ความสมดุลของขุมกำลัง...?

ความสมดุลของขุมกำลัง...?

ความสมดุลของขุมกำลัง...?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซืออาร์เซนอลบ่งบอกออกมาชัดเจนว่าอย่างเพิ่งตัดสินให้เชลซีและแมนเชสเตอร์ ซิตี้เป็นเพียง 2 ทีมที่ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ ลีก โปรแกรมช่วงนี้ รวมกับแชมเปี้ยนส์ ลีกและเอฟเอ คัพ มีโอกาสที่หลายอย่างจะพลิกโฉมหน้าไปจากเดิม งานนี้ เวนเกอร์ บอกว่าไม่ยอมความง่ายๆแน่นอน

ปล่อยให้สถานการณ์และละช่วงเวลาเข้ามาส่งผลกระทบค่อยว่ากันอีกครั้ง นาทีนี้เป้าหมายคงต้องชี้ไปที่ เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือ 2 ทีมที่ลุ้นแชมป์ 2 ทีมที่เบียดกันแน่นอน ขุมกำลังทุกพื้นที่มีการหยิบยกมาเปรียบเทียบกันโดยเดลี่ เมล์ นำมาฝากกันในวันนี้ครับ

ผู้รักษาประตู
สิงห์บลูส์ 9.5 : เรือใบสีฟ้า 9

แรงบันดาลใจของ โจเซ่ มูรินโญ่ ชัดเจนอย่างยิ่ง การดึง ธิโบต์ กูร์กตัวส์ กลับมาเพื่อมือหนึ่งของทีม ตัดสินใจแบบนี้เป็นการหนุนหลังกันเต็มๆ ย่อมสร้างความมั่นใจให้กับ กูร์กตัวส์ มากเป็นพิเศษ

โจ ฮาร์ท ฝีมือไม่ธรรมดาเช่นกัน ฤดูกาลที่ผ่านมาอาจจะถูกวิจาสรณ์มากหน่อย ทว่าตอนนี้ ฮาร์ท สามารถกลับมาอยู่ในฟอร์มที่มั่นคงอีกครั้ง มีซูเปอร์เซฟหลายต่อหลายครั้งให้เห็นกัน

แต่ กูร์กตัวส์ อยู่กับเชลซีที่สมดุลของทีมแน่นอนกว่า ทุกสิ่งอย่างหนุนเนื่องให้เป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดเท่าที่เชลซีเคยมีมาเลยทีเดียว

หากใครต้องการเลือกทีมยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก ไม่ว่าจะเป็นกลางเทอมหรือจบฤดูกาล ชื่อของ กูร์กตัวส์ ผุดขึ้นมาในความคิดแบบอัตโนมัติ

แนวรับ
สิงห์บลูส์ 9 : เรือใบสีฟ้า 9

หากทั้ง 2 ทีมแนวรับของตัวเองอยู่ในสภาพฟิตเต็มร้อย กินกันไม่ลงแน่นอน แต่ละสัปดาห์แนวรับของเชลซีมีผลงานที่ดีแทบตลอดเวลา ด้วยการเล่นร่วมกันมาก่อน เป็นตัวเดิมๆที่เข้าใจกันเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น จอห์น เทอร์รี่ ซึ่งเป็นบิ๊กบอสของแนวรับและของทีม

นอกจากนี้ยังมี แกรี่ เคฮิลล์, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช และ เซซาร์ อัสปิลิกวยต้า แข็งแกร่งและเหนียวแน่น มี ฟิลิเป้ หลุยส์ เข้ามาเสริมอีกคน ดูดีเข้าไปใหญ่

ทางฝั่งเรือใบมี ปาโบล ซาบาเลต้า, แวงซ็องต์ กอมปานี, เอเลียควิม ม็องกาล่า, มาร์ติน เดมิเคลิส, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ และ กาแอล กลิชี่ ทั้งหมดนั้นคือป้อมปราการดีๆนี่เอง หากฟิตและฟอร์มอยู่ในมาตรฐาน ยิ่งกว่าเหนียว...

มิดฟิลด์
สิงห์บลูส์ 9.5 : เรือใบสีฟ้า 9

เชลซี เสริมกำลังในแดนกลางด้วยการดึง เนมันย่า มาติช และ เชส ฟาเบรกาส เข้ามา ถือว่ายิ่งกว่าลงตัวซะอีก หากต้องการแมตช์วินเนอร์หรือตัวที่สามารถพลิกโอกาสให้กับทีมได้ ทั้ง 2 ทีมมีตัวแบบนี้ค่อนข้างเยอะ

เรือใบประกอบไปด้วย ดาบิด ซิลบา คนโตตัวเล็กของทีม, ซามีร์ นาสรี่ หาโอกาสเข้าทำตลอดเวลา และ ยาย่า ตูเร่ ที่ได้หมดทั้งเกมรุกและเกมรับ

ในขณะที่เชลซีประกอบไปด้วย วิลเลี่ยน, ออสการ์, อาซาร์ และ ฟาเบรกาส เทคนิคแต่ละคนเหลือล้นอยู่แล้ว แฟรงค์ แลมพาร์ด อาจจะโยกไปใส่เสื้อฝั่งตรงข้าม แต่การเข้ามาของ ฟาเบรกาส เต็มไปด้วยแอสซิสต์

นอกจากนี้ เนมันย่า มาติช ตัวเล่นเกมรับแดนกลางคือนักเตะที่สร้างสมดุลให้เชลซีเป็นอย่างมาก ฝั่งเรือใบ มี 2 คนที่เล่นคล้ายกันนั่นคือ แฟร์นานดินโญ่ กับ แฟร์นานโด ทว่าเทียบกันแบบเน้นๆ มาติช คือส่วนที่ทำให้แดนกลางของเชลซีเหลื่อมเรือใบอยู่นิดๆ

แนวรุก
สิงห์บลูส์ 9 : เรือใบสีฟ้า 9.5

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อาจจะดูเหลื่อมขึ้นมานิดหน่อยในพื้นที่ตรงนี้ ชื่อและผลงานของ กุน อเกวโร่ ค้ำคออยู่ชัดเจน ของเชลซีที่มี ดีเอโก้ คอสต้า ใช่ว่าจะแตกต่างกันมาก นี่คือศูนย์หน้าในสไตล์ที่น้ามูต้องการอย่างยิ่ง

สร้าง ดิดิเยร์ ดร็อกบา จนยิ่งใหญ่มาแล้ว ดีเอโก้ คอสต้า กำลังเดินตามเส้นทางนั้นอยู่ แต่ กุน อเกวโร่ ซึ่งอยู่ในระดับโลกที่แนวรับคู่แข่งหยุดยากมาก หากเรือใบต้องการเป็นแชมป์ ต้องภาวนาไม่ให้ อเกวโร่ บาดเจ็บบ่อยๆ

องค์ประกอบอื่นๆ เอดิน เชโก้ และ สเตฟาน โยเวติช ของเรือใบ ดิดิเยร์ ดร็อกบา และ โลอิก เรมี่ ของเชลซี ถือว่าไม่แตกต่าง

บทสรุป
สิงห์บลูส์ 37 : เรือใบสีฟ้า 36.5

เฉือนกันนิดเดียวในภาพรวมทั้งหมดของ 2 ทีมที่ลุลุ้นแชมป์กันจนถึงที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย เหลื่อมอยู่นิดๆต้องยกให้เชลซี กุนซือทั้ง 2 ทีมต่างไม่ยอมเป็นมิตรต่อกัน ห้ำหั่นตลอดทั้งเส้นทาง นั่นย่อมสร้างความเบิกบานให้กับแฟนบอล ถ้าจะเลือกแชมป์พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลนี้ ต้องเล็งไปที่เชลซีเป็นอันดับแรกครับ...

ดามัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook