โค้งสุดท้ายบอลผู้ดี

โค้งสุดท้ายบอลผู้ดี

โค้งสุดท้ายบอลผู้ดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ใน 4 ลีกหลักของยุโรป อันได้แก่ พรีเมียร์ลีก, บุนเดสลีกา, กัลโช่ เซรี่ อา และ สแปนิช ลาลีกา ที่ต่างกำลังจะเดินหน้าเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายในซีซั่นนี้

ดูเหมือนว่า ที่เยอรมนี และ อิตาลี ตำแหน่งแชมป์ของปีนี้ ไม่น่าจะมีปัญหาสำหรับ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค และ "ม้าลาย" ยูเวนตุส ขึ้นอยู่กับว่า ทั้ง เสือใต้ และ ม้าลาย จะคว้าแชมป์ได้เมื่อไหร่ เร็ว หรือ ช้า แค่นั้นเอง

ที่ดูตื่นเต้นขึ้นมา และน่าจะตื่นเต้นสุดๆ นับจากนี้ไป เห็นจะเป็นสถานการณ์ของศึกลาลีกา สเปน หลังผ่านเกมเมื่อคืนวันเสาร์ (7 มี.ค.) ที่ผ่านมา เมื่อทีม "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ดันไปพลาดท่าปราชัยต่อ แอธเลติก บิลเบา แบบพลิกล็อก 0-1 ประตู

ส่งผลให้ ความได้เปรียบ กับการเดินหน้าสู่แชมป์ของพวกเขา พลิกกลับมาเป็น "เสียเปรียบ" ทันที เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา บาร์เซโลน่า สามารถเอาชนะ ราโย บาเญกาโน่ ได้ ไปได้ 6-1

การขับเคี่ยวระหว่าง ทีมชุดขาว กับ เอเลี่ยนทีม "บาร์เซโลน่า" และอาจจะรวมถึง แอตเลติโก มาดริด คาดว่าจะดุเด็ดเผ็ดมันไปยันท้ายซีซั่น เหมือนเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา และ ลาลีกา ยังเป็นลีกทีมจะต้อง "ลุ้น" กันสุดๆ มากกว่าอีก 3 ลีกที่เหลือแน่ๆ

ส่วนที่อังกฤษ การขับเคี่ยวเพื่อลุ้นแชมป์ ดูจะไม่สนุกตื่นเต้นสักเท่าไหร่ แม้ว่าในช่วงก่อนหน้านี้ จ่าฝูงอย่าง "สิงห์น้ำเงินคราม" เชลซี จะมี "สะดุด" ไปบ้าง



แต่ดูเหมือนว่า การสะดุดของพวกเขานั้น มีน้อยกว่าคู่แข่งสำคัญอย่างทีมแชมป์เก่า "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ ที่พลาดแล้วพลาดเล่า พลาดบ่อยกว่าทีมจ่าฝูงซะอีก

มาถึงตอนนี้ เชลซี ของกุนซือโจเซ่ มูรินโญ่ มีแต้มสะสม นำหน้า แมนฯ ซิตี้ อยู่ 5 คะแนน แถมแข่งน้อยกว่า 1 นัดอีกต่างหาก

ปีที่แล้ว แมนฯ ซิตี้ สามารถพลิกสถานการณ์จากการเป็นผู้ตาม ไล่แซง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล จนก้าวไปคว้าแชมป์ในบั้นปลายได้แบบต้องลุ้นกันยันนัดสุดท้าย

แน่นอนว่า ปีนี้ มานูเอล เปเญกรินี่ และลูกทีม น่าจะยังแอบ "หวัง" ว่าพวกเขาจะทำได้เหมือนเมื่อปีก่อน การมีแต้มตามหลังอยู่ 5 แต้ม แถมคู่แข่งมีแมตช์ในมืออยู่อีก 1 แมตช์ ถือเป็นแต้มที่อยู่ใน "วิสัย" ที่ทีมแชมป์เก่าของกุนซือ มานูเอล เปลเญกรินี่ ยังพอมีทางจะไล่ทัน หากว่ากัน

ตามทฤษฎี แต่กับการ "ปฏิบัติ" จริงแล้ว ทีมของกุนซือเปเญกรินี่ จะทำได้หรือ?



ดูจากโปรแกรมที่เหลืออยู่ ทีมของกุนซือเปเญกรินี่ เหลือโปรแกรมหนักกับทีมระดับท็อป เพียงแค่การพบกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมดาร์บี้แมตช์ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด วันที่ 12 เมษายน นอกนั้น ถือเป็นโปรแกรมที่ไม่ได้หนักหนาสาหัสสักเท่าไหร่เลย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับ เชลซี ที่ยังมีโปรแกรมหนักอยู่ถึง 3 นัด ก็คือ เจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เดอะบริดจ์ ในวันที่ 18 เมษายน ตามด้วยการไปเยือน "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในนัดถัดมา วันที่ 26 เมษายน ก่อนที่จะต้องเจอกับ ลิเวอร์พูล ในถิ่นตนเอง วันที่ 9 พฤษภาคม

ทว่า! สุดท้ายแล้ว ทีมของกุนซือโจเซ่ มูรินโญ่ จะยอมให้ แมนฯ ซิตี้ ทำได้เหมือนกับที่เคยทำได้เมื่อซัมเมอร์ที่แล้วหรือไม่ ก็ต้องติดตามกันต่อไป



โปรแกรมที่เหลือของ เชลซี                
15 มี.ค.    พบ เซาธ์แฮมป์ตัน (เหย้า)            
22 มี.ค.    พบ ฮัลล์ ซิตี้ (เยือน)                
4 เม.ย.     พบ สโต๊ค ซิตี้ (เหย้า)                
12 เม.ย.    พบ ควีนส์ปาร์ค (เยือน)        
18 เม.ย.    พบ แมนฯ ยูไนเต็ด (เหย้า)            
26 เม.ย.    พบ อาร์เซนอล (เยือน)                
30 เม.ย.    พบ เลสเตอร์ (เยือน)                
2 พ.ค.      พบ คริสตัล พาเลซ (เหย้า)            
9 พ.ค.      พบ ลิเวอร์พูล (เหย้า)                
16 พ.ค.    พบ เวสต์บรอมวิช (เยือน)            
24 พ.ค.    พบ ซันเดอร์แลนด์ (เหย้า)
-------------------------------------------------

โปรแกรมที่เหลือของ แมนฯ ซิตี้
15 มี.ค.   พบ เบิร์นลีย์ (เยือน)
21 มี.ค.   พบ เวสต์บรอมวิช (เหย้า)
7 เม.ย.    พบ คริสตัล พาเลซ (เยือน)
12 เม.ย.  พบ แมนฯ ยูไนเต็ด (เยือน)
19 เม.ย.  พบ เวสต์แฮม (เหย้า)
25 เม.ย.  พบ แอสตัน วิลล่า (เหย้า)
2 พ.ค.    พบ สเปอร์ส (เยือน)
9 พ.ค.    พบ ควีนส์ปาร์ค (เหย้า)
16 พ.ค.   พบ สวอนซี (เยือน)
24 พ.ค.  พบ เซาธ์แฮมป์ตัน (เหย้า)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook