ระบบที่ใช่ในใจ LVG

ระบบที่ใช่ในใจ LVG

ระบบที่ใช่ในใจ LVG
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผลงานของ “ปีศาจแดง” เมื่อสุดสัปดาห์คือการเปิดบ้านเฉือนชนะ คริสตัล พาเลซ ได้แค่ 1-0 อาจดูไม่ใช่ผลงานที่น่าพอใจนักสำหรับแฟนบอลและกองเชียร์เฉพาะกิจ แต่นี่เป็น 3 แต้มที่ทุกคนยอมรับได้จริงๆ ว่าล้ำค่าเหลือเกินสำหรับเวลาช่วงนี้ เพราะมันทำให้เราขึ้นไปอยู่ถึงอันดับ 7 ของตาราง

ก่อนที่ “ปีศาจแดง” จะกรีฑาทัพลงสนามในแต่ละเกมนอกจากจะสร้างความลำบากใจในการทำงานให้กับผู้จัดการทีม หลุยส์ ฟาน กัล แล้ว ก็ยังสร้างความอึดอัดใจให้กับแฟนบอลอย่างเราๆ ที่ต้องมาเกร็งกันจนแฉะกันตลอด 90 นาที แนวรุกที่ดีเป็นแถวหน้าของโลก แต่ตีบตันในหนทางในการส่งลูกไปกองก้นตาข่าย กับแนวรับที่เปื่อยยุ่ยยิ่งกว่ากระดาษทิชชู่ พร้อมเสียประตูได้ในทุกนาทีไม่ว่าคู่แข่งจะเก่งหรืออ่อนแค่ไหนก็ตาม ไม่เพียงเท่านั้น ยังโดนปัญหาอาการบาดเจ็บรุมสกรรมจนแทบจะพิกลพิการ บวกได้เรื่องนักเตะสมองลิงไปโดนไล่ออกแบบโง่ๆ จนตัวเลือกน้อยลง นัดที่เจอกับทีมส่วนล่างของตารางอย่าง คริสตัล พาเลซ ทำให้หน้ากลัวไม่ต่างการเจอกับทีมท็อปโฟร์

นี่คือแผนแรกที่ฟานกัลใช้ประเดิมทัวร์อเมริกา

ตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา ฟาน กัล เปลี่ยนแปลงทีมไปมากมาย ไม่ใช่แค่เรื่องของตัวผู้เล่น ที่เติมนักเตะระดับโลกเข้ามา โละแข้งที่ไร้ประโยชน์ออกไป เปลี่ยนแปลงทีมงานเป็นคนที่ตนไว้ใจ แต่ยังคงเก็บคนเก่าแก่ที่รู้งานอย่าง ไรอัน กิ๊กส์ เอาไว้ จัดการแต่งตั้งกัปตันทีมคนใหม่เป็นคนที่น่าจะเหมาะสมที่สุดในทีมชุดนี้ และที่สำคัญปรับปรุงระบบการเล่นให้เหมาะสมกับทีมมากที่สุด
 
ซึ่งข้อสุดท้ายนี่แหละที่ยากเย็นเข็ญใจเสียเหลือเกิน ทุกวันนี้ “แอลวีจี” ของเรา ยังคงยอมรับว่าตนเองก็ยังตามหาแผนการเล่นที่ใช่ของ “ปีศาจแดง” ต่อไป แม้ว่าจะเข้ามาคุมทีมเป็นเวลาเกือบครึ่งซีซั่นไปแล้วก็ตาม จากการเปลี่ยนแปลงทีมที่พังพินาศเมื่อซีซั่นก่อน ซึ่งเริ่มการซ่อมด้วยการเติมอะไหล่ดีๆ เข้าไป จะเป็นต้องหาวิธีการทำงานให้ของเหล่านั้นทำงานไปด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดูแล้วน่าจะเป็นงานหนักพอควร และคงไม่ใช่ในเวลาอันสั้นแน่นอน แต่ก็ไม่ควรจบฤดูกาลมือเปล่าแบบซีซั่นที่แล้ว

ระบบที่ฟานกัลปรับเปลี่ยนใช้งานช่วงทดลองทีม

แผนการแรกที่บรรจงวางเป็นระบบของทีมคือแผนการเล่นที่ประสบผลสำเร็จอย่างยิ่งในการพาทีมชาติ ฮอลแลนด์ ของตนประกาศศักดาคว้าอันดับ 3 ของโลกได้ในการละเลงแข้ง เวิลด์คัพ ครั้งล่าสุดที่ดินแดนแซมบ้า นั่นคือ 3-5-2 เซ็นเตอร์ 3 คนที่ไม่ได้แข็งแกร่งมากมายแต่มีความเข้าอกเข้าใจ การอ่านเกม การประสานงาน และประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม มิดฟิลด์ที่ผ่านบอลได้ดี วิงแบ็กที่เติมเกมรุกได้สูงและวิ่งกลับได้ทัน พร้อมทั้งเปิดบอลได้แม่นยำ บวกกับสองหัวหอกที่ผ่านบอลให้กันได้ดีและมีความเร็วเป็นหลัก ระบบนี้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งกับทีมในช่วงปรี-ซีซั่นที่สหรัฐอเมริกา พาทีมชนะได้หลายนัด พร้อมเกมรุกที่น่าตื่นตา แต่พอมาใช้จริงในเกมอย่างเป็นทางการนัดแรก ก็ประเดิมด้วยการแพ้คาบ้านต่อ สวอนซี ซิตี้ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
 
ด้วยตัวผู้เล่นที่ไม่พร้อม แนวรับที่ไม่เข้าขากัน และขาดประสบการณ์ แต่ทุกคนยังเชื่อในระบบ แต่กับอีก 3 เกมถัดมา 3-5-2 ก็ยังคงไม่อาจนำพาชัยชนะมาสู่ทีมได้ แถมยังตกรอบ แคปิตอล วัน คัพ ด้วยการแพ้ทีมรองบ่อนอย่าง เอ็มเค ดอนส์
 
สุดท้ายการได้ มาร์กอส โรโฮ เข้ามามีรายชื่อในทีม พร้อมทั้งการที่ทีมมีหัวหอกระดับโลกอย่าง ราดาเมล ฟัลเกา ทำให้ ฟาน กัล เลิกดื้อแพ่ง และปรับระบบมาเป็น 4-4-2 ไดมอนด์ หรือแบบที่เราเรียกว่าเหลี่ยมเพชร ที่เริ่มต้นได้อย่างงดงามที่การไล่ยำ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ได้ถึง 4-0 เหมือนที่ควรจะเป็นไปตามฟอร์มของทีม
 
การเริ่มต้นสวยงาม แต่เกมต่อมากลับมาสวยด้วย เพราะลูกทีมซาตานกลับบุกไปแพ้ทีมน้องใหม่อย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ 5-3 ทั้งที่ออกนำไปก่อนถึง 3-1 แต่ด้วยความย่ำแย่แบบไม่น่าให้อภัยของแนวรับ ทำให้ทีมต้องเสียประตูง่ายๆ แบบไม่น่าให้อภัยเช่นกัน นัดต่อมาก็กู้หน้าได้อีกครั้ง ด้วยการชนะ เวสต์แฮม 2-1 ในโรงละครแห่งความฝัน แต่ก็ต้องสังเวยด้วยใบแดงของกัปตันทีม เวย์น รูนีย์

แท็กติกและ 11 ผู้เล่นตัวจริงในฝันของสาวกปีศาจแดง

เกมต่อมาระบบยังคงเดิม ทำให้เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ได้ต่อไป แต่ก็ยังมีปัญาหานักเตะบาดเจ็บตามมา ซึ่งตอนนั้นคือ ราดาเมล ฟัลเกา ที่เริ่มปรับตัวเข้ากับทีมได้บ้าง นั่นทำให้ ฟาน กัล ต้องปรับระบบอีกครั้งและคราวนี้ปรับมายืนเป็น 4-2-3-1 ยอดนิยม ซึ่งสามารถปรับเป็น 4-1-4-1 ได้ โดยมี โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ลูกรักยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า และตามมาด้วยการย่ำแย่ลงของพิษสงในแนวรุกของทีม รวมไปถึงการแจ้งเกิดของลูกรักคนที่สอง อัดนาน ยานาไซ เด็กคนนี้อาจมีอนาคตจริง แต่ดูจะยังไม่ใช่ตอนนี้ ระบบนี้ไม่เอื้อให้ “ปีศาจแดง” ทำเกมรุกได้หลากหลายเหมือนระบบเหลี่ยมเพชร แต่เกมรับดูจะเหนียวขึ้น ไม่รู้ว่านั่นเพราะการขาด ไทเลอร์ แบล็คเก็ตต์ ไปหรือเปล่า เกมเจอ เวสต์บรอมวิช ก็เสมอ กลับมาเล่นในบ้านเจอ เชลซี ก็เสมอแบบฉิวเฉียด การออกไปเยือน แมนฯ ซิตี้ ก็เจอหายนะอีกครั้ง เมื่อ คริส สมอลลิ่ง โดนใบแดง พร้อมการบาดเจ็บของ มาร์กอส โรโฮ ซึ่งการกลับมาจากโทษแบนของ เวย์น รูนีย์ ในเกมนี้ก็ไม่ช่วยอะไร ทีมยังคงแพ้ต่อไป
 
จนนัดล่าสุดกับ พาเลซ ระบบนี้ยังถูกนำมาใช้ ส่วนหนึ่งเชื่อว่าเพราะ ฟาน กัล ต้องการความต่อเนื่องของตัวผู้เล่น ทำให้ลูกรัก ยานาไซ ยังได้ลงต่อเนื่อง สุดท้ายแม้จะชนะ แต่กุนซือชาวดัตช์น่าจะรู้แล้วว่า ระบบนี้ก็ยังไม่ “ใช่” เช่นกัน นัดหน้าคงต้องมีการเปลี่ยนแปลงบ้าง เพื่อรองรับนักเตะที่จะกลับมาจากการบาดเจ็บ พร้อมกับต้องให้โอกาสบางคนที่ฟอร์มดีกว่าลงเล่น โชคดีที่มีเบรคทีมชาติให้พักหายใจเกือบ 2 สัปดาห์เต็ม แต่ “แอลวีจี” คงไม่ได้หยุดคงมีการบ้านเป็นกองภูเขาให้รับมือกันต่อไป ซึ่งแฟนบอลอย่างเราๆ ก็ไม่ได้หวังอะไรมาก แค่หวังว่าจะดีขึ้นเท่านั้น

“สุกรโลกันต์”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook