ศุภนรเนื้อหอมฟลอริดาจ้องฉก

ชูให้ทุนเรียนฟรี

ตีโต้ ศุภนร ศุขสวัส ณ อยุธยา นักกรีฑายุวชนหนุ่มทีมชาติไทย ที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทอง กระโดดไกลและเหรียญเงินเขย่งก้าวกระโดด จากการแข่งขันกรีฑายุวชนชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 6 ที่ประเทศอิตาลี พร้อมด้วย นายเอกวิทย์ แสวงผล ผู้จัดการทีม ได้เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว ด้วยสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่เอสโอ 025 เมื่อ 13 ก.ค. โดยมี แฝดใหญ่ พล.ต.ต. สุรพงศ์ อริยะมงคล อุปนายกและเลขาธิการสมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทยฯ มาร่วมต้อนรับ

ศุภนร ศุขสวัส ณ อยุธยา กล่าวว่า ดีใจมากที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับไทยได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นแชมป์ระดับโลกรายการแรกในชีวิตหลังจากที่เข้าสู่วงการมาได้เพียง 2 ปี ส่วนอนาคตก็อยากติดทีมชาติต่อไป โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การคว้าโควตาไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งถือเป็นความฝันสูงสุดของนักกีฬาทุกคน และยังมั่นจว่าระยะเวลา 2 ปี จะสามารถพัฒนาตัวเองทำสถิติได้ถึง 8 เมตร อย่างแน่นอน

ทางด้าน พล.ต.ต.สุรพงศ์ อริยะมงคล กล่าวว่า ตีโต้ เป็นม้ามืดที่เราหวังไว้ลึกๆ ว่าจะสร้างผลงานได้ดี ซึ่งจากความสำเร็จครั้งนี้ทำให้ถูกจับตามองอย่างมาก พอแข่งเสร็จก็มีตัวแทนจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เข้ามาติดต่อขอตัวไปฝึกซ้อมทันที โดยพร้อมจะออกค่าใช้จ่ายและทุนการศึกษาให้ฟรีด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก แต่เราก็ต้องขอดูรายละเอียดให้รอบคอบก่อน เพราะเกรงว่าเมื่อส่งเด็กไปแล้วจะไม่พัฒนาฝีเท้าได้เท่ากับเก็บตัวอยู่กับสมาคมฯ หรืออาจจะถูกเอาไปดองไว้ก็ได้ ซึ่งนั่นเท่ากับเป็นผลร้ายมากกว่า เช่นเดียวกับการเสนอขอรับการสนับสนุนจากกองทุนโอลิมปิกโซลิดาริตี้ ผ่านทางคณะกรรมการโอลิม ปิคแห่งประเทศไทยฯ ก็จะขอพิจารณาอีกครั้งหากเห็นว่าทางไหนเหมาะสมกว่าก็จะดำเนินการทันที

แฝดใหญ่ กล่าวต่อว่า ศุภนร ก็จะเข้าแคมป์เก็บตัวกับสมาคมฯ ต่อทันที เพื่อเตรียมทีมซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ประเทศลาว ซึ่งเราจะให้ ศุภนร ลงชิงชัยร่วมกับ ธีรายุทธ พิลาคง นักกระโดดไกลรุ่นพี่ ที่เป็นหมายเลข 1 ของไทยในตอนนี้ ส่วน ยูธ โอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 1 ที่ประเทศสิงคโปร์ ในปีหน้า ตีโต้ จะลงแข่งไม่ได้เพราะอายุเกิน ขณะที่ เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 16 ที่ประเทศจีน ตีโต้ จะเป็นกำลังหลักของเราด้วยเช่นกัน

จากความสำเร็จครั้งนี้คาดว่าทางกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ จะมอบเงินรางวัลให้กับ ศุภนร เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 300,000 บาท แบ่งเป็นเหรียญทอง 200,000 บาท และเหรียญเงิน 100,000 บาท อีกด้วย.