เลือกมา...ใช้เลย...?

ความดุเดือดของการต่อสู้ในแต่ละลีกฟุตบอลระดับสโมสรถูกขัดขวางอย่างแรงโดยโปรแกรมทีมชาติ ไม่เป็นไรครับ ถือว่าพักความตึงเครียดตรงนั้นด้วยการผ่อนคลายอารมณ์ไปกับเกมในอีกรูปแบบหนึ่ง

ข่าวการถอนตัวและเรียกตัวใหม่ในแต่ละชาติยังคงเกิดขึ้น มากน้อยเป็นไปตามอาการของนักเตะแต่ละคน ซึ่งคงต้องเช็คความพร้อมกันก่อน

ทีมชาติอังกฤษก็เช่นกัน มีทั้งถอนตัวออกไป มีทั้งเรียกเข้ามาใหม่ แต่ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นตำแหน่งกองหน้าสิงโตคำรามน่าจะเป็นเรื่องราวที่ รอย ฮ็อดจ์สัน ไม่หวั่นใจแม้แต่น้อยเพราะมีออปชั่นที่ดีในตอนนี้

แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ไม่ไหวไม่เป็นไร มีทั้ง เวย์น รูนี่ย์ ที่เป็นตัวจริงโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว มีทั้ง แดนนี่ เวลเบ็ค กองหน้าที่ระดับสโมสรไม่หวือหวา ทว่ากับทีมชาติมักจะทำผลงานได้ดี

อีกคนคือ แฮร์รี่ เคน หัวหอกที่ฟอร์มกำลังฮ็อต จนกุนซือสิงโตคำรามต้องปล่อยวาง แดนนี่ อิงส์, ชาร์ลี ออสติน รวมไปถึง ไซโด้ เบราฮีโน่ ไว้ก่อน แน่นอนว่าทั้งหมดยังคงอยู่ในสายตาต่อไป

การเรียกตัว แฮร์รี่ เคน เข้ามาเป็นประเด็นที่จะต้องตามจับตาว่า ฮ็อดจ์สัน ใช้งานหรือเปล่า แฮตทริกในเกมเจอเลสเตอร์วันเสาร์ที่ผ่านมารวมประตูที่ยิงให้สเปอร์สทุกรายการตอนนี้ที่ 29 ประตู หรูหราทีเดียว

รูนี่ย์กับเวลเบ็ค คือแผนหลัก คือตัวเลือกของทีมชาติอยู่แล้ว เกมที่เล่นเพื่อแต้มกับลิธัวเนียคงเป็นคู่นี้เหมือนเดิม และแน่นอนเช่นกันว่า รอย ฮ็อดจ์สัน คงไม่ใช้งานทั้ง 2 คนติดต่อกัน 2 นัดทั้งเกมกับลิธัวเนียและนัดอุ่นเครื่องกับอิตาลี

แฮร์รี่ เคน ได้โอกาสแน่นอนในเกมอุ่นเครื่องกับอิตาลี ทว่าไหนๆก็เรียกมาแล้วและฟอร์มสดขนาดนั้นใส่หัวหอกของสเปอร์สลงไปทั้ง 2 นัดให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเลย

ยืนอยู่หน้าสุดโดยมี เวย์น รูนี่ย์ ขยับแข้งขยับขาอยู่ด้านหลัง กรณีแบบนี้เกิดขึ้นเหมือนกันในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก หัวใจหลักในเกมรับที่ รอย ฮ็อดจ์สัน ใช้งานจริงคือ แกรี่ เคฮิลล์ ยืนคู่กับ ฟิล จากีลก้า

ทว่าในรอบคัดเลือกเหมือนกับการปูพื้นฐานไปสู่รอบสุดท้าย นักเตะคนไหนที่คิดว่าถึงเวลาดังกล่าวมีโอกาสใช้งานจริงค่อนข้างแน่นอนต้องให้โอกาสกันตั้งแต่ตอนนี้

สถานการณ์จริงช่วยพัฒนาและยกระดับการเล่นได้ดีเป็นพิเศษ เป็นประสบการณ์ที่หาได้ยาก ตัวเลือกในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กที่โดดเด่นมีให้เลือกค่อนข้างน้อย

จากีลก้า กับ เคฮิลล์ จึงเป็นชื่อที่ดูดีในระดับต้นๆแม้ว่าในฟุตบอลโลกที่ผ่านมาพิสูจน์ว่าผลงานตระการตาที่ต้องการมากกว่านั้นเป็นเรื่องไม่ง่าย

ประเด็นที่อาจจะเกิดการพลิกล็อคขึ้นก็คือ คริส สมอลลิ่ง ของผีแดง ช่วงหลังมานี้ฟอร์มค่อนข้างดี นิ่งมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ 2-3 เกมหลังสุด

หลายคนชื่นชมผลงานของ สมอลลิ่ง หนุนหลังกันเต็มที่ให้ยืนตัวจริงไปเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลาในรอบสุดท้ายโอกาสยืนคู่ แกรี่ เคฮิลล์ สูงอยู่แล้ว

การปรับแต่งคู่กองหลังตัวกลางจากฟุตบอลโลกที่เป็นจุดอ่อนของทีม เริ่มตอนนี้เลยไม่น่ามีปัญหา สไตล์ของ สมอลลิ่ง หากนิ่งมากพอจะมีประโยชน์กับทีมมาก การขึ้นเกมจากแนวรับสู่มิดฟิลด์เป็นการเริ่มเกมรุกของทีม หากมีกองหลังที่สามารถเก็บบอล ผ่านบอลได้ดี คุณภาพของทีมก็จะเพิ่มขึ้น

ยุคนี้การผ่านบอลไปมาในแนวรับเพื่อสร้างจังหวะในการเดินเกมรุกเป็นเรื่องปกติ สมอลลิ่ง เป็นคนหนึ่งที่ทำได้ค่อนข้างดีในช่วงเวลานี้

เคฮิลล์คู่จากีลก้า พัฒนาคุณภาพได้ดีไปกว่านี้หรือเปล่า คงไม่มั๊ง... สมอลลิ่งจึงเป็นทางเลือกที่อาจสร้างความแตกต่างให้เห็น ได้เล่นแน่นอนครับแต่จะเป็นเกมสะสมแต้มหรือเกมอุ่นเครื่องเท่านั้นเอง

อีกสักคนครับที่การสะสมประสบการณ์ในตอนนี้คือสิ่งที่สำคัญมากๆ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์และเบน ฟอสเตอร์ บาดเจ็บ ฮ็อดจ์สัน เรียกตัว แจ็ค บัตแลนด์ เข้ามาเสริม

การใช้งานนักเตะตัวหลักๆทั้ง 2 เกมติดต่อกัน มีหวัง รอย ฮ็อดจ์สัน ต้องทำศึกน้ำลายอีกหลายยกกับบรรดากุนซือสโมสรใหญ่ๆทั้งหลาย

โจ ฮาร์ท ก็ไม่จำเป็นต้องทำหน้าที่ทั้งหมดนั้น โอกาสของ บัตแลนด์ จึงเริ่มมองเห็น จริงๆอยากให้หลงลืม โรเบิร์ต กรีน ไปก่อน

หาก โจ ฮาร์ท ได้พักในเกมอุ่นเครื่องหรือลงแค่ครึ่งเดียว โอกาสที่เหลืออยากให้มองไปที่ แจ็ค บัตแลนด์ มากกว่า ไหนๆก็มองกันแล้วว่า อนาคตข้างหน้า เด็กเฝ้าเสาจากสโต๊คคนนี้คือคนที่จะขึ้นมาสืบสานงานในค่ายสิงโต

ให้โอกาสสำคัญซะเลย เพราะหาจังหวะเหมาะแบบนี้ไม่มีแล้ว อยู่กับสโต๊คก็ได้เล่นบอลถ้วยเป็นหลัก ยังไม่สามารถผ่านขวากหนามชิ้นใหญ่อย่าง อัสเมียร์ เบโกวิช ได้

อย่างไรก็ตาม วัดระดับการเต้นของหัวใจ รอย ฮ็อดจ์สัน แล้ว ท่าทางจะยาก...

ในส่วนของระบบการเล่นเป็นเรื่องน่าสนใจชวนติดตามอีกเรื่องหนึ่ง แน่นอน รอย ฮ็อดจ์สัน ต้องคิดถึงระบบมิดฟิลด์ไดมอนด์เป็นอันดับแรก เพราะรู้สึกได้ว่าถูกโฉลกกับการทำงาน

รับมือลิธัวเนียที่เวมบลีย์ อาจจะไม่ใช่แบบนั้นก็ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอนก็คือทีมเยือนต้องขึงแนวให้หนาแน่นมากที่สุด เจาะตรงๆกลางสนามขึ้นไปไม่ใช่เรื่องง่าย

สิงโตคำรามอาจจะต้องการพื้นที่ริมเส้นเพื่อถ่างแนวรับให้ห่างกันมากที่สุด ลักษณะนี้มีช่องให้เห็นมากกว่า เพราะฉะนั้นหากกุนซือทีมชาติอังกฤษจะใช้รูปแบบพื้นฐานโดยมีปีกลุยริมเส้นทั้ง 2 ข้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

ทว่าในเกมที่เจออิตาลีซึ่งเป็นเกมอุ่นเครื่อง โอกาสที่จะเห็นมิดฟิลด์ไดมอนด์ค่อนข้างแน่นอน...

ดามัน