ไทยพรีเมียร์ลีก VS วีลีก กับการให้สิทธิ์ที่ผิดพลาดของ AFC! +คลิป

ไทยพรีเมียร์ลีก VS วีลีก กับการให้สิทธิ์ที่ผิดพลาดของ AFC! +คลิป

ไทยพรีเมียร์ลีก VS วีลีก กับการให้สิทธิ์ที่ผิดพลาดของ AFC! +คลิป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศึกฟุตบอลระดับสโมสร ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชียอย่าง “เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก” ก็ผ่านพ้นการแข่งขันในสัปดาห์ที่ 2 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ

แม้จะยังไม่ถึงครึ่งทางของรอบแบ่งกลุ่ม แต่สำหรับเรื่องราวบางสิ่งในการแข่งขันครั้งนี้ก็พอจะมองเห็นบทสรุปกันบ้างแล้ว

นั่นก็คือการให้โควต้าสโมสรที่เข้าร่วมการแข่งขันในฤดูกาลนี้ ของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี ที่ต้องบอกว่า “ผิดพลาด” อย่างปฏิเสธไม่ได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน “โซนตะวันออก”



สิ่งทีชี้นำให้ผมคิดเช่นนี้ก็มาจาก “ผลงาน” ของทีมสโมสรจาก “วีลีก” ของ เวียดนาม ที่ได้สิทธิ์จากเอเอฟซี 1+1 ทีม

ซึ่งก็คือ 1 ทีมผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายเลยและอีก 1 ทีมลงเล่นในรอบเพลย์ออฟ

ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่าสาเหตุที่ทำให้ “วีลีก” ของเวียดนามได้โควตาเช่นนี้ ก็มาจากการที่เอเอฟซีนั้น มีกฏที่ใช้ประเมินให้สิทธิ์ด้วยการพิจารณาความพร้อมในด้านต่างๆ

รวมถึงผลงานในระดับทีมชาติและสโมสรของชาติสมาชิกทั้งหมด ก่อนจะคิดออกมาเป็นคะแนน ซึ่งชาติสมาชิก 12 อันดับแรกจาก “โซนตะวันตก” หรือกลุ่มประเทศที่อยู่ทางซีกซ้ายของอินเดีย

ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาติอาหรับ และ 12 อันดับแรกจาก ”โซนตะวันออก” หรือประเทศทางซีกขวานับตั้งแต่อินเดียเป็นต้นมา ถึงจะได้สิทธิ์มีตัวแทนเข้าร่วมการแข่งขัน “เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก”



และเวียดนามก็ผ่าน “เกณฑ์” ของเอเอฟซี โดยมีคะแนนอยู่ในอันดับที่ 6 ของ “โซนตะวันออก” นั่นจึงทำให้เอเอฟซีพิจารณาให้ได้โควต้า 1 + 1 ดังกล่าว

พูดตามตรงนะครับผมรู้สึกตะขิดตะขวงใจ กับวิธีการประเมินของเอเอฟซีในครั้งนี้อยู่มาก

เพราะจากการติดตามวงการฟุตบอลเอเชียมาพอสมควร ผมคิดว่ามาตรฐานของ “วีลีก” นั้นยังต่างจากลีกหัวแถวของชาติเอเชียใน “โซนตะวันออก” อย่าง เจลีก , เคลีก , ไชนิส ซูเปอร์ลีก และ เอลีก อยู่มากทีเดียว

เอาจริงๆไม่ได้เข้าข้างประเทศตัวเอ งแต่ผมคิดว่า “ไทย พรีเมียร์ลีก ของเราก็ยังมีมาตรฐานเหนือกว่า “วีลีก” อยู่พอสมควร



รวมถึงตลอดหลายปีที่ผ่านมาสโมสรจาก “วีลีก”เอง ก็ไม่ได้แสดงศักยภาพให้เห็นเลย ว่าสามารถยกระดับขึ้นมาเทียบเคียงกับการเล่นในถ้วยสโมสรใหญ่สุดของทวีปเอเชียได้

แตกต่างจาก ไทยพรีเมียร์ลีก ที่มีทีมอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นขาประจำของถ้วยใบนี้ และพวกเขาก็ได้แสดงฝีไม้ลายมือพิสูจน์ตัวเองให้ทั่วทั้งทวีปได้เห็นมาแล้ว

ด้วยเหตุนี้เองผมจึงไม่เห็นด้วยที่ตัวแทนจาก “วีลีก” จะได้สิทธิ์อัตโนมัติเลย 1 ทีม และคิดว่าควรจะได้สิทธิ์ในรอบเพลย์ออฟเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่ามีศักยภาพที่พร้อมเสียก่อน

เนื่องจากหากทีมที่ยังมีคุณภาพและมาตรฐานไม่ถึงขั้นต้องมาเจอกับยอดทีมชั้นนำของทวีปเอเชียมันจะทำให้เกิด “ความต่างชั้น” หรือที่เรียกว่า “เอาท์คลาส” ในภาษาฝรั่งเกิดขึ้น

ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้ความเข้มข้นของเกมการแข่งขันลดลงจนไม่สมศักดิ์ศรีถ้วยสโมสรใบใหญ่ที่สุดของทวีปที่มีฐานะเทียบเท่ากับ “ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก” เลยทีเดียว

และสิ่งที่ผมคาดคิดไว้ก็เป็นจริง...



เมื่อตัวแทนจาก “วีลีก” ของเวียดนามแสดงให้เห็นว่าศักยภาพของพวกเขานั้นยังไม่พร้อมสำหรับถ้วยสโมสรใบใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชียเช่นนี้จนทำให้เกิด “ความต่างชั้น” ขึ้น

ตั้งแต่รอบเพลย์ออฟที่  ทีแอนด์ที ฮานอย บุกไปแพ้ เอฟซี โซล ยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ 7 – 0 กระเด็นตกรอบและการพ่ายแพ้ 2 นัดรวด

ใน “กลุ่มอี” ของ เบคาเม็กซ์ บิน เดือง ตัวแทนจาก “วีลีก” ที่ได้สิทธิ์อัตโนมัติในรอบสุดท้าย ทั้งการพ่ายแพ้คาบ้านต่อ ชานดง ลู่เหนิง 2 – 3 และบุกไปแพ้ คาชิว่า เรย์โซล 5 – 1 ชนิดสู้ไม่ได้จนครองบ๊วยของกลุ่ม ณ ขณะนี้

ฉะนั้น! มันจึงเป็นการให้สิทธิ์ที่ผิดพลาดของเอเอฟซี ที่เลือกหยิบยกโอกาสให้กับตัวแทนสโมสรจากเวียดนาม แบบอัตโนมัติเลยทันที เพียงแค่คะแนนผ่าน “เกณฑ์” ที่ตั้งไว้



โดยไม่ได้ดูจากความเป็นจริง จนทำให้ความเข้มข้นของการแข่งขันฟุตบอลรายการสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชียขาดความเข้มข้นลงไปเลย 1 กลุ่มอย่างน่าเสียดาย

สู้เอาสิทธิ์แบบอัตโนมัติให้ตัวแทนจาก “ไทย พรีเมียร์ลีก” อย่าง ชลบุรี เอฟซี ที่แสดงผลงานในรอบคัดเลือกได้อย่างยอดเยี่ยม จนได้รับคำชื่นชมยกย่องไปทั่วทั้งทวีปไปลุยแทนยังดีซะกว่า!

<< คลิปบุรีรัมย์ บุกชนะ กว่างโจว อาร์แอนด์เอฟ 2-1>>

 

<< คลิป  บิน เดือง บุกพ่าย คาชิวะ เรย์โซล 1-5 >>

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook