"สตีวี่ จี" กับ (ใบ)แดงเดือดครั้งสุดท้ายในชีวิต

"สตีวี่ จี" กับ (ใบ)แดงเดือดครั้งสุดท้ายในชีวิต

"สตีวี่ จี" กับ (ใบ)แดงเดือดครั้งสุดท้ายในชีวิต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ศึกแดงเดือด" เมื่อคืนนี้ เป็นนัดที่มีอะไรให้พูดถึงเยอะ สมศักดิ์ศรีเกมฟุตบอลคู่อริตลอดกาลของวงการลูกหนังแดนผู้ดี

ก่อนหน้าเกมนี้ สื่อทุกสำนักยกให้ "หงส์แดง" เป็นต่อผู้มาเยือนอย่าง "ปีศาจแดง" อยู่เล็กน้อย ตามฟอร์มการเล่นช่วงหลังที่ฝ่ายแรก "ไร้พ่าย" มา 13 นัดติดในลีก

โดยการแพ้ครั้งสุดท้าย เกิดขึ้นตั้งแต่ 14 ธันวาคม ปีที่แล้ว ซึ่งก็ปราชัยให้กับ "แมนฯ ยูไนเต็ด" 0-3 ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด นั่นเอง

เรื่องรูปเกม เชื่อว่าแฟนบอลที่ได้ชม คงจะเห็นคล้อยตามกันว่า ช่วงครึ่งแรก "หงส์แดง" เล่น "สะเปะสะปะ" ไร้ทิศทาง กองหลังสมาธิไม่ดีและกองกลางเก็บบอลไม่ได้เลย

เป็นฝั่ง "ผีแดง" ที่คอนโทรลเกมได้ดีกว่า โดยเฉพาะ "มารูยาน เฟลไลนี่" ในบทบาทหน้าต่ำคอยพักบอล ดึงจังหวะให้เพื่อนเล่นต่อได้อย่างไหลลื่นตลอด

หรือจะเป็น "ฮวน มาต้า" ที่เบิ้ลคนเดียวสองประตูในเกมนี้ กับการจบสกอร์ชนิด "โคตรคม" ซึ่งผมแอบเสียดายแทนเจ้าตัวด้วยซ้ำ หากลูกจุดโทษที่ "เวย์น รูนี่ย์" พลาดท้ายเกม ถ้าไม่ติดเรื่องข้อตกลงภายในทีม ขอยิงเองแล้วได้ "แฮตทริก" คงจะเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญในอาชีพค้าแข้งของจอมทัพสเปนแน่นอน

ส่วนพลพรรคหงส์แดงกว่าจะตั้งเกมให้เป็นรูปเป็นร่างได้ ก็โน่นล่ะครับ ช่วงกลางครึ่งหลัง ตอนโดนนำห่าง 2-0 และทีมตัวเองเหลือ 10 คน ตั้งแต่นาทีที่ 1 ของครึ่งหลังนั่นแหละ!!

ใช่ครับ! "สตีเว่น เจอร์ราร์ด" กับศึกแดงเดือดครั้งสุดท้าย เขามีเวลาอยู่กับมันแค่ 45 วินาทีเท่านั้น!!

เป็นการส่งท้ายศึกแห่งศักดิ์ศรี ก่อนโบกมือลาสู่แดนมะกันในช่วงซัมเมอร์นี้ ด้วยฉากที่คงไม่มีใครคาดคิดมาก่อนแน่แท้

ผมเชื่อว่าหนึ่งในคนที่ "ผิดหวัง" ที่สุดกับใบแดงครั้งนี้ นอกจากเจ้าตัว "สตีวี่ จี" แล้ว "เบรนแดน ร็อดเจอร์ส" ก็คงชอกช้ำไม่แพ้กัน

ด้วยความหวังให้ลงมาเชื่อมเกมจากแนวลึก แทนที่ "อดัม ลัลลาน่า" ที่โดนถอดออกไป กับสกอร์ที่ตามหลังแค่ลูกเดียว "บีร็อด" แสดงให้เห็นถึงความ "ศรัทธา" และยัง "เชื่อมั่น" ในตัวกัปตันทีมขวัญใจแฟนบอลรายนี้ ว่าจะสามารถ "เปลี่ยนแปลง" ผลลัพธ์ได้

แต่อุบัติเหตุลูกหนัง มันเกิดขึ้นได้เสมอครับ

เป็นการตัดสินใจแค่เสี้ยววินาที ซึ่งไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม "เจอร์ราร์ด" น่าจะควบคุม "เท้าซ้าย" ของตัวเองได้ดีกว่านี้

ชักขากลับมาวางบนพื้นสนามแล้ววิ่งต่อไป ไม่ใช่มาย่ำบนขา "อันเดร์ เอร์เรร่า" ชนิดที่กองกลางรุ่นน้องเลือดสแปนิช ต้องหันมาค้อนเหมือนจะถามว่า "อะไรของเมริงวะเฮีย?!" แบบนั้น!!

กับ 18 ปีที่โลดแล่นภายใต้สีเสื้อ "ลิเวอร์พูล", ภายใต้ "ปลอกแขน" กัปตันทีมที่เจ้าตัวครอบครองมา 13 ปี และด้วยวัยที่จะเต็ม 35 ปีในอีกสองเดือนข้างหน้า ตอนนี้ผมก็ยังแทบไม่อยากเชื่อว่า เจอร์ราร์ด จะ "น็อตหลุด" เร็วและง่ายดายเหมือนแข้งวัยรุ่นเพิ่งเทิร์นโปรอย่างที่เห็น

อย่างไรก็ดี หลังจบเกม เจอร์ราร์ด เอง ก็ออกมายอมรับแบบแมนๆ ว่าตัวเองผิดจริง ส่วน "บีร็อด" ก็ตามสไตล์ การพ่ายแพ้ครั้งนี้ ไม่ขอโบ้ยเป็นความผิดใครทั้งนั้น รวมไปถึงกัปตันทีมจอมเก๋า

ทุกอย่างผ่านไปแล้ว ถูกต้องครับ "ใบแดงที่รวดเร็วในแดงเดือดครั้งสุดท้าย" จะอยู่ในความทรงจำของ เจอร์ราร์ด และแฟนบอลไปอีกนานแสนนาน

ผมในฐานะแฟนบอลคนกลาง ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆกับทั้งสองทีม ต้องบอกว่ายินดีที่ได้เห็นและเป็นส่วนหนึ่งของ "เหตุการณ์ประวัติศาสตร์" นี้

แต่เหนือสิ่งอื่นใด ตอนนี้สมาธิของ "หงส์แดง" ต้องอยู่ที่ 8 นัดสุดท้ายของซีซั่น ชนิดที่ต้อง "เน้น" ทุกเกมจริงๆ หลังจากตอนนี้โดน ยูไนเต็ด ทิ้งห่างไปแล้ว 5 แต้ม

อันดับสี่บนตารางเมื่อจบฤดูกาลเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะถ้าโควต้ายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ใบสุดท้ายตกเป็นของ "คู่อริตลอดกาล" ผมเชื่อว่าสาวกหงส์คง "เจ็บปวด" ยิ่งกว่าสิ่งใดแน่นอน

ส่วน "ใบแดง" เมื่อคืนนี้ ถึงจะน่าผิดหวังไปหน่อย แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่กัปตันทีมรายนี้ทำให้สโมสรมาเกือบทั้งชีวิต ก็ไม่ได้ทำให้ศรัทธา และการเทิดทูนบูชาของ "เดอะ ค็อป" ที่มีต่อ "สตีเว่น เจอร์ราร์ด" ลดน้อยถอยลงแต่อย่างใด

และเชื่อว่ามันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป ดังเช่นวลีอมตะของสโมสร "You'll never walk alone" ครับ

เรื่องโดย : "น้องเพชร"


คลิปไฮไลท์พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 1-2 แมนฯ ยูไนเต็ด

ดูครบ ทุกคู่ แบบชัดๆด้วยไฟล์ระดับ HD ที่นี่ >>

http://sport.sanook.com/football/premierleague/clip

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook