"ปาร์ม่า" ก่อนจะเหลือเพียงความทรงจำ...

"ปาร์ม่า" ก่อนจะเหลือเพียงความทรงจำ...

"ปาร์ม่า" ก่อนจะเหลือเพียงความทรงจำ...
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม้จนถึงวันนี้จะยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการต่ออนาคตของ “จัลโล่บลู” ปาร์ม่า หลังมีกระแสข่าวสะพัดถึงเรื่องอนาคตที่ใกล้ดับสูญของพวกเขา ท่ามกลางการเอาใจช่วยของใครหลายคนที่อยากเห็นอดีตทีมดังในช่วงยุค 90 กลับมายืนหยัดได้อีกครั้ง

แต่ความหวังของทีมที่จะอยู่รอดในธุรกิจฟุตบอลนั้นเหลือไม่มากเท่าไหร่นัก เมื่อสิ่งที่สโมสรต้องการไม่ใช่เรื่องของ “กำลังใจ”

หากแต่เป็นเรื่อง “กำลังเงิน” เท่านั้น

อเลสซานโดร ลูคาเรลลี่ กัปตันทีมคนปัจจุบันยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า “เวลานั้นใกล้จะหมดลงเต็มที”

แน่นอนครับว่า ย่อมมีคำถามต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

อะไรที่ทำให้ทีมที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นทีม “ทางเลือก” ของวงการฟุตบอลอิตาลี ที่ปั้นซูเปอร์สตาร์ระดับเวิลด์คลาสมามากมาย และครั้งหนึ่งเคยถึงขั้นคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ (ดั้งเดิม) ได้ในปี 1995 ด้วยการล้มมหาอำนาจของประเทศอย่างยูเวนตุสลงได้ ต้องตกอยู่ใต้สถานการณ์เช่นนี้

แชมป์ยูฟ่า คัพ 1995 ชุดที่มีสตาร์ดังเพียบ

สถานการณ์ที่พวกเขาไม่มีเงินแม้กระทั่งจะซื้อน้ำดื่มให้นักฟุตบอลได้ดื่มระหว่างการซ้อม

ความจริงแล้วผลงานของปาร์ม่า ในช่วงที่ผ่านมาเองไม่ได้เลวร้าย พวกเขาคว้าอันดับ 6 ได้ในกัลโช่ เซเรีย อา ฤดูกาลที่แล้วภายใต้การนำของโรแบร์โต้ โดนาโดนี่ อดีตโค้ชทีมชาติอิตาลี และทำให้ทีมได้สิทธิ์กลับไปเล่นในรายการสโมสรยุโรปเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2007

ดังนั้นเรื่องผลงานตกต่ำจึงไม่ใช่ประเด็น

สิ่งที่เป็น “ระเบิดเวลา” ลูกใหญ่คือ ปัญหาทางการด้านเงินของทีมที่หมักหมมมาอย่างยาวนาน

ปาร์ม่า มีหนี้สินจำนวนมหาศาล และทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินค่าเหนื่อยให้กับผู้เล่นได้ จนส่งผลให้ไม่สามารถจะลงเล่นในยูโรป้า ลีกได้เนื่องจากผิดต่อกฏของยูฟ่า ที่เน้นเรื่องการเงินอย่างเข้มข้นในเวลานี้

ปัญหาทางการเงินที่ทำให้พวกเขาไม่ได้จ่ายเงินให้กับนักฟุตบอลและสตาฟฟ์ในทีมเลยตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา ทำให้ทีมถูกเลกา กัลโช่ ลงโทษตัดแต้ม 10 คะแนน พร้อมกับจมปลักอยู่อันดับสุดท้ายของเซเรีย อา และแทบไม่เหลือความหวังที่จะอยู่รอดในลีกสูงสุดต่อไปในฤดูกาลหน้า

มาเนนติ เจ้าของคนปัจจุบัน

สถานการณ์นั้นมืดมนอนธการ เมื่อไม่มีนายทุนคนใดที่มีศักยภาพจะฉุดพวกเขาให้พ้นจากหุบเหวนรกได้ ทั้งที่มีการเปลี่ยนมือเจ้าของสโมสรถึง 2 ครั้งในช่วงระยะเวลาสั้นๆแค่ 2 เดือน แต่เจ้าของคนปัจจุบัน จามปิเอโตร มาเนนติ ไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรให้กับทีมได้อย่างที่ประกาศเอาไว้เมื่อครั้งเข้ามาเทคโอเวอร์

เฟเดริโก้ ปิซซาร็อตติ ผู้ว่าการเมืองปาร์ม่า ยืนยันว่าเวลานี้ทีมนั้นไม่เหลืออะไรแล้ว และทางออกเดียวอาจเป็นการปล่อยให้คนอื่นเข้ามาเทคโอเวอร์แทน

แต่คำถามสำคัญคือใครเล่า?

ใครเล่าจะกล้าเข้ามาแบกรับภาระหนี้สิน 197.4 ล้านยูโรของปาร์ม่า ทีมในเมืองเล็กๆที่ไม่ได้มีศักยภาพในตลาดลูกหนังโลกมากขนาดนั้น

มินา รูกิ นักข่าวสายฟุตบอลอิตาลีคนหนึ่งเชื่อว่า “ราก” ของความเสื่อมสลายนั้น เกิดขึ้นตั้งแต่การเข้ามาเทคโอเวอร์ของ ตอมมาโซ่ จิราร์ดี้ อดีตเจ้าของทีมเมื่อปี 2007

"สถานการณ์ตอนนี้ แค่น้ำเปล่าในสนามซ้อมเรายังไม่มีดื่มกันเลย" เฮอร์นัน เครสโป อดีตดาวเตะชื่อดังของทีม/โค้ชเยาวชนในปัจจุบัน

เมื่อครั้งที่จิราร์ดี้ เข้ามาเทคโอเวอร์ทีมนั้น ปาร์ม่า มีหนี้สินเพียง 16.1 ล้านยูโรเท่านั้น แต่เวลาผ่านมา 7 ปี หนี้สินดังกล่าวเพิ่มเป็น 197 ล้านยูโร โดยที่ต่อให้ตัดโน่นตัดนี้ก็ยังเหลือจำนวนหนี้สินเต็มๆที่ต้องชำระอีก 97 ล้านยูโร

การบริหารที่ผิดพลาด ขาดวิสัยทัศน์ และปราศจากความระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจของจิราร์ดี้ เป็นต้นเหตุของหายนะครั้งนี้

มีการเปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจคือในช่วงระยะเวลาสั้นๆเพียง 1 ปี ปาร์ม่า มีความข้องเกี่ยวกับการโยกย้ายผู้เล่นมากถึง 450 ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขาย การยืมตัว หรือการเป็นเจ้าของร่วม ซึ่งทั้งหมดสะท้อนให้เห็นถึงความเละเทะในการบริหารของจิราร์ดี้

ดังนั้นต่อให้ขายสโมสรให้ดาสตราโซ กลุ่มทุนจากไซปรัส เมื่อเดือนธันวาคม ก่อนที่กลุ่มดังกล่าวจะประเมินโอกาสแล้วพบว่าไม่สามารถบริหารให้ทีมรอดได้จึงขายต่อให้กลุ่มทุนจากสโลวีเนียที่ชื่อ มาปิ (Mapi) ที่นำโดย มาเนนติ ทุกอย่างนั้นมันสายเกินไปแล้ว

ไม่ต่างอะไรจากการเข้ารับการรักษา ทั้งที่รู้ว่าเป็นโรคร้ายในระยะสุดท้าย

ปาร์ม่า เหลือเวลาไม่มากนักก่อนที่จะมีการตัดสินจากศาลว่าทีมจะเข้าสู่ภาวะล้มละลายหรือไม่

เรื่องนั้นน่าเศร้ามากขึ้นไปอีก เมื่อได้เห็นความพยายามจากผู้เล่นที่พร้อมจะออกเงินจ่ายค่าเดินทางกันเองเพื่อไปแข่งในเกมกับเจนัว ในสุดสัปดาห์นี้หากสโมสรไม่สามารถจ่ายเงินค่ารถบัสให้ได้

ลาก่อน จัลโล่บลู

การยกเลิกเกมกับอูดิเนเซ่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมามันเลวร้ายเกินกว่าที่ผู้เล่น “จัลโล่บลู” จะทำใจยอมรับได้ และพวกเขาไม่ต้องการจะให้มันเกิดขึ้นอีกครั้ง

ไม่ต้องพูดถึงเหล่าแฟนบอลและชาวเมืองที่ต่างเดือดดาลกับการต้องเห็นทีมรักที่เคยเป็นความภูมิใจของพวกเขาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้

ก่อนนี้เมื่อพูดถึงปาร์ม่า ทุกคนจะรู้จักเพียงแค่แฮม และผลิตภัณฑ์จากนมวัวเช่น ชีส จนกระทั่งคาลิสโต้ ตาสซี ผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตอาหารปาร์มาลัต เข้ามาเทคโอเวอร์ทีมและพลิกให้ปาร์ม่า กลายเป็นทีมระดับท็อปของประเทศ

นับจากเลื่อนชั้นสู่เซเรีย อา ในปี 1990 พวกเขาคว้าแชมป์โคปา อิตาเลียได้ 3 ครั้ง, อิตาเลียน  ซูเปอร์ คัพ 1 ครั้ง, ยูฟ่า คัพ 2 ครั้ง, ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ 1 ครั้ง และยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 1 ครั้ง และเคยเป็นรองแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา 2 ครั้ง

เพียงแต่ยุคทองนั้นอาจกล่าวได้ว่าจบลงตั้งแต่ครั้งที่ปาร์ม่าลัตล่มสลาย ตานซี่ถูกตัดสินให้จำคุก 18 เดือนจากคดีทุจริต และจากวันนั้นถึงวันนี้ 11 ปี

ปาร์ม่า กำลังจะปิดฉากตำนานเทพนิยายของทีมแห่งแคว้น เอมิเลีย-โรมันญ่า ในเร็ววันนี้

ลูกแม่กิ่ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook