เข้าสู่ "เฟส 2".. แผนสร้าง "แฮร์รี่ เคน"

ถึงตอนนี้ “แฮร์รี่ เคน” ไม่ใช่เพียงแค่ “ขวัญใจ” คนใหม่ของวงการฟุตบอลอังกฤษแบบธรรมดาๆ เท่านั้นนะครับ

เพราะ “ดีกรี” ความโด่งดังระดับ “เฮดไลน์” และมีทั้งข่าวใหญ่ ข่าวย่อย กับคอลัมน์กีฬาน้อยใหญ่ พูดถึงแบบพร้อมเพรียงกัน หลังเกมชนะ ลิธัวเนีย น่าจะพูดได้ว่า เด็กหนุ่มจากทีมตราไก่ สเปอร์ส คือ “ดาร์ลิ่ง” หรือขวัญใจ + เป็นที่รักของแฟนๆ ไปแล้ว

โดยอย่างที่ผมได้กล่าวไว้หลายหนถึงทีมชาติสิงโตคำรามชุดนี้ และตัว “เคน” ก่อนเกมนัดที่ 7 หลังจากฟุตบอลโลก 2014 ของทีมผู้ดีก็คือ “ศรัทธา” จากผลงานที่กระเตื้องขึ้นเรื่อยๆ

ประกอบกับการ “แจ้งเกิด” ระดับสโมสรส่งต่อถึงทีมชาติของ เคน ได้ทำให้นิว เวมบลีย์ ขายตั๋ว Sold out หรือหมดเกลี้ยงอย่างเหลือเชื่อในเกม “สมันน้อย” อย่างลิธัวเนีย

“สมมติฐาน” ก่อนเกมจึงประมาณว่า 1.เพราะ “ศรัทธา” หรือ 2.เพราะ “เคน”

คำตอบแบบไม่หักหาญน้ำใจน่าจะเป็นว่า “ถูกทั้ง 2 ข้อ” แต่หากเอาเข้าจริงๆแล้ว ผมอ่านว่า กระแส “เฮอร์ริเคน” มาแรงกว่า

จุดนี้ตอบได้จากการ “ต้อนรับ” ของแฟนบอลกว่า 8 หมื่นคน ที่ทั้งปรบมือ และส่งเสียงเชียร์ก่อน เคน จะถูกเปลี่ยนตัวลงสนาม โดยเฉพาะจังหวะออกมา “วอร์มอัพ” ข้างสนาม

สุดๆคือ ตอนรอริมเส้นก่อนจะเปลี่ยนตัวลงไปแทน เวย์น รูนี่ย์ นาทีที่ 71 ซึ่งบอลในสนามไม่ยอมเป็น “ลูกตาย” ซะที

ครั้นถึงจังหวะสำคัญ เสียงแฟนบอล “เวลคัม” กันกึกก้องชนิดที่ อลัน สมิธ อดีตหัวหอกทีมชาติผู้ดีของอาร์เซนอล ถึงกับสรุปว่า เคน ไม่ใช่นักเตะสเปอร์สเพียงเท่านั้นแล้ว

แต่เป็น “คนของชาติ” ในเกรด a national favorite หรือ “ขวัญใจ” ที่ใช้เวลาหลังจากนั้นอีกเพียง 79 วินาที กับสัมผัสที่ 3 เท่านั้นในการสกอร์ประตูแรกนัดประเดิมสนามของตัวเองได้สำเร็จ

จะเป็น “ฝันเป็นจริง” หรือ “นิยายลูกหนัง” ฉบับเคน หรืออะไรก็แล้วแต่ ทว่าจากซีซั่นนี้ที่ได้โอกาสเต็มๆ และสังหารไปแล้ว 29 ประตู ในระดับสโมสร

ประตูที่ 30 และเป็น "ประตูแรก” ในสีเสื้อทีมชาติ ดูเหมือนจะมีความสำคัญที่สุดไม่เฉพาะในฤดูกาลนี้ แต่เป็นตลอดอาชีพค้าแข้งดาวเตะวัย 21 ปี รายนี้เลยทีเดียว

เอาเป็นว่า เคน “ตอบโจทย์” ทุกคำถามก่อนหน้านี้ได้หมด และพิสูจน์แล้วว่า เค้า “เติบโต” เป็นส่วนหนึ่งของขุนพลซีเนียร์ภายใต้การกำกับทีมของ รอย ฮอดจ์สัน ได้เต็มตัวแล้ว

ถามว่า “เร็วไปไหม?” ในการสรุป

ผมว่า ไม่เร็วไป หากจะตอบ ณ บัดนาวว่า นักเตะคนที่ 17 ซึ่งยิงประตูได้ทันทีในนัดประเดิมสนามกับทีมชาติอังกฤษ และเร็วเป็นอันดับ 3 คือ “ของจริง”

สิ่งนี้ จึงเป็น “เหตุผลหลัก” ครับที่ทำให้ชาวผู้ดี “ตื่นเต้น” มากเป็นพิเศษกับ “ศักยภาพ” ของขวัญใจคนใหม่รายนี้

และ “แอบลุ้น” เหมือนๆกัน พร้อมๆกันว่า “อนาคต” ของเคนจะไปได้ไกลแสนไกลขนาดไหน?

กล่าวได้ครับว่า นี่คือ “เฟสแรก” ในนามทีมชาติชุดใหญ่ที่ต้องไม่ลืมว่า จริงๆแล้ว แดเนียล สเตอร์ริดจ์ กับแดนนี่ เวลเบ็ค ยัง “เรียงคิว” ขวางหน้าเคนในตำแหน่งหัวหอกคู่กับ รูนี่ย์

เวลเบ็ค ซึ่งสังหารถึง 6 ประตู จาก 5 แมตช์ “ยูโร 2016” รอบคัดเลือกกลุ่ม E คือ “แมน ออฟ เดอะ แมตช์” ในเกมนี้ที่ทุกคน “ลืม"

ขณะที่ รูนี่ย์ กดประตูที่ 47 ในนามทีมชาติได้แล้ว และตอนนี้ตามหลัง แกรี่ ลินิเกอร์ 1 ประตู และไล่หลัง เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน (49) แค่ 2 ประตู ยังถูกพูดถึงน้อยมากๆ

ไม่นับดาวรุ่งวัย 20 ปี ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ซึ่งก็ยิงได้ 1 เม็ด แถมยังเป็นคนเปิดให้ เคน โหม่งเข้าไปก็แทบไม่มีคนกล่าวขวัญถึง

“เหตุผล” พอคาดเดาได้ว่า prospect หรือศักยภาพที่น่าจะเป็นของทุกคนเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า “ได้แค่ไหน?”

เช่น เวลเบ็ค อาจเก่งกับทีมชาติก็จริง แต่ก็ทำได้แค่นี้ หรือแม้แต่ สเตอร์ริดจ์ ที่เจ็บบ่อย หรือสเตอร์ลิ่ง ก็อาจมีขีดจำกัด

ทว่า เคน มีพร้อมทุกอย่างทั้งสรีระ, ทักษะ และหัวใจ

ฉะนั้นจึงไม่แปลก ทั้งก่อนเกมที่ “กระแส” ก็แรงอยู่แล้ว ฮอดจ์สัน จะพยายามลด “ความหวัง” จากแฟนๆ อย่างที่ผมได้เรียนเอาไว้ว่า “ขอโอกาส” ให้เคนยาวๆ ไม่ใช่แค่นัดสองนัด

และ “หลังเกม” กระแสยิ่งไปกันใหญ่ ซึ่ง “ปู่รอย” ก็ทำได้ดีอีกเช่นกัน โดยเฉพาะการแตะถึง “เฟส 2” ในแผนการประคบประหงม แฮร์รี่ เคน

ครับ ซัมเมอร์นี้ เคนจะเป็น 1 ในนักเตะชุด ยู-21 ปี ของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ไปลุยรอบสุดท้ายที่สาธารณรัฐเช็ก เพื่อเก็บประสบการณ์บอลทัวร์นาเมนต์

โดยจะไม่มีชื่อลุยรอบคัดเลือกกับทีมชาติชุดใหญ่ และเกมกระชับมิตรกับ สโลวีเนีย และไอร์แลนด์ เดือน มิ.ย. อย่างแน่นอน

ฉะนั้น ก็ให้จับตาเกมนัดสุดท้าย “เฟสแรก” การสร้างเคนกับ อิตาลี ทีมเกมรับเหนียวๆ 31 มี.ค.นี้ ให้ดี เพราะเจ้าตัวจะได้ลงตัวจริงแน่นอน เนื่องจาก เวลเบ็ค เจ็บเข่า

หากทุกอย่างเป็น “ตามแผน” และ แฮร์รี่ เคน “ต่อยอด” นิยายลูกหนังฉบับตัวเองได้ อังกฤษจะไม่แพ้ และเคน จะยิงอิตาลีได้สำเร็จครับ