"สูสีกว่าที่คิด".. ชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก "บาร์ซ่า vs ยูเว่"

สำหรับไฮไลต์สำคัญที่แฟนฟุตบอลไม่ใช่แค่ในเมืองไทย แต่ทั่วโลกรอคอยในค่ำคืนนี้ คงเป็นเรื่องอะไรไปไม่ได้นอกจากฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก "รอบชิงชนะเลิศ" ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน ระหว่างทัพต่างดาว "บาร์เซโลน่า" กับขุนพลม้าลาย "ยูเวนตุส"

ก่อนหน้านี้ ใครหลายคนไม่ได้มองว่าฟุตบอลคู่นี้ไม่ใช่คู่ชิงในฝัน เพราะในรอบรองมีทั้งพี่เสือ "บาเยิร์น มิวนิค" กับราชันชุดขาว "เรอัล มาดริด" ที่เจอกับบาร์ซ่าน่าจะสนุกสูสีกว่า ขณะที่พอได้ 4 ทีมในรอบรองฯ ยูเว่กลับเป็นทีมที่ถูกมองว่าอ่อนที่สุด

อย่างไรก็ตามลูกทีมของ มักซิมิเลียโน่ อัลเลกรี ก็สามารถหักด่านกาลาติกอสด้วยเกมรับที่ยอดเยี่ยม และเกมโต้กลับอันทรงประสิทธิภาพเข้ามาสู่รอบชิงชนะเลิศได้ซึ่งมาเจอกับลูกทีมของ หลุยส์ เอ็นริเก้ ที่มาตามนัดด้วยพลัง "เอ็มเอสเอ็น" (เมสซี่, เนย์มาร์, และ ซัวเรซ)

ถึงอย่างไรก็ตาม ทั้งสื่อและแฟนบอลก็ยังยกให้บาร์ซ่าที่เล่นบอลด้วย "คอนเซ็ปท์เกมรุก" เป็นต่อเหนือยูเว่ที่เล่นบอลด้วย "คอนเซ็ปท์เกมรับ"

แต่ถ้ามานั่งพินิจวิเคราะห์พิจารณาอย่างละเอียดแล้ว จริงๆฟุตบอลคู่นี้ "สูสี" กว่าที่คิด ซึ่งปัจจัยสำคัญที่จะมีส่วนตัดสินในเกมนี้ขอแบ่งเป็น 4 จุดประกอบไปด้วย "แนวรุก" "การขับเคลื่อนของแผงมิดฟิลด์" "แนวรับ" และ "โค้ช"

เริ่มจากเกมรุกยังไงต้องยกให้ขุนพลจากแคว้นกาตาลัน "เหนือกว่า" ด้วยอาวุธหนักทั้งหลายของ 3 ประสาน "เอ็มเอสเอ็น" ที่เล่นได้อย่างรู้ใจ

ขณะที่ยอดทีมจากเมืองตูรินอาจจะมี "คาร์ลอส เตเวซ" ที่ต้องยอมรับว่า "เก่งจริง" เล่นได้เข้าฟอร์ม หรือ "อัลวาโร่ โมราต้า" ที่กำลังร้อนแรงแต่ยังไงก็ "ชอบ" บาร์ซ่ามากกว่า ซึ่งทุกคนก็คิดแบบนั่น

มาที่ "การขับเคลื่อนของแผงมิดฟิลด์" ที่เป็นส่วนสำคัญของระบบทีม เรื่องทักษะฟุตบอลหลายคนอาจจะมองว่านักเตะบาร์ซ่าดีกว่าทั้ง "ชาบี้ เอร์นันเดซ" "อันเดรส อิเนียสต้า" "อิวาน ราคิติช" หรือ "เซร์จิโอ บุสเก็ตส์"

แต่ในมุมมองส่วนตัวกลับเชื่อว่า "พอๆกัน" โดยนักเตะยูเว่อย่าง "อาร์ตูโร่ วิดัล" "เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ" "พอล ป็อกบา" หรือตัวเก๋าอย่าง "อันเดรีย ปิร์โล่"

เพราะต้องยอมรับว่าภาพ "รูปแบบระบบของบาร์ซ่า" ไหลลื่นและสวยงามกว่า แต่ทางฝั่งยูเว่เองก็มีเรื่องของ "ความเขี้ยว" "ไหวพริบ" และ "ความสามารถเฉพาะตัว" แต่ด้วยภาพ "รูปแบบระบบการเล่นของทีม" ที่ดูไม่สวยงาม จึงทำให้ดูเหมือนเป็นรอง

ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้านักเตะม้าลายเล่นได้ตามแผนมี "ลูกหนัก" "เข้าบอลโหดๆ" เชื่อว่า บรรดานักเตะจากแคว้นกาตาลันก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน

ส่วน "แนวรับ" ดูไปดูมานักเตะยูเว่ "เหนือกว่า" โดยเชื่อว่าทีมจะมาเล่นหลัง 4 คนเหมือนกับที่เจอ "เรอัล มาดริด" มี "สเตฟาน ลิตช์สไตเนอร์" "เลโอนาร์โด โบนุชชี่" "จอร์โจ้ คิเอลลินี่" และ "ปาทริซ เอวร่า"

ซึ่งถ้าไม่เก่งจริงคงหยุด 3 ประสาน "บีบีซี" (แกเร็ธ เบล, เบนเซม่า, โรนัลโด้+ฮาเมส โรดริเกวซ) ไม่ได้ ด้วย "ประสบการณ์" และ "ฝีเท้าที่ยอดเยี่ยม"

ต่างจากบาร์ซ่าที่มองว่า "แนวรุก" กับ "แผงมิดฟิลด์" ที่เก่งทำให้ "บัง" จุดอ่อนในเกมรับ ถึงแม้จะมี "ดาเนี่ยล อัลเวส" "เคราร์ด ปิเก้" "มาสเคราโน่" และ "ฆอร์ดี้ อัลบ้า"

แต่ก็ไม่ "เขี้ยว" เท่าหลังยูเว่แน่ ยิ่งถ้าดูนัดที่ผ่านมา บางครั้งยังมีอาการ "เหวอ" จนเสียประตูให้เห็น แถมตำแหน่งผู้รักษาประตู "จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน" ดีกว่า "มาร์ก อังเดร-แตร์ สเตเก้น"

สำหรับโค้ชของทั้งสองทีม ถึง "มักซิมิเลียโน่ อัลเลกรี" จะชื่อดู "ยี้ๆ" แต่ด้วยประสบการณ์ที่เคยคุมทีมอย่าง "เอซี มิลาน" หรือใกล้ตัวเลยคือคุมลูกทีมยูเว่ชุดนี้อยู่ ถือว่าไม่ธรรมดา

และดีกว่า "หลุยส์ เอ็นริเก้" แน่ ยิ่งที่ผ่านมาเจ้าตัวไม่ค่อยได้ฝึก "แก้เกม" เท่าไหร่ เพราะลูกทีมมันเหนือกว่าทีมอื่น มักจะครองบอลและยิงเค้าได้ก่อนเป็นประจำ

สุดท้ายนี้ ถึงแม้ "บาร์ซ่า" จะเหนือกว่ามากเรื่องเกมรุก แต่ศักยภาพของแผงมิดฟิลด์ "ไม่ต่างกันเลย" และ แนวรับกับโค้ชของ "ยูเว่" เหนือกว่า ก็พอถัวเฉลี่ยให้องค์ประกอบภายในทีมและศักยภาพของทีมออกมา "สูสีกว่าที่คิด"

ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างที่พินิจวิเคราะห์พิจารณา เดี๋ยวอีกไม่กี่อึดใจก็จะได้รู้กัน และ “ทีมไหน” จะมีองค์ประกอบพิเศษอย่าง “เฮง” เพื่อเป็นเจ้ายุโรปในปีนี้ครับ

Bank