มิลาน เจ็บไม่จำ!

มิลาน เจ็บไม่จำ!

มิลาน เจ็บไม่จำ!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังศึกกัลโช่ เซรี่ อา นัดวันจันทร์ ความย่ำแย่อย่างต่อเนื่องของโรม่ากลายเป็นเรื่องธรรมดาสามัญไปซะแล้ว ตอนนี้เรื่องแชมป์เซรี่ อา คงจะมีแค่คนบ้า หรือไม่ก็เมา ที่คิดว่าพวกเขาจะแย่งแชมป์จากยูเวนตุสได้

เรื่องใหญ่ของเซรี่ อา ตอนนี้เลยมาอยู่ที่การชิงพื้นที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ตอนนี้เข้มข้นสุดๆ หลังจากที่ทีมหมาป่าฟอร์มตกเอาๆ จนตอนนี้ถูกลาซิโอทำแต้มไล่จี้เหลือแค่คะแนนเดียวเท่านั้น หลังจากที่บุกไปชนะที่โตริโน่ 2-0

มองภาพรวมการลุ้นอันดับ 2 และ 3 ไปแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า มีถึง 5 ทีมที่มีลุ้น นอกจากโรม่า (50 คะแนน) และลาซิโอ (49) แล้วก็ยังมีนาโปลี (46), ฟิออเรนติน่า (45) และซัมพ์ดอเรีย (45) ที่แต้มเกาะกันไม่ห่าง ใครจะได้ไปเล่นถ้วยใหญ่ตามยูเวนตุสฤดูกาลหน้าคงจะสู้กันมันหยดติ๋งๆ แต่คงจะไม่น่าแปลกใจถ้าหากโรม่าจะอกหักเนื่องจากฟอร์มที่ดร็อปไปเยอะเหลือเกิน ขณะที่คู่แข่งอย่างลาซิโอ และฟิออเรนติน่าฟอร์มแรงเหลือเกิน

ความพ่ายแพ้ของโรม่ากลายเป็นประเด็นรองลา กัซเซ็ตต้า เดลโล่ สปอร์ต ฉบับวานนี้ และที่เป็นพาดหัวใหญ่ของพวกเขาก็คือเกมที่ฟิเรนเซ่ ที่ฟิออเรนติน่าพลิกสถานการณ์จากที่ตามหลังกลับมาชนะมิลานของอินซากี้ 2-1

เป็นอีกครั้งของหลายๆ ครั้ง ที่มิลานมีดีพอที่จะขึ้นนำคู่แข่งได้แล้ว แต่ไร้ความสามารถที่จะรักษาไว้ให้ตลอดรอดฝั่ง

ว่ากันตามสถิติแล้ว น่าเสียดายอย่างยิ่งยวดสำหรับมิลาน เพราะถ้าที่ผ่านมาไม่ปล่อยให้ตัวเองโดนแซง หรือตีเสมอแล้วล่ะก็ มิลานจะได้คะแนนเพิ่มจากที่มีอยู่ตอนนี้ (35) ถึง 21 คะแนนเลยทีเดียว ลองเอาแต้มที่พวกเขาทำหล่นไปรวมกับคะแนนที่ทำได้จริง ปิศาจแดงดำทำไปได้ถึง 56 คะแนน มากกว่าทีมอันดับ 2 ปัจจุบันอย่างโรม่าเสียด้วยซ้ำ ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บกระดองใจสำหรับเหล่าปิศาจแดงดำ ไม่งั้นสบายแฮมีลุ้นแชมป์เล็กๆ กับยูเว่ไปแล้ว



เฉพาะกับฟิออเรนติน่า มิลานทำแต้มหล่นไปถึง 5 คะแนนเมื่อดูผลงานสองนัดไปกลับในซีซั่นนี้ ที่ย้อนไปดูสถิติที่ผ่านมาแล้วมีอยู่ 3 หนด้วยกันที่พวกเขาขึ้นนำแล้วโดนแซงนั่นคือ นอกจากฟิออเรนติน่าแล้วก็ยังมีซัสซูโอโล่ และลาซิโอ ที่พวกเขานำแล้วแพ้ ขณะที่กับเวโรน่า, เอ็มโปลี, โตริโน่, อินเตอร์ และซัมพ์ดอเรีย มิลานทำแต้มหล่นไปทีมละ 2 แต้ม จากการที่เป็นฝ่ายขึ้นนำ แต่จบเกมแล้วเสมอ

นัดล่าสุดที่ฟิเรนเซ่ เกมที่กล่าวกันว่าชี้ชะตาอินซากี้ มิลานเล่นได้ดีเลยครับ จะว่าเป็นนัดที่เล่นดีที่สุดในเซรี่ อา ปี 2015 เลยก็ว่าได้ เนื่องจากช่วงสกอร์ 0-0 พวกเขาเล่นเกมรุกได้หวือหวา ทำให้เกมรับฟิออเรนติน่า และเนโต้ ต้องทำงานหนัก กระทั่งมาได้ประตูขึ้นนำจากมัตติอา เดสโตร นาที 56

เกม 45 นาทีแรกชัดเจนครับว่าเป็นมิลานที่ดูดีกว่าฟิออเรนติน่าที่มีโอกาสงามๆ แค่หนเดียวเท่านั้นจากบาซานต้า (โหม่งชนเสา นาที 30)  หลายครั้งหลายคราที่ฝั่งทีมเยือนได้โอกาสงาม แต่โดนเนโต้เซฟ ไม่ว่าจะเป็นลูกยิงเผาขนของฮอนดะ (นาที 12) และลูกยิงของเดสโตร ขณะที่เมเนซมีโอกาสงามเช่นกันแต่ถูกโรซี่มาสกัดไว้ได้ก่อนหวุดหวิด

มอนเตลล่าดูเหมือนว่าจะจ่ายค่าเสียหายให้กับการพักตัวหลัก (4-5 ตัว) ไว้เจอโรม่าในยูโรป้า ลีก วันพฤหัสบดี แต่หลังจากที่ลองผิดลองถูก (เปลี่ยนจาก 3-4-2-1 มาเป็น 4-5-1) แล้วเกมของพวกเขาก็ค่อยๆ ดีขึ้นหลังจากที่เปลี่ยนตัวเอาตัวจริงอย่างฆัวคิน และบาเดลจ์ ลงไปแทนอาควิลานี่ และริชาร์ดส์ที่เล่นไม่เข้าระบบของมอนเตลล่า



ต่างกับมิลานหลังจากที่ขึ้นนำจากการยิงของเดสโตร จังหวะที่โบนาเวนตูร่ายิงผิดเหลี่ยม แต่มาเข้าทางของเดสโตรที่ยิงเข้าไป มิลานแทนที่จะเล่นแบบเดิม หรือเก็บอลไว้กับตัว กลับเน้นเกมรับเต็มพิกัด นักเตะ 11 คนอยู่หลังบอลหมด ทำให้ฟิออเรนติน่าได้บุกต่อเนื่อง

อาจจะไม่ใช่เรื่องของแท็กติกที่ผิดพลาด แต่เป็นเรื่องของหัวจิตหัวใจที่เด็ดเดี่ยวไม่พอ เมื่อขึ้นนำแล้วก็กล้าๆ กลัวๆ จะเปิดเกมบุกก็กลัวเกมรับ ที่มีปัญหาเสียประตูง่ายเหลือเกินจะพลาดให้คู่แข่ง กลายเป็นทีมที่ขึ้นนำแล้วไม่รู้ว่าต้องเล่นอย่างไรถึงจะรักษาสกอร์ที่นำไว้ได้

หลังจากที่เกมดูดีขึ้นจากการเปลี่ยนตัวรอบแรก มอนเตลล่าแก้เกมอีกแบบไม่มีอะไรจะเสียด้วยการส่งบาบาคาร์ไปเล่นกองหน้าคู่กับจิลาร์ดิโน่ และระบบตอนนี้คือ 4-2-4 และก็เป็นพวกเขาที่โหมบุกมิลานอย่างหนัก ที่สุดแท็กติกใช้การเปิดบอลจากริมเส้นของพวกเขาก็ได้ผล ทำให้ทีมได้สองประตูแซงชนะ 2-1 จากการโหม่งของกอนซาโล่ โรดริเกซ และฆัวคิน ซานเชซ ทั้งสองประตู

ความผิดพลาดของมิลานที่ปล่อยให้ฟิออเรนติน่าบุกอยู่ข้างเดียว ทำให้พวกเขาโดนลงโทษอย่างเจ็บปวด เนื่องจากสองประตูที่เสียเกิดขึ้นในช่วงท้ายเกมนั่นคือนาที 83 และ 89 เป็นอีกครั้งครับที่มิลานมีปัญหารับมือลูกโด่ง ที่ทำให้ซีซั่นนี้พวกเขาเสียประตูจากลูกโหม่งถึง 9 ประตู นับว่าเสียเยอะไปในการเล่นระดับนี้

ผลการแข่งขันที่ออกมาก็ทำให้มิลานตอนนี้แทบจะหมดลุ้นยูโรป้า ลีก เป้าหมายขั้นต่ำสุดของพวกเขา (ตั้งไว้ตอนต้นฤดูกาล) อย่างเป็นทางการแล้ว สถานการณ์ต่างกับฟิออฯ สิ้นเชิงเนื่องจากทีมวิโอล่า นอกจากพื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีกแล้ว ยังเหลือสองถ้วยให้ลุ้นนั่นคือยูโรป้า ลีก และโคปป้า อิตาเลีย

ฟอร์มที่ดูดีมาก และก็ดีขึ้นเยอะเมื่อเทียบกับนัดกับเวโรน่า และคิเอโว่ สองเกมก่อนหน้านี้ เหมือนจะช่วยให้อินซากี้ รักษาสถานะโค้ชมิลานไว้ได้ อย่างน้อยก็ในตอนนี้ แต่มองไปถึงฤดูกาลหน้าคงจะไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าจบฤดูกาลทีมปิศาจแดงดำจะตั้งโค้ชใหม่

1 ปีของการปฏิรูปฟื้นฟูมิลาน ถึงตอนนี้กำลังจะถูกมองว่าผ่านไปแบบเสียเปล่า แต่ที่อินซากี้รอดจากการโดนปลดในตอนนี้มองกันว่าเพราะนักเตะยังศรัทธา และสู้เพื่อโค้ชอยู่ ไม่เหมือนกับเมื่อฤดูกาลก่อนที่เซดอร์ฟโดนปลดไปเพราะมีปัญหากับนักเตะในทีม แต่ท้ายที่สุดแล้วอินซากี้ก็ส่อแววว่าจะจบแบบเดียวกับเซดอร์ฟครับ ส่วนจะเป็นใครซีซั่นหน้าคงต้องรอดูกันต่อไป

อีกคนที่อนาคตการเป็นโค้ชกำลังมีปัญหานั่นคือรูดี้ การ์เซีย หลังจากที่โรม่าของเขาฟอร์หมหลุดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดการแพ้ซัมพ์ดอเรียก็ทำให้ในบ้านทีมหมาป่าไม่ชนะมา 7 เกมแล้ว (เสมอ 6 แพ้ 1) เป็นสถิติที่เลวร้ายสุดของพวกเขานับตั้งแต่ 1992/93  เวลานั้นมิไฮโลวิช โค้ชซัมพ์ดอเรียปัจจุบันยังเล่นให้โรม่าอยู่เลย

แง่ฟอร์มการเล่นนัดล่าสุดก็เข้าขั้นน่าผิดหวัง เนื่องจากถึงจะครองบอลได้เยอะ (60%) ทว่าไม่ได้สร้างโอกาสจะแจ้งแต่อย่างใด โรม่าตอนนี้กลายเป็นหมาป่าที่เล่นแล้วถูกคู่แข่งอ่านทางได้ ซัมพ์ดอเรียรับกันอย่างมีวินัย พอได้จังหวะก็มาได้สองประตูจากลอเรนโซ่ เด ซิลเวสตรี้ และมูเรียล ในช่วงครึ่งหลัง หากยังเล่นได้แค่นี้ต่อไปมีหวังโดนลาซิโอที่กำลังแรงสุดๆ แซงแน่ เกมล่าสุดทีมอินทรีฟ้าขาวได้อันแดร์สันทำคนเดียวสองประตูในครึ่งหลังให้พวกเขาบุกไปชนะโตริโน่ 2-0  เป็นลาซิโอที่ยอดเยี่ยมที่สุดในรอบหลายปี ส่วนอันแดร์สันนาทีนี้ยิ่งเล่นยิ่งแรง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook