"บัวขาว" ผนึกหมัดไทย-จีน สู้ศึกกำปั้นนานาชาติ

"บัวขาว" ผนึกหมัดไทย-จีน สู้ศึกกำปั้นนานาชาติ

"บัวขาว" ผนึกหมัดไทย-จีน สู้ศึกกำปั้นนานาชาติ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เรียกว่ากระแส "มวยไทย" แรงอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ ทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ความสนใจเป็นอย่างมาก บางคนข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อเรียนรู้ศิลปะแม่ไม้มวยไทย และมาเรียนรู้วัฒนธรรมของคนไทยควบคู่ไปด้วย อีกหนึ่งชาติที่ให้ความสนใจไม่แพ้ชาติใดก็คือ จีน

ยกตัวอย่างแมตช์ที่ "บัวขาว" นักชกชาวไทยขึ้นชกกับ "เหยียน บิน" ยอดมวยไทยของจีนที่กลายเป็นแมตช์ที่มีคนพูดถึงมากที่สุด แม้นักมวยไทยจะเป็นฝ่ายชนะ แต่ก็ไม่ได้มาง่าย ๆ ทำให้รู้ว่าหมัดเส้าหลินได้เรียนรู้กระบวนท่ามวยได้อย่างรวดเร็ว และพัฒนาไปไกลทีเดียว อนาคตไม่แน่ว่าฝ่ายไทยอาจจะพ่ายศึกมวยไทยก็เป็นได้

แต่ก่อนจะชกกันเอง เพื่อเป็นการเชื่อมสัมพันธ์ของ 2 ประเทศไทย-จีน ซึ่งวันที่ 1 กรกฎาคม 2558 จะเป็นวันครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและจีน ทั้ง 2 ชาติจึงได้จับมือกันคัดสุดยอดนักมวยของสยามและแดนมังกร 8 คนขึ้นสังเวียนเดียวกัน เพื่อประลองฝีมือกับนักมวยโซนยุโรปและอเมริกา เพื่อประกาศศักดามวยไทยร่วมกัน

งานนี้ผลจะออกมาอย่างไรไม่มีใครรู้ แต่ที่รู้งานนี้สนุกแน่เมื่อได้เห็นวิทยายุทธ์เส้าหลินผนึกกำลังกับแม่ไม้มวยไทย ไทยจะอยู่หรือไทยจะไปวันที่ 1 กรกฎาคม 2558 ได้รู้กัน เวทีนี้มีชื่อว่า "ที-วัน มวยไทย ศึกมวยไทยสนั่นโลก"

จัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง The National Olympic Center โดยใช้สนามกีฬาโอลิมปิกเป็นสนามแข่งขัน จัดเต็มทั้งนักชกและเทคนิคแสงสีเสียงเต็มรูปแบบ เพราะจะเป็นการผสมผสานมวยไทยกับความบันเทิงเข้าด้วยกัน

คนจัดงานตะโกนว่า "ศึกมวยไทยในครั้งนี้คงจะเป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์ของวงการมวย ที่จะมีความยิ่งใหญ่และอลังการที่สุดที่เคยมีการจัดการแข่งขันมวยไทยมาเลยทีเดียว"

"พินิจ จารุสมบัติ" ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ เล่าถึงที่มาของงานนี้ว่า ไทย-จีนเป็นความสัมพันธ์ที่แนบแน่นมีความหมายและมีผลประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศเป็นอย่างมาก ทำให้วัฒนธรรมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวขยายตัวใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะการค้าปีนี้น่าจะทะลุ 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ด้านนักท่องเที่ยวชาวจีนปีนี้น่าจะเกิน 5 ล้านคน เป็นสัญญาณที่ดีในธุรกิจการท่องเที่ยว ผลตอบรับคิดว่าจะเป็นความสัมพันธ์ความร่วมมือระหว่างประเทศ มีความมั่นคง, มีการลงทุน, การค้าขาย และด้านการท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น

"กีฬามวยไทยจัดเป็นศิลปะการต่อสู้ที่อยู่อันดับต้นของโลก และทุกวันนี้ประเทศจีนมีความนิยมมวยไทยมาก ยอดนักมวยไทยของเราตอนนี้ก็คือ บัวขาว บัญชาเมฆ ที่ถือว่าเป็นนักมวยที่ทั่วโลกจับตามอง ขณะที่ชาวจีนมีความสนใจมวยไทยมากขึ้น และเป็นสิ่งที่เราน่าภาคภูมิใจที่ชาวจีนหรือทั่วโลกมีความศรัทธาชื่นชอบในศิลปะการต่อสู้ของไทยเรา"

ขณะที่ "อู๋ จื้อ อู่" อัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยย้ำว่าความสัมพันธ์จีน-ไทยนั้นมีความแน่นแฟ้นเป็นอย่างมากที่มีความพิเศษไม่เหมือนกับชาติอื่น ๆ จีน-ไทยได้ฟันฝ่ามาด้วยกันในเรื่องของสถานการณ์โลก และมีการแลกเปลี่ยนทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ประเทศจีนตอนนี้ได้กลายเป็นคู่ค้าอันดับแรกของประเทศไทย ตอนนี้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาเที่ยวประเทศไทยเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงว่าความสัมพันธ์ของเราอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก

"ผมมีความยินดีที่สภาวัฒนธรรมไทย-จีน จัดมหกรรมกีฬามวยไทยขึ้นที่กรุงปักกิ่งในครั้งนี้ ที่นำสุดยอดนักมวยไทยกับสุดยอดนักมวยไทยของจีนผนึกกำลังกัน เข้าปะทะกับนักมวยไทยจากชาติตะวันตก ทำให้เห็นว่าเมื่อจีนกับไทยได้ร่วมมือ

กันเราสามารถที่จะรับความท้าทายและเอาชนะความยากลำบากทุกอย่างในโลกนี้ และสร้างความสุขนำมาสู่เพื่อนมนุษย์ของเราได้ และรายได้ส่วนหนึ่งจากการจัดการแข่งขันในครั้งนี้จะนำไปช่วยผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล"

ด้านนักชกขวัญใจมหาชน บัวขาว บัญชาเมฆ ให้สัมภาษณ์ว่า ในการชกครั้งนี้เป็นมวยไทยเต็มรูปแบบ หมัด เท้า เข่า ศอก ใช้ได้หมดทุกส่วน เราเป็นตัวแทนประเทศไทยไปผนึกกำลังกับนักมวยชาวจีนปะทะกับนักชกยุโรปและอเมริกา

"ไทยกับจีนมีโอกาสร่วมทีมกันผมก็รู้สึกดีใจที่ได้เป็นตัวแทนคัดเลือกได้ร่วมทีมกับนักมวยจีน เพราะที่ผ่านมาก็ได้ขึ้นชกกับนักมวยจีนหลายครั้ง ส่วนคู่ชกที่ผมจะชกด้วยเป็นชาวรัสเซียที่ผมยังไม่เคยชกด้วยมาก่อน ได้ติดตามผลงานของเขาประมาทไม่ได้เพราะเขาเป็นนักมวยที่หนุ่มมีความแข็งแกร่ง ตอนนี้ร่างกายผมก็สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะมีโอกาสได้ขึ้นชกบ่อยขึ้นหลังจากหยุดไปเกือบปี การออกอาวุธต่าง ๆ เริ่มกลับมาเข้าที่ด้านนักมวยจีนตอนนี้มีการพัฒนาอย่างมาก มีความเป็นมวยมากขึ้นเพราะเขาสนใจมวยไทยมาก อยากจะเชิญชวนแฟน ๆ ชาวไทยที่อยู่ในประเทศไทย หรือแฟนชาวจีนให้เข้าไปชมในการแข่งขันครั้งนี้ เพราะจะเป็นมหกรรมมวยไทยที่สนุกสนานแน่นอน"

ติดตาม "ที-วัน ศึกมวยไทยสนั่นโลก" ได้ในเวลา 18.30 น.

ถ่ายทอดสดทางสถานี ททบ.5, ไทยทีวีโกลบอลเน็ทเวิร์ค และทรูวิชั่นส์ร่วมเชียร์และเป็นกำลังใจให้นักชกไทยและจีนคว้าชัยเหนือคู่ต่อสู้ให้ได้ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวันครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook