"เสือเหลือง" ที่กลับมาแล้วแบบไม่สุด!
ชัยชนะเหนือ “ม้าขาว” สตุ๊ตการ์ต 3-2 ที่เมอร์เซเดส เบนซ์ อารีน่าเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา เป็นการเก็บชัยชนะ 3 นัดติดต่อกัน ในบุนเดสลีกาของ “เจอร์เก้น คล็อปป์” และพลพรรคเสือเหลือง “โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์”
ทำให้ทีมที่จมบ๊วยในตารางหลังจบครึ่งฤดูกาลแรก ขึ้นมาอยู่กลางตารางจนได้
อย่างไรก็ตาม งานหนักของขุนพลเสือเหลืองยังไม่หมดแม้จะได้ความมั่นใจกลับมาพอสมควรจาก 9 คะแนนเต็ม ที่ได้มาเพราะปัญหาของทีมโดยเฉพาะเกมรับที่หมูตู้เหลือเกิน ยังไม่หมดสิ้น
นัดก่อนหน้านี้ที่ชนะ “น้องไมนซ์” แนวรับของทีมก็เสียไปถึงสองประตู หรือนัดล่าสุดที่ชนะ “สตุ๊ตการ์ต” ก็เสียสองประตูจากจังหวะที่มีส่วนจากความผิดพลาดของเกมรับทั้งสิ้น
อย่างที่ทราบกันดีตั้งแต่ก่อนเปิดฤดูกาลว่าทีมเดียวที่จะหยุดความร้อนแรงของ “พี่เสือ” บาเยิร์น มิวนิค ภายใต้การนำของ “เป๊ป กวาร์ดิโอล่า” คือทีมสีเหลืองจากเกลเซ่นเคียร์เช่นทีมนี้
แต่ไปๆ มาๆ ผลงานของทีมกลับสร้างความผิดหวัง ไม่ใช่แค่จะมาหยุดเสือใต้ แต่แค่เอาตัวให้รอดยังยากตลอด 18 นัดแรก ที่ลงสนาม
ช่วงพักครึ่งฤดูกาลก็ยังมีเรื่องดีๆ ไม่ว่าจะเป็นการยืนยันของฝ่ายบริหารสโมสรว่าจะให้โอกาส “เจอร์เก้น คล็อปป์” กุนซือที่พาทีมประสบความสำเร็จได้แชมป์บุนเดสลีกา 2 สมัย เดเอฟเบ โพคาล 1 สมัยและรองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2012-2013 ทำทีมต่อ
บวกกับข่าวดีที่ “มาร์โก รอยส์” จอมทัพคนสำคัญของทีมที่กำลังถูกยักษ์ใหญ่ในยุโรปรุมจีบก็ตัดสินใจต่อสัญญากับทีมออกไปอีก เพราะสัญญาฉบับเก่าจะหมดลงหลังจบฤดูกาลหน้า ดังนั้นไม่แปลกที่ “ขวัญกำลังใจ” ของนักเตะคนอื่นภายในทีมจะกลับมา
บางทีโลกของฟุตบอลก็คงไม่มีทางเข้าใจได้ จากทีมที่ไร้เทียมทานแม้กระทั่งวัดรอยเท้ากับมหาอำนาจลูกหนังตัวจริงของลีกอย่าง “บาเยิร์น” จะตกต่ำลงได้เพียงชั่วข้ามคืน ทั้งๆ ที่การเปลี่ยนแปลงภายในทีมถือว่าน้อยมาก
แกนหลักทั้งหลายที่ประสบความสำเร็จร่วมกันมาอย่าง “มาร์โก รอยส์” “นูริ ซาฮิน” “อินคาย กุนโดกัน” “ชินจิ คางาวะ” “ลูคัสซ์ พิสซ์เช็ค” “มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์” “เนเว่น ซูโบติช” “มาร์เซล ชเมลเซอร์” หรือ “ยาคลุ้บ บลาสซีคอฟสกี้” ที่เจ็บอยู่ ยังอยู่กับทีมเหมือนเดิม
บางทีทีมดอร์ทมุนด์ชุดนี้เป็นภาพสะท้อนของสัจธรรมความจริงที่ว่า ทุกอย่างเมื่อมีจุดสูงสุดก็ย่อมมีจุดต่ำสุดได้เหมือนกัน เพราะผลงานที่ตกต่ำของทีมไม่ได้เกิดจากเรื่องของการเงินที่ต้องขายนักเตะกินยกชุดเหมือนหลายๆ ทีม
แต่การที่นักเตะบางคน เช่น “โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้” ย้ายทีมออกไปมาจากเหตุผลทางฟุตบอลเพียงอย่างเดียวล้วนๆ
ขณะที่ตัวที่ซื้อเข้ามาอย่าง “ชิโร่ อิมโมบิเล่” ที่ตอนนี้ฟอร์มตก หรือ “ปิแอร์ เอเมริค-โอบาเมย็อง” ก็พอถูไถทดแทนได้ แม้อาจจะไม่ดีเท่าก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ปัญหาของทีมที่ยังมองว่าเป็นจุดอ่อนก็คือ “เกมรับ” ที่ยังมีข้อผิดพลาดอยู่บ้างเหมือนเดิม แถมเกมยุโรปอย่าง “แชมเปี้ยนส์ลีก” ก็กลับมาแล้ว โดยทีมจะเจอกับ “ยูเวนตุส” ทีมเก่งจากอิตาลีในนัดหน้าด้วย
งานนี้ต้องบอกว่า “ดอร์ทมุนด์” เหนื่อยแน่ เพราะถึงจะกลับมาได้จริงแต่มองว่ามาแบบไม่สุด ยังมีตำหนิพอสมควร
คิดแล้วก็แสนเหนื่อยใจแทนบรรดาแฟนเสือเหลืองจริงๆ นะครับ