ควันหลงจากแอนฟิลด์...?

ควันหลงจากแอนฟิลด์...?

ควันหลงจากแอนฟิลด์...?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เกมตัดเชือกแคปิตอลวัน คัพ นัดแรกที่แอนฟิลด์ผ่านพ้นไปด้วยการยังไม่มีผลแพ้ชนะเกิดขึ้น ตรงนี้แค่ครึ่งทางในการเดินไปสู่เวมบลีย์ มีงานให้ฟันฝ่ากันอีก 1 นัดที่สแตมฟอร์ด บริดจ์

จริงจัง...

ไม่มีวี่แววอะไรที่ลิเวอร์พูลและเชลซีจะเล่นของเบาๆกัน ใส่ของหนักลงไปเต็มที่เพื่อลุ้นความสำเร็จแรกของฤดูกาลนี้

โจเซ่ มูรินโญ่ กุนซือเชลซีมาเต็ม โดยปกติการโรเตชั่นจะเกิดขึ้นค่อนข้างชัดเจนในถ้วยนี้ น้ามู มีพักบ้างเหมือนกัน ให้ อัซปิลิกวยต้า กับ ออสการ์ นั่งชม ทว่าที่เหลือตัวเจ๋งๆทั้งนั้น ไม่มีการส่งดาวรุ่งลงไปหาประสบการณ์แต่อย่างใด

ชัดเจนว่าเป้าหมายทุกถ้วยที่มีส่วนร่วมกับการแข่งขัน จะไม่มีการปล่อยผ่านแน่นอน ยิ่งเข้ามาลึกขนาดนี้โอกาสที่จะเปลี่ยนตัวแทบยกทีมหรือครึ่งทีมเป็นไปได้ยากมาก

ทางฝั่งของหงส์แดงไม่ต้องพูดถึง อะไรที่ใกล้มือต้องคว้าไว้ก่อน พรีเมียร์ลีกไม่มีโอกาสลุ้นความสำเร็จเหมือนฤดูกาลที่ผ่านมา ในขณะที่แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ร่วงไปแล้ว ยูโรป้าลีกก็ยังมีเส้นทางอีกไกล

เพราะฉะนั้น เบรนแดน ร็อดเจอร์ส มาแบบเต็มเหนี่ยวทุกตำแหน่ง มีเรี่ยวมีแรงแค่ไหนปลดปล่อยออกไปให้หมด การทิ้งท้ายให้กับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ก่อนอำลาสโมสรไปในฐานะนักเตะเป็นแรงจูงใจที่เพิ่มเข้ามา

เซอร์ไพรส์...

การมาเยือนของเชลซีในเกมเมื่อคืนวันอังคาร เรื่องหนึ่งที่สร้างความกังวลให้กับแฟนบอลลิเวอร์พูล ซิมง มิโญเล่ต์ จะยืนระยะรับมือเกมรุกของเชลซีได้มากและนานขนาดไหน

สิ่งที่เซอร์ไพรส์มากๆก็คือ นอกจากจุดโทษจาก เอด็อง อาซาร์ ที่ยิงให้เชลซีขึ้นนำไปก่อน ที่เหลือ มิโญเล่ต์ แทบไม่ได้ทำงานของตัวเองเลย

สถานการณ์ค่อนข้างเงียบเชียบ แต่ก็ดีไปอย่างไม่ต้องลุ้นกันหนักหนาสาหัสมากนัก เหตุผลหลักก็คือเชลซีมีโอกาสยิงประตูลิเวอร์พูลแค่ 2 ครั้งเท่านั้น

ในขณะที่ฝั่งเจ้าบ้านมีโอกาสส่องถึง 19 ครั้ง นั่นทำให้ ซิมง มิโญเล่ต์ เหงาอย่างเดียวดายท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น

สตีเว่น เจอร์ราร์ด...

น้ามูออกมาแหย่ตั้งแต่เกมยังไม่เริ่มว่า แฟนบอลเชลซีอย่าไปล้อ เจอร์ราร์ด เกี่ยวกับการลื่นจนทำให้เสียประตูเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

เหมือนจะเป็นการห้ามปราม ทว่านั่นคือสิ่งที่จุดประกายให้แฟนบอลเชลซีได้ร้องเพลงล้อกันสนุกสนาน แน่นอนว่าไม่มีปัญหาต่อการรับมือเรื่องราวเหล่านี้ของกัปตันหงส์แดง

น่าเสียดายที่ยิงชนเสาไปลูกหนึ่ง ไม่อย่างนั้นคงทำให้แฟนบอลเชลซีหมดสนุก อย่างไรก็ตามเกมไปเยือนเชลซีที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ โดนหนักกว่านี้แน่นอน

ราฮีม สเตอร์ลิ่ง...

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ตัดสินใจส่งตัวไปพักร้อนเพื่อชาร์จพลังกลับมาอีกครั้ง หลังจากใช้งานอย่างหนักในการแบกรับภาระที่เกินตัวในช่วงเวลาที่ผ่านมา

เห็นกันชัดครับ สเตอร์ลิ่ง รับบทหนักจริงๆ ปล่อยไว้อย่างเดิมมีแต่จะเฉาไปเรื่อยๆ การได้พักช่วยได้จริงๆ สร้างความกระชุ่มกระชวยและความกระตือรือร้นได้เป็นอย่างดี

จังหวะกระชากผ่าน โอบี มิเกล, มาติช และ แกรี่ เคฮิลล์ ก่อนยิงผ่านมือ กูร์กตัวส์ เป็นคำตอบในการตัดสินใจของ ร็อดเจอร์ส ที่ให้ สเตอร์ลิ่ง ได้พักกลางเทอมเป็นพิเศษ

คูตินโญ่...

ไม่มีใครสงสัยเลยว่านักเตะแซมบ้าคนนี้มีพรสวรรค์และการพัฒนาที่รุดหน้าชัดเจน คูตินโญ่ ปรับตัวให้เข้ากับพรีเมียร์ลีก เข้ากับลิเวอร์พูลได้รวดเร็ว จนนาทีนี้กลายเป็นหัวใจสำคัญในเกมรุกของทีมไปเรียบร้อยแล้ว

การพยายามสร้างทีมใหม่ของ ร็อดเจอร์ส ย่อมมี คูตินโญ่ เป็นแกนหลักสำคัญ รางวัลแห่งความพยายามคือผลงานที่แสดงออกมา

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส อนุญาตให้ คูตินโญ่ เล่นเกมเดินหน้าอย่างอิสระ นั่นทำให้การเคลื่อนไหว การเดินเกมรุกเป็นไปอย่างธรรมชาติ ไม่ฝืนด้วยข้อจำกัดของกุนซือ

วันไหนที่ คูตินโญ่ โชว์ฟอร์มได้ดี เกมรุกของหงส์แดงในวันนั้นจะหวือหวา มีโอกาสส่องประตูคู่แข่งอยู่เรื่อยๆ ทว่าวันไหนเล่นไม่ออก หายไปจากเกมเป็นเรื่องเหมือนกัน มาตรฐานตรงนี้ยังคงต้องพยายามรักษาเอาไว้ให้ได้ต่อไป

ใจเย็นๆ...

ส่ง เจอร์ราร์ด ไปเวมบลีย์ เป็นแบนเนอร์ที่เดอะค็อปจัดให้กับกัปตันทีม เป็นการแสดงออกถึงความผูกพันกันอย่างชัดเจน

ก่อนที่จะแยกทางกันไปต้องมีอะไรเป็นพิเศษบ้าง นั่นคือการเก็บความสำเร็จไม่ว่าเป็นถ้วยไหนก็ได้ทั้งนั้นเป็นการทิ้งท้ายให้สวยงามที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เป็นการกระตุ้นทีมได้เป็นอย่างดี สังเกตได้จากการช่วยกันปิดทางเข้าทำของเชลซีจนมีโอกาสยิงเข้ากรอบเพียงครั้งเดียวคือจุดโทษของ อาซาร์ อีกจังหวะหนึ่งที่เชลซีมีโอกาสก็ไม่ใช่โอกาสที่ชัดเจน

ในขณะที่หงส์แดงมีโอกาส 19 ครั้ง เชลซีโชคดีไม่น้อยที่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ช่วยเซฟเอาไว้หลายจังหวะ อย่างไรก็ตามการไปเวมบลีย์ของแต่ละทีมนั้นไม่ใช่ของง่าย

การไปเยือนเชลซีคงต้องมีการแตกหักกันไปข้างหนึ่ง ยังไงก็ต้องมีผู้ชนะเกิดขึ้น ความยากคือการต้องเป็นทีมเยือนในเลกที่ 2

ส่ง เจอร์ราร์ด ไปเวมบลีย์ ยังคงต้องรอต่อไป ครึ่งทางเท่านั้นในสถานการณ์ของเกมตัดเชือกแบบเหย้าเยือน ทั้ง 2 ทีมยังคงมีโอกาสเท่าๆกัน อยู่ที่ใครจะใช้โอกาสดังกล่าวได้อย่างที่ต้องการ

ความคม...

หากลิเวอร์พูลต้องการพา เจอร์ราร์ด ไปเวมบลีย์ จริงๆ การไปเยือนเชลซีในเลกที่ 2 ของเกมตัดเชือกแคปิตอลวัน คัพ ต้องพกความคมติดตัวไปด้วย

ฤดูกาลที่แล้วแฟนบอลจะอุ่นใจกันทุกเกม เพราะสามารถลุ้นได้ว่าทีมสามารถสร้างสกอร์ได้ทุกเวลา ความเด็ดขาดในเกมรุกมีเต็มเปี่ยม

โชคไม่ดีของลิเวอร์พูล เรื่องราวดังกล่าวมาจาก หลุยส์ ซัวเรซ เป็นหลัก เมื่อย้ายออกไปสิ่งที่เคยมี สิ่งที่เคยได้หายไปเป็นปลิดทิ้ง

การสร้างโอกาสของทีมยังคงต่อเนื่องแม้จะไม่มากเท่าเดิม แต่ถือว่าใช้ได้ ทว่าการจบสกอร์ต้องให้คุ้มค่ามากกว่านี้ เกมที่แอนฟิลด์มีโอกาสยิงประตูเชลซี 19 ครั้ง แต่ได้กลับมาเพียงแค่ประตูเดียว

นั่นคือสิ่งที่เรียกกันว่าใช้โอกาสเปลือง ไม่ใช่เปลืองธรรมดา แต่เปลืองมากๆ เกมที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้องใช้ทุกจังหวะทุกโอกาสให้เด็ดขาดมากกว่านี้

จำเป็นที่นักเตะหงส์แดงต้องพกพาความคมกริบไปด้วย เป็นไปได้ที่สถานการณ์จะกลับกัน เป็นเชลซีมีโอกาสเยอะและหงส์แดงหาจังหวะปิดสกอร์ได้ยาก

เพราะฉะนั้นห้ามลืมความคมและความมั่นใจไว้ที่บ้าน ต้องพกไปแสดงให้ น้ามู เห็นว่าควรค่าแก่การไปเวมบลีย์กับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด จริงๆ

ดามัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook