อำลาดาร์บี้

อำลาดาร์บี้

อำลาดาร์บี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

90 นาทีที่กูดิสัน ปาร์ค ไม่ใช่เกม “เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้” ในแบบที่เคยคุ้น

ไม่ใช่เกมที่เปิดฉากแลกกันอย่างดุเดือด ไม่มีการปะทะที่หนักหน่วงให้เห็นมากนัก ไม่มีใบแดง แม้กระทั่งใบเหลืองยังเป็นของหายาก

ไม่มีการต่อสู้แบบถวายชีวิตให้เห็น

ความจริงมันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะในชีวิตคนเราใช่ว่าจะสุดขีดสุดขั้วได้ทุกเวลานาที

เพียงแต่มันอาจเสียดายและอดใจหายไม่ได้ เมื่อเห็นภาพของสตีเฟ่น เจอร์ราร์ด กับแววตาของคนหัวใจสลายเพราะทันทีที่สิ้นเสียงนกหวีดของแอนโธนีย์ เทย์เลอร์ นั่นหมายถึงนับจากนี้เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ กับเขาจะเป็นแค่เรื่อง “อดีต” เท่านั้น

ไม่มีอีกแล้วสำหรับสตีวี่ จี

นอกเหนือจากเอฟเวอร์โตเนียนและแมนคูเนียนแล้ว ผมเชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยอยากเห็น เจอร์ราร์ด ได้ประสบชัยชนะในเกมสำคัญๆที่เขาผูกพันทุกนัดในการเผชิญกับคู่แข่งแห่งโชคชะตา ในช่วงระยะเวลาไม่กี่เดือนที่เหลือก่อนจะจากลิเวอร์พูลไป

แต่ชีวิตคนเรานั้นใช่จะสมหวังได้เสียทุกอย่าง และเกมที่กูดิสัน ปาร์ค นั้นเป็นอีกครั้งที่เขาไม่สมหวัง

ไม่มีการปิดฉากตำนานแห่งเมอร์ซีย์ไซด์ด้วยชัยชนะ

สิ่งที่เจอร์ราร์ดทำได้คือการพยายามวิ่งให้ครบ 90 นาที ปลุกเร้าลูกทีม และพยายามประคับประคองการเล่นของตัวเองไม่ให้เป็นตัวถ่วงของทีมมากนัก ซึ่งถือว่ากัปตันลิเวอร์พูลทำได้ดีในระดับพอใช้

อย่างน้อย “แพสชั่น” หรือความรู้สึกอันแรงกล้าของเขาที่มีต่อการเล่นเกมดาร์บี้ สามารถแผ่ปกคลุมเกมได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ



จังหวะการกระโดดขึ้นตีลังกายิง รวมถึงการแปบอลหมายเสียบเสาไกลนั้นไม่ใช่วิธีการเล่นตามปกติวิสัยของเขา แต่ในยามที่แข้งขาอ่อนเปลี้ย การเล่นพลิกแพลงเพื่อไม่ให้คู่แข่งคาดเดาได้ง่ายเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าทำไมเจอร์ราร์ด จึงตัดสินใจเล่นเช่นนี้ในจังหวะแบบนั้น

ถึงอย่างนั้น “อิทธิพล” ของเขาที่มีต่อลิเวอร์พูลนั้นเหลือน้อยลงทุกที

แสงที่เคยเจิดจ้าร้อนแรงมันไม่สว่างเและอบอุ่นเหมือนเก่า

อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องธรรมดาของโลกครับ ไม่มีใครจะอยู่ยืนยงบนจุดสูงสุดได้ตลอดกาล นักฟุตบอลนั้นเกิดและดับไป มีเพียงสโมสรที่คงอยู่

ในแง่ดีอย่างน้อย เจอร์ราร์ด น่าจะพอได้เห็นแล้วว่าในหมู่มวลเด็กๆของเขานั้น หลายคนพยายามที่จะ “โต” ขึ้น เพื่อแบกรับทีมแทนเขาในวันข้างหน้า

เราพอได้เห็นประกายแสงวิบวับในหลายคนครับ แต่ที่ฉายเด่นหน่อยคือเอ็มเร่ ชาน ที่กลายเป็นสตาร์ในแนวรับของทีมได้อย่างเหลือเชื่อ

ชาน สามารถเผชิญหน้ากับ “อสูร” อย่างโรเมลู ลุคาคู กองหน้าที่ตลอดมาเป็น “ฝันร้าย” ของลิเวอร์พูลมาโดยตลอดได้อย่างน่าดูชม

ไม่เพียงแค่ไม่ยอมให้ผ่านได้ง่ายๆ ชานยังพร้อมชนกับดาวยิงร่างยักษ์ในทุกจังหวะ และแสดงออกให้เห็นชัดๆว่า “กูไม่กลัวมึง”

เช่นกันกับ โจ อัลเลน ที่จำเป็นต้องลงสนามแทนลูคัส ที่บาดเจ็บต้องเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ครึ่งแรก “ชาบี้แห่งเวลส์” ที่ฟอร์มตกมาตลอด เร่งฟอร์มกลับมาช่วยลิเวอร์พูล คุมเกมแดนกลางได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งตัดเกม ทำลายจังหวะ และประสานสิบทิศให้ทีมขับเคลื่อนได้

และอีกคนที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้คือเจ้าหนู จอร์ดอน ไอบ์ ที่ได้ลงสนามในฐานะตัวจริง และทำได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะจังหวะการลากเลื้อยทำเกม รวมถึงจังหวะส่องไกลในช่วงครึ่งแรกที่เกือบจะเป็นการแจ้งเกิดในฝันแล้ว

อนาคตของเด็กคนนี้น่าจับตามองครับ เป็นเพชรที่รอการเจียระไน ซึ่งมีโอกาสที่นักเจียระไนมือดีอย่าง ร็อดเจอร์ส จะปั้นขึ้นมาแทน ราฮีม สเตอร์ลิง ได้ในอนาคต



ด้านเอฟเวอร์ตัน แม้อยู่ในฐานะเจ้าบ้าน แต่ในวันที่กำลังใจอ่อนล้าพวกเขาทำได้ดีที่สุดเพียงแค่ประคองตัวไม่ให้ทีมพลาดพลั้งเสียทีต่อคู่ปรับร่วมเมืองเท่านั้น ซึ่งต้องชื่นชมกับแนวรับและมิดฟิลด์กันชนอย่าง แกเร็ธ แบร์รี่ ที่ตรึงกำลังรับกันได้ดี

คนเดียวของพวกเขาที่สร้างอันตรายได้ดีที่สุดคือ รอสส์ บาร์คลีย์ ซึ่งน่าเสียดายที่โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ให้โอกาสเล่นแค่ไม่ถึง 10 นาทีรวมช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

เพราะแม้จะเล่นแค่ไม่กี่นาที สายเลือดสเกาเซอร์แท้ๆเช่นเขากลับทำได้ดีกว่าแนวรุกเอฟเวอร์ตันทุกคนรวมกันเสียอีก

ในภาพรวมผลเสมอเมื่อถึงจุดสิ้นสุดเป็นผลการแข่งขันที่พอใช้ได้สำหรับทั้งสองฝ่าย

ไม่มีได้ ไม่มีเสีย มีแค่บอบช้ำและเจ็บตัว รวมถึงอาการอ่อนล้าที่น่ากังวล เพราะทั้งสองทีมดูหมดแรงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะลิเวอร์พูล ที่มีโปรแกรมโหดกับสเปอร์สในเกมวันอังคาร ซึ่งถ้าเล่นได้เท่านี้ก็น่าเป็นห่วงแทน

อย่างไรก็ดีเรื่องนั้นคงไม่ใช่สาระสำคัญอะไรนัก สามารถว่ากันภายหลังได้

เพราะ ณ เข็มนาฬิกาเดินไป ผมกำลังคิดถึงเด็กชายหัวขิงคนหนึ่งที่กระโดดเสียบสองเท้าใส่ เควิน แคมป์เบลล์ จนโดนใบแดง

บางที ผมเชื่อของผมเองว่าเจอร์ราร์ด อาจอยากให้เกมดาร์บี้สุดท้ายของเขาจบลงอย่างเร้าใจและน่าจดจำมากกว่าเกมธรรมดาๆนัดนี้


Football Insight
by ลูกแม่กิ่ง (lookmaeking@hotmail.com)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook