รูนควงเวลเบ็คซัด! สิงโตพลิกตบสโลวีเนียนิ่ม3-1+คลิป

ทัพ "สิงโต" ลุ้นก่อนหลังถูก สโลวีเนีย นำจากการทำเข้าประตูตัวเองของ "เฮนโด้" ก่อนสุดท้าย "รูน" กับ "เทพเวล" ช่วยกันซัดพาทีมพลิกกลับมาคว้าชัยไป 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 12 แต้ม รั้งฝูงกลุ่มอี ต่อไป

การแข่งฟุตบอล ยูโร 2016 รอบคัดเลือกนัดที่สี่ ของกลุ่มอี เป็นการพบกันระหว่าง "สิงโตคำราม" ทีมชาติอังกฤษ เปิดสนามเวมบลี่ย์ ต้อนรับการมาเยือนของ ทีมชาติสโลวีเนีย

เริ่มเกมได้ 5 นาที สโลวีเนีย เกือบเป็นฝ่ายได้ช็อกเจ้าบ้านก่อน เมื่อ วอลเตอร์ เบียร์ซ่า จ่ายบอลไปถึง อันดราซ เคิร์ม ได้จังหวะโหม่งประตู แต่ โจ ฮาร์ท ยังไว คว้าบอลติดมือไว้ได้เสียก่อน

น.18 อังกฤษ มีลุ้นบ้าง จากจังหวะที่ นาธานเนี่ยล ไคลน์ หนีการประกบคู่แข่งไปได้ ก่อนส่งบอลไปให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้ซัด แต่บอลก็พลาดเป้าออกไปอย่างน่าเสียดาย

น.28 สโลวีเนีย เกือบได้ประตูจากลูกเตะมุม อันดราซ เคิร์ม โยนข้ามไปให้ มิลิโวเย โนวาโควิช วิ่งมาโขกที่เสาแรก แต่บอลกระดอนก่อนจะเฉี่ยวกรอบออกไปแบบมีลุ้นสุดๆ

ผ่านมาถึงนาที 38 เจ้าถิ่นยังชวดโอกาสทำประตูอีก แดนนี่ เวลเบ็ค ได้โอกาสซัดด้วยขวา จากจังหวะที่ เวย์น รูนี่ย์ เสียบอล แต่ลูกยิงก็ยังข้ามคานออกไปอีกเช่นเคย

จากนั้นไม่มีการยิงประตูเกิดขึ้น หมดครึ่งแรกทั้งสองทีมเสมอกันไปก่อน 0-0

กลับมาช่วงครึ่งหลังนาที 52 คีแรน กิ๊บสส์ มารับใบเหลืองเป็นคนแรกของเกม หลังเจตนาไปดึงใส่ วอลเตอร์ เบียร์ซ่า อย่างน่าเกลียด

แต่กลายเป็นว่านาทีที่ 57 สโลวีเนีย มาออกนำไปก่อนจนได้ 1-0 จากลูกฟรีคิก มิลิโวเย โนวาโควิช โยนเข้าไปในเขตโทษ บอลลอยเข้าหัว จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่พยายามโหม่งสกัดทิ้ง แต่โชคไม่ดีลูกลอยย้อยเข้าประตูไปชนิดที่ โจ ฮาร์ท ได้แต่ยืนมองเท่านั้น

น.59 อังกฤษ มาได้ลูกจุดโทษ จากจังหวะที่ บอสต์ยัน เซซาร์ ไปเตะใส่ เวย์น รูนี่ย์ เข้าที่เท้าจากด้านหลังจนล้มลง ผู้ตัดสินไม่รอช้าชี้เป็นลูกโทษแบบไม่ลังและแจกเหลืองให้เจ้าตัวแถมไปด้วย และเป็น รูนี่ย์ รับหน้าที่สังหารผ่านมือ ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช เข้าไปให้ทีมตีเสมอได้สำเร็จ 1-1 พร้อมกับเป็นประตูที่ 44 ของเจ้าตัวจากการเล่นเกมนัดที่ 100 ในนามทีมชาติ

น.63 ทีมเยือนเปลี่ยนตัวก่อน ถอด วอลเตอร์ เบียร์ซ่า ออกไป แล้วให้ เดยัน ลาซาเรวิช ลงสนามมาเสริมเกมรุกของทีมเพิ่มเติม

เกมมาถึงนาที 66 แฟนๆ ใน เวมบลี่ย์ ก็ได้เฮเต็มเสียง เมื่อทัพ "สิงโตคำราม" กลับมายิงประตูที่สองได้ อดัม ลัลลาน่า ลากเข้าไปซัดด้วยขวาติดเข่า ฮันดาโนวิช ที่ล้มตัวป้องกัน บอลลอยไปถึง มิโซ่ เบร็คโก้ โหม่งเคลียร์ไม่ดี ลูกกระดอนมาตรงกลางเขตโทษไปหา แดนนี่ เวลเบ็ค วิ่งมาซัดแบบไม่เต็มเท้า แต่บอลกลับลอยเสียบตาข่ายเข้าไปแบบได้ทิศทางพอดี อังกฤษ พลิกนำ 2-1

น.72 อังกฤษ ยิ่งเล่นก็ยิ่งได้ใจแถมมาทำประตูหนีห่างได้อีกเป็น 3-1 จากจังหวะที่ คีแรน กิ๊บสส์ ครองบอลฝั่งซ้ายก่อนป้ายต่อมาให้ เวลเบ็ค ที่อยู่หน้าเขตโทษจัดการชิ่งหนึ่งสองกับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ก่อนที่สุดท้ายดาวเตะจาก อาร์เซน่อล จะพักบอลด้วยหน้าขาแล้วซัดผ่านมือ ฮันดาโนวิช เข้าไปง่ายๆ และเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้อีกด้วย

น.75 หลังเสียประตู สโลวีเนีย ก็ตัดสินใจส่ง ราจโก้ ร็อตมาน เพิ่มเพื่อเปิดแลก โดยเอา ยัสมิน คูร์ติช ออกไปจากสนาม และถัดมาอีกสามนาทีทีมก็ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย ด้วยการส่ง ซลาตัน ลูบิยานคิช ลงมาแทน อันดราซ เคิร์ม

น.80 อังกฤษ เปลี่ยนตัวสำรองคนแรก ส่ง เจมส์ มิลเนอร์ ลงสนามเล่นเกมทางริมเส้นแทนที่ อดัม ลัลลาน่า

น.85 เจ้าถิ่นส่ง อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ลงสนามมาเป็นคนที่สอง โดยถอดเอา ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ออกไปพัก

น.89 ทัพ "สิงโตคำราม" ตัดสินใจถอด ฟิล จากีลก้า ออกไปเป็นคนสุดท้าย แล้วจัดการส่ง คริส สมอลลิ่ง ลงสนามมาช่วยคุมเกมรับแทน

ช่วงท้ายเกมไม่มีประตูเพิ่ม หมดเวลา อังกฤษ เอาชนะ สโลวีเนีย ไปได้ 3-1 ส่งผลให้ทีมยังครองอันดับ 1 ของกลุ่มอี ต่อไปได้สำเร็จที่ 12 คะแนน จากการลงสนามมาสี่นัด ส่วน สโลวีเนีย เล่นมาสี่นัดมีอยู่ 6 คะแนน อยู่ในอันดับ 2 ของกลุ่มต่อไป

รายชื่อผู้เล่น ทีมชาติอังกฤษ (4-3-1-2) : โจ ฮาร์ท - นาธานเนี่ยล ไคลน์, ฟิล จากีลก้า (คริส สมอลลิ่ง น.89), แกรี่ เคฮิลล์, คีแรน กิ๊บสส์ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, แจ็ค วิลเชียร์, อดัม ลัลลาน่า (เจมส์ มิลเนอร์ น.80) - ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน น.85) - เวย์น รูนี่ย์, แดนนี่ เวลเบ็ค
ผู้เล่นสำรอง : เบน ฟอสเตอร์ - เฟรเซอร์ ฟอสเตอร์ - คาลั่ม แชมเบอร์ส - รอสส์ บาร์คลี่ย์ - ธีโอ วัลค็อตต์ - สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง - ไซโด้ เบราฮิโน่ - ริคกี้ แลมเบิร์ต

รายชื่อผู้เล่น ทีมชาติสโลวีเนีย (4-1-4-1) : ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช - มิโซ่ เบร็คโก้, บอสต์ยัน เซซาร์, บรังโก้ อิลิช, อันดราซ สตรูน่า - อันดราซ เคิร์ม (ซลาตัน ลูบิยานคิช น.78) - วอลเตอร์ เบียร์ซ่า (เดยัน ลาซาเรวิช น.63), เควิน คัมเพิ่ล, ยัสมิน คูร์ติช (ราจโก้ ร็อตมาน น.75), อาเลส เมอร์เทจ - มิลิโวเย โนวาโควิช
ผู้เล่นสำรอง : แยน โอบลัค - วิด เบเลค - ซินิซ่า อันเดลโควิช - โดมินิค มาโรห์ - มาร์ติน มิเล็ค - มิราล ซามารด์ซิด - เซจโก้ ฟิลิปโปวิช - ดาลิบอร์ สเตวาโนวิช - เนจ เปกนิค
 
ผู้ตัดสิน : โอเลการิโอ เบนเกเรนก้า (โปรตุเกส)