัดสินใจแขวนสตั๊ด หลังโลดแล่นในวงการค้าแข้งมากว่าสองทศวรรษ เขาลงเล่นในบุนเดสลีกาไปกว่า 400 เกมและยิงประตูไปเกือบ 200 ลูก

วันนี้เราได้เลือกเอา 10 เหตุการณ์สำคัญที่เป็นไฮไลท์ในชีวิตการค้าแข้งของปิซาร์โรที่ช่วยสร้างสีสันให้กับวงการฟุตบอลเยอรมันในสีเสื้อของแวร์เดอร์ เบรเมน, บาเยิร์น มิวนิค และโคโลญจน์ มาให้อ่านกันเพื่อเป็นการสดุดีแด่ยอดศูนย์หน้าชาวเปรูคนนี้

1) 12 กันยายน 1999 : ประตูแรกในบุนเดสลีกา

ปิซาร์โรเก็บข้าวของจากอัลอิอันซ่า ลิมา สโมสรในประเทศเปรูมาอยู่กับเบรเมนในปี 1999 ในตอนนั้นไม่มีใครคาดคิดเลยว่าศูนย์หน้ารายนี้จะกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในลีกสูงสุดของเยอรมนี ปิซาร์โรได้ลงประเดิมสนามตั้งแต่แมตช์เดย์แรกของฤดูกาล 1999/2000 โดยได้ลงเป็นตัวสำรองในเกมที่พบกับแฮร์ธ่า เบอร์ลิน ก่อนที่ในเกมต่อมาเขาได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงและสามารถเบิกประตูแรกของตัวเองในบุนเดสลีกาได้สำเร็จช่วยให้ทีมเอาชนะไกเซอร์สเลาเทิร์นไป 5-0 สร้างความประทับใจให้กับเพื่อนร่วมทีมได้มากทีเดียว

2) 19 กันยายน 1999 : แฮตทริกแรกในบุนเดสลีกา
r

การเล่นเกมรุกในทีม "นกนางนวล" ที่เต็มไปด้วยนักเตะฝีเท้าดีอย่างโทมัส ชาฟ, ไอลตัน และมาร์โค โบเดอ นั้นช่วยให้ปิซาร์โรแจ้งเกิดได้อย่างรวดเร็ว เพียงหนึ่งสัปดาห์หลังยิงประตูแรกได้ แข้งวัย 20 ปีก็สามารถกดแฮตทริกแรกในบุนเดสลีกาได้ในเกมถล่มโวล์ฟสบวร์ก 7-2 ประตู แถมยังเป็นการซัดแฮตทริกแรกในชีวิตของเขาอีกด้วย

คนที่แฮปปี้สุดๆ เห็นจะเป็นเยือร์เก้น บอร์น ซีอีโอของเบรเมน เขาเคยได้ชมเกมการแข่งขันของทีมชาติเปรูเมื่อตอนไปทำงานที่อเมริกาใต้แล้วไปประทับใจฟอร์มการเล่นของปิซาร์โรเข้า หลังจากนั้นก็พยายามส่องดูฟอร์มการเล่นของศูนย์หน้าดาวรุ่งรายนี้ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะทีมอัลลิอันซ่า ลิม่า ฝึกซ้อมกันแบบไม่ให้ใครเห็น ซึ่งทำให้เขาต้องแอบส่องผ่านรั้วเข้าไปเพื่อเช็คฟอร์ม จนสุดท้ายบอร์นก็มั่นใจว่านักเตะคนนี้แหละที่สโมสรต้องการ

3) 12 พฤษภาคม 2001 : ฤดูกาลที่ยิงประตูได้มากที่สุด

ในช่วงต้นฤดูกาล 2000/01 กับทีมเบรเมน ปิซาร์โรใช้เวลาอุ่นเครื่องอยู่นานซะจนนิ่ง ใน 8 เกมแรกเขายิงไปได้แค่ประตูเดียว แต่พอเครื่องติดเท่านั้นแหละ อะไรก็หยุดแข้งเปรูคนนี้ไม่อยู่ หลังจากที่ปิซาร์โรยิงได้เพียง 4 ประตูในครึ่งฤดูกาลแรก เขากลับมากด 15 ประตูจาก 16 เกมในครึ่งฤดูกาลหลัง ยิงรวมในซีซั่นนั้นไป 19 ประตู นับเป็นฤดูกาลที่ปิซาร์โรทำผลงานได้ดีที่สุดในอาชีพค้าแข้งในบุนเดสลีกา และนั่นก็เป็นเหตุผลที่บาเยิร์น มิวนิคต้องรีบมาคว้าตัวเขาไปร่วมทีมในช่วงหน้าร้อน เมื่อถามว่าปิซาร์โรทำอย่างไรถึงยิงได้มากขนาดนั้น เขาตอบว่า "ก็แค่ดูวิดีโอทีมอื่นเยอะๆ แล้วก็รู้เลยว่าต้องทำอะไร"

4) 9 พฤศจิกายน 2002 : คว้าชัยในเกมแดร์ คลาสสสิกเคอร์และคว้าดับเบิ้ลแชมป์
s
ในฤดูกาลแรกกับบาเยิร์น โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์เป็นฝ่ายคว้าแชมป์ลีกไปได้ แต่แข้งชาวเปรูก็รวมพลังกับศูนย์หน้าแซมบ้าอย่างจิโอวานี เอลแบร์ ช่วยกันถล่มประตูจนสามารถคว้าแชมป์ลีกและเดเอฟเบ โพคาล มาครองได้ในฤดูกาล 2002/03

ซีซั่นนี้ปิซาร์โรยิงได้ 15 ประตู โดยที่หนึ่งในนั้นคือประตูที่ยิงโค่นแชมป์เก่าอย่างดอร์ทมุนด์ที่กรุงมิวนิค ในขณะที่เอลแบร์ยิงได้ถึง 21 ประตู คว้าแชมป์บุนเดสลีกาไปครองโดยทำคะแนนห่างจากรองแชมป์อย่างชตุทท์การ์ทถึง 16 แต้ม

นอกจากนี้ ปิซาร์โรยังยิงได้ในนัดชิงชนะเลิศศึกเดเอฟเบ โพคาล รวมแล้วเขาคว้าแชมป์บุนเดสลีกาไปถึง 6 สมัย, แชมป์เดเอฟเบ โพคาล 5 สมัย และแชมป์ยูเอฟ่า แชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาล 2012/13 ซึ่งเป็นปีที่ยุปป์ ไฮน์เคส พาทีมเสือใต้คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้สำเร็จ

5) 23 ตุลาคม 2010 : ดาวซัลโวชาวต่างชาติที่ยิงในบุนเดสลีกาสูงสุดตลอดกาล

หลังย้ายกลับมาเล่นให้เบรเมนอีกครั้ง ปิซาร์โรก็ยังทำผลงานยอดเยี่ยม ยิงประตูแซงหน้าซี้เก่าอย่างเอลแบร์ขึ้นไปนั่งแท่นดาวซัลโวนักเตะต่างชาติด้วยการยิงประตูที่ 134 ของตนเองในเกมที่ทีมนกนางนวลเอาชนะโบรุสเซีย เมินเชนกลัดบัค 4-1 ประตู

ถึงแม้ตอนนี้สถิติดาวซัลโวสูงสุดโดยนักเตะต่างชาติของเขาจะถูกโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ทำลายไปแล้ว แต่ปิซาร์โรก็จะยังยึดอันดับที่สองไปอีกนานและยังอยู่ในลิสต์ท็อปเท็นดาวยิงบุนเดสลีกาไปอีกนานเช่นกัน

6) 5 กุมภาพันธ์ 2016 : เกมที่ 400 ในบุนเดสลีกา
d

แม้ทีมต้นสังกัดจะพลาดท่าพ่ายให้กับกลัดบัคไปแบบยับเยินถึง 1-5 ประตู แต่เกมนัดนี้ก็ได้กลายเป็นอีกหนึ่งเกมสำคัญของปิซาร์โร ซึ่งได้สร้างสถิติเป็นนักเตะชาวต่างชาติที่ลงเล่นสูงที่สุดในบุนเดสลีกา

ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครเป็นคนยิงประตูเดียวประตูนั้นของเบรเมนในนัดนี้ ปิซาร์โรยิงลูกที่ 182 ของตัวเอง ทำสถิติแซงหน้าอูล์ฟ เคียร์สเท่น จากนั้นเขาก็ได้ลงสนามต่ออีกถึง 89 นัดจนกระทั่งแมตช์เดย์ 33 ของฤดูกาลล่าสุด ทำให้เขาเพิ่มสถิติแซงหน้าแข้งระดับตำนานอย่างโลธ่าร์ มัทเธอุส, ฟรันซ์ เบ็คเคนเบาเออร์, เซปป์ ไมเออร์ และแกร์ด มึลเลอร์

7) 2 มีนาคม 2016 : นักเตะอายุมากที่สุดที่ยิงแฮตทริกได้
u
เดิมทีสถิตินี้ถูกทำไว้เมื่อปี 1985 โดยมันเฟร็ด บวร์กสมึลเลอร์ นักเตะทีมเบรเมนเช่นกัน จากนั้นปิซาร์โรก็สามารถทุบสถิติได้ด้วยวัย 37 ปีครึ่งซึ่งแก่กว่าบวร์กสมึลเลอร์เกือบหนึ่งปีเต็ม และในฤดูกาลนั้นปิซาร์โรก็ยังทำผลงานได้ไม่เลว ยิง 14 ประตูจาก 28 เกมลีก คิดเป็นอัตรายิงทุกๆ 124 นาที ถึงจะแก่แต่ก็ยังเก่งจริงๆ

8) 16 เมษายน 2016 : ดาวยิงสถิติสโมสร

หลังจากกลายเป็นฮีโร่ของทีมนกนางนวล ปิซาร์โรก็สามารถทำผลงานขึ้นแท่นดาวซัลโวตลอดกาลของสโมสรได้สำเร็จ ก่อนหน้านี้สถิติสูงสุดเคยเป็นของมาร์โค โบเดอ แข้งอินทรีเหล็กดีกรีแชมป์ฟุตบอลยูโร 96 ปิซาร์โรมายิงแซงได้ในเกมเฉือนชนะโวล์ฟสบวร์ก 3-2 ประตู นับเป็นประตูที่ 102 ที่เขายิงให้ทีมนกนางนวล นอกจากนี้ยังเป็นนักเตะคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่ยิงได้เกิน 80 ประตูให้กับ 2 สโมสร (109 ประตูกับเบรเมน, 87 ประตูกับบาเยิร์น)

9) 16 กุมภาพันธ์ 2019 : ผู้ทำประตูที่อายุมากที่สุดในบุนเดสลีกา
t
เกือบสามปีต่อมา ปิซาร์โรก็ยังคงเดินหน้าล่าตาข่ายทีมคู่แข่งในบุนเดสลีกาต่อไป แม้จะอายุไม่น้อยแล้ว แต่เขาก็พิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถฟาดแข้งกับนักเตะอายุยี่สิบกว่าๆได้สบาย โดยเฉพาะในเกมพบแฮร์ธ่า เบอร์ลิน ที่สนามโอลิมเพียชตาดิโอน

นัดนั้นทีมเจ้าบ้านกำลังจะเก็บสามคะแนนเต็มในบ้านได้อยู่แล้ว แต่ปิซาร์โรในวัย 40 ปี 136 วันก็มายิงประตูตีเสมอได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แบ่งหนึ่งแต้มมาได้จากกรุงเบอร์ลินและเป็นการเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ทำลายสถิติเดิมของมิโรสลาฟ โวทาว่า อดีตศูนย์หน้าเบรเมนที่ทำไว้ในปี 1996 ด้วยอายุที่แก่กว่า 15 วัน

นอกจากนี้ปิซาร์โรยังทำสถิติยิงประตูได้ตลอด 21 ปีที่ค้าแข้งในเยอรมนี ประตูสุดท้ายที่เขายิงได้เกิดขึ้นในเกมพบแอร์เบ ไลป์ซิก ในฤดูกาลล่าสุดทำให้สถิติผู้ทำประตูที่อายุมากที่สุดของเขาอยู่ที่ 40 ปี 227 วัน

10) 27 มิถุนายน 2020 : เกมสุดท้ายในบุนเดสลีกา
m
เกมบุนเดสลีกานัดที่ 490 ของปิซาร์โรจะเป็นเกมแห่งความทรงจำที่เขาไม่มีวันลืม สถานการณ์ก่อนนัดนี้เบรเมนต้องเอาชนะโคโลญจน์ให้ได้ และหวังให้ฟอร์ทูน่า ดุสเซลดอร์ฟ แพ้อูนิโอน เบอร์ลิน เพื่อให้ทีมนกนางนวลได้โควต้าไปเล่นเกมเพลย์ออฟหนีตกชั้น ปิซาร์โรได้รับเกียรติด้วยการถูกเปลี่ยนตัวลงสนามเพื่อลงเล่นเกมสุดท้ายในอาชีพค้าแข้งของเขาในนาทีที่ 88 ซึ่งทีมน่าจะคว้าชัยชนะได้ค่อนข้างแน่นอนแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ลงเล่นในเกมเพลย์ออฟเลื่อนชั้น-ตกชั้นซึ่งทีมเบรเมนสามารถรักษาสิทธิ์การเล่นในบุนเดสลีกาต่อไปได้ แต่แข้งเปรูก็กลายเป็นนักเตะต่างชาติที่ลงเล่นสูงสุดในบุนเดสลีกาและได้ฉลองร่วมกับเพื่อนร่วมทีมในสนามเป็นหนสุดท้าย

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ 10 เหตุการณ์สำคัญของตำนานบุนเดสลีกา "เคลาดิโอ ปิซาร์โร"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook