ตามรอยสิงโต...?

รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือทีมชาติอังกฤษจัดทัพอัดลิธัวเนียโดยมี แฮร์รี่ เคน นั่งข้างสนามตามที่เกริ่นเอาไว้ตั้งแต่ก่อนเกม

ไม่ยากครับกับชัยชนะที่ได้มา แน่นอนว่าไม่ได้ทดสอบอะไรมากนัก เป็นไปตามหน้าเสื่อที่ ฮ็อดจ์สัน คาดหวังว่า

ถ้าได้ประตูเร็วความกดดันต่างๆจากรอบด้านจะหายไปในทันที

3 ประสานแดนกลาง...

ต้องยอมรับก่อนว่าลิธัวเนียไม้ได้สร้างความวุ่นวายหรือสร้างเกมที่น่ากลัวให้กับสิงโตคำราม การทำงานในหลายพื้นที่จึงเป็นไปตามที่คาดหวังเอาไว้

ทว่าต้องให้เครดิต 3 ประสานในแดนกลางกันนิดหน่อย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน มีความแข็งแกร่ง ฟาเบียน เดลฟ์ พลังงานไม่มีหมด ในขณะที่ ไมเคิล คาร์ริค ควบคุมสถานการณ์ด้วยความนิ่ง

ไมเคิล คาร์ริค เป็นนักเตะที่มักถูกมองในลักษณะต่ำกว่าความเป็นจริงเสมอ เป็นเรื่องโชคร้ายเหมือนกันที่มีภาพเหล่านี้ติดตัว

อย่างไรก็ตาม จะให้ รอย ฮ็อดจ์สัน สร้างสิงโตคำรามขึ้นมาโดยมี ไมเคิล คาร์ริค เป็นหัวใจของทีมก็พูดยากเช่นกัน อนาคตข้างหน้าของมิดฟิลด์จากทีมผีแดงมันไม่ยาวถึงขั้นที่จะทำแบบนั้น

พรุ่งนี้ของ แฮร์รี่ เคน...

อย่างที่เห็นกัน ฮ็อดจ์สัน ไม่เร่งรีบส่งกองหน้าจากทีมสเปอร์สลงสนามในทันที ไม่อยากให้ความกดดันเล่นงานจนเสียของ

สื่อมวลชนและแฟนบอลโฟกัสไปที่ แฮร์รี่ เคน มากเป็นพิเศษ แม้จะรู้ดีว่า รูนี่ย์กับแดนนี่ เวลเบ็ค ต้องมาก่อน เอาเป็นว่านี่คือมาตรการปกป้องก็แล้วกัน

อนาคตยังอีกยาวไกลค่อยเป็นค่อยไป นั่นคือแนวคิดของกุนซือสิงโตคำราม เคน เปลี่ยนตัวลงสนามชั่วอึดใจได้สกอร์ที่ทุกคนต้องการทันที

ความพึงพอใจเกิดขึ้นทั่วทุกหัวระแหง หลายคนฟันธงกันทันทีว่า อนาคตที่สดใสของ แฮร์รี่ เคน กับการยืนเป็นหัวหอกทีมชาติอังกฤษรออยู่

โอกาสต่อไปคือการได้ลงเล่นตั้งแต่ต้นเกมนัดอุ่นเครื่องกับอิตาลี ซึ่งเป็นภาพที่เปลี่ยนแปลงไปจากเกมเจอลิธัวเนียแน่นอน เพราะฉะนั้นใครที่คาดหวังไว้สูงกับ แฮร์รี่ เคน อย่าลืมผ่อนคลายและให้โอกาสมากๆด้วย เจอแนวรับเลี่ยนอาจจะไปไม่เป็น

วันนี้ของ รูนี่ย์...

ไม่ต้องรอว่าอนาคตสดใสหรือเปล่า เวย์น รูนี่ย์ ยังคงเป็นแกนหลักเป็นหัวใจที่สำคัญของทีมชาติอังกฤษ ไม่ใช่เพิ่งเป็นตอนนี้แต่เป็นมานานแล้ว

ฟอร์มไม่ถึงกับหวือหวาอะไร แต่มั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่า รูนี่ย์ สามารถที่จะตอบสนองและเป็นที่พึ่งพาของทีมเหมือนที่ผ่านมา

แดนนี่ เวลเบ็ค...

มีทั้งเรื่องดีและไม่ดีเกิดขึ้นในเกมเจอลิธัวเนีย กองหน้าจากทีมอาร์เซนอลทำผลงานในทีมชาติได้ดีอย่างที่คาดหวัง นี่คือจุดเด่นของ เวลเบ็ค ที่ผลงานในทีมชาติกับสโมสรแตกต่างกัน

ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือเซอร์ไพรส์อะไรที่ รอย ฮ็อดจ์สัน จัดลงเป็นตัวจริง สกอร์ในเกมที่ผ่านๆมา เวลเบ็ค สร้างผลงานไว้ได้ดี ความมั่นใจของกุนซือยังคงหนักแน่น

เวลเบ็ค เล่นได้ดีตามคาดไม่ว่าจะออกไปริมเส้น หรือเล่นอยู่ด้านใน ทำให้เกมรุกของอังกฤษกระชุ่มกระชวย จังหวะในการเล่นดีกว่าสีเสื้อของปืนโตชัดเจน

ในขณะที่ฟอร์มกำลังดี มีเรื่องขัดจังหวะอยู่บ้าง เรื่องของอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น แน่นอนครับเกมอุ่นเครื่องกับอิตาลีคงไม่มีโอกาส ถือซะว่าเปิดทางให้ แฮรนี่ เคน พิสูจน์ตัวเองก็แล้วกัน

ฟิล โจนส์...

ลงเล่นเป็นตัวจริงคู่กีบแกรี่ เคฮิลล์ เป็นเซอร์ไพรส์เล็กๆ ฟิล โจนส์ ไม่ได้รับการทดสอบจากเกมรุกของลิธัวเนียเท่าไหร่ ทว่าสิ่งที่จะพูดถึงคือโอกาสในแต่ละครั้งต้องเรียนรู้ให้มากที่สุด

ในทีมผีแดงหากอยู่ในสภาพฟิต โจนส์ จะอยู่ในการพิจารณาของ หลุยส์ ฟาน ฮัล เป็นประจำ ทว่าเรื่องราวของการบาดเจ็บที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาสำหรับกองหลังคนนี้มักจะเข้ามาขัดจังหวะเป็นระยะ

สำหรับโอกาสในนัดต่อไปพอจะเข้าใจได้ว่าเป็นเวลาของ คริส สมอลลิ่ง เพื่อนร่วมทีมผีแดงด้วยกันได้ลงทำงานบ้าง

ภาพที่เปลี่ยนไป...

แน่นอนแล้วว่าเกมอุ่นเครื่องกับอิตาลีมีความเปลี่ยนแปลงเรื่องตัวผู้เล่นมากมายแน่นอน แค่เรื่องที่ รอย ฮ็อดจ์สัน ต้องพยายามไม่มีปัญหากับบรรดากุนซือทีมต่างๆในพรีเมียร์ ลีก เกี่ยวกับการใช้งานนักเตะบางคนจนเกินกำลังมีปัญหามากพออยู่แล้ว

อาการบาดเจ็บของหลายๆคนจากเกมเจอลิธัวเนีย แม้ไม่มากมายเท่าไหร่ แต่จะเป็นตัวเสริมการตัดสินใจให้นักเตะเหล่านั้นได้พักหรือไม่ก็อนุญาตให้กลับสโมสรทันที

กองหน้าเราพอจะฟันธงได้ว่า เป็นคิวของ แฮร์รี่ เคน อาการบาดเจ็บของ เวลเบ็ค ตอกย้ำโอกาสดังกล่าวให้หนักแน่นมากขึ้น

เลห์ตัน เบนส์,ราฮีม สเตอร์ลิ่ง,เจมส์ มิลเนอร์ พวกนี้ไม่มีส่วนกับเกมอุ่นเครื่อง รวมไปถึงอีกหลายคนที่แม้ว่ายังอยู่กับทีมแต่ความต้องการที่ไม่ให้นักเตะช้ำมากจนเกินไปกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงทีมไปอย่างสิ้นเชิง...

เรื่องโดย : ดามัน