การเดินทางอีกครั้งของ RvP

ข่าวการย้ายทีมของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ อาจไม่ได้ถึงกับเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจสำหรับวงการฟุตบอลอังกฤษมากนัก

เพราะตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา “RvP” ตกเป็นข่าวมาโดยตลอดว่าอาจจะถูกปล่อยตัวจากโอลด์ แทรฟฟอร์ด หลังจากทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังในฤดูกาลที่ผ่านมา

เพียงแต่ไม่มีใครคาดคิดว่า “ที่หมาย” ใหม่ของดาวยิงซ้ายพระกาฬจะเป็นที่อิสตันบูล กับทีมเฟเนร์บาห์เช่

เพราะด้วยวัยเพียง 31 ปี และชื่อเสียงที่สั่งสมมาตลอดชีวิตการเล่น ฟาน เพอร์ซี่ สามารถการันตีตัวเองได้แม้ไม่ต้องเอ่ยปากสักคำว่าเขายังอยู่ในฐานะหนึ่งในดาวยิงระดับท็อปของยุโรป

โดยส่วนตัวผมยังเชื่อว่าเขาดีพอที่จะเล่นให้สโมสรใดก็ได้ในระดับท็อปไฟว์ของยุโรปครับ ไม่ต่างจากราดาเมล ฟัลเกา ที่ถูกเชลซีดึงตัวไป

กรณีการย้ายทีมของ ฟาน เพอร์ซี่ จึงน่าสนใจว่าอะไรคือเหตุผลที่ทำให้เขาเลือกที่จะย้ายไปเล่นในลีกระดับรองเช่นนี้?

ตามรายงานข่าว Exclusive จาก The Guardian - คีส วอส เอเยนต์ส่วนตัวของ ฟาน เพอร์ซี่ ใช้เวลาอยู่ในอิสตันบูลช่วง 2 วันที่ผ่านมาเพื่อทำการเจรจาหาข้อตกลงกับสโมสรดังของแดนไก่งวง ซึ่งได้บทสรุปที่จบลงด้วยรอยยิ้มของคนทั้ง 2 ฝ่าย

ฟาน เพอร์ซี่ พร้อมจะเซ็นสัญญาระยะยาว 4 ปี - ซึ่งเป็นสัญญาที่กินระยะเวลายาวนานมากสำหรับกองหน้าในวัย 30 ปี และเป็นสัญญาที่เขาจะไม่มีวันได้รับจากสโมสรระดับท็อปของลีกชั้นนำในยุโรป

ตัวเงินที่ได้รับยังไม่มีการพูดถึง แต่เชื่อว่าสิ่งตอบแทนนั้นไม่น้อยอย่างแน่นอน

อีกฟากของการเจรจา เฟเนร์บาห์เช่ เองก็พยายามที่จะเจรจาพาทีสู่ขอตัวอดีตดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกมาร่วมทีม ซึ่งเชื่อว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เองก็พร้อมจะปล่อยตัวออกจากทีมเพื่อลดภาระค่าเหนื่อย 12 ล้านปอนด์ตามระยะเวลาสัญญาที่เหลืออยู่ออกจากบัญชีการเงินของทีมเช่นกัน

อย่างไรก็นอกเหนือจากการหาเลี้ยงชีพแล้ว อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญคือเรื่องของ “ความท้าทาย”

ตามคำเกลี้ยกล่อมของ เดียร์ค ไคต์ อดีตเพื่อนร่วมทีมชาติฮอลแลนด์ซึ่งผ่านการใช้เวลาในตุรกีมากว่า 3 ฤดูกาล และได้สัมผัสถ้วยแชมป์มาแล้วถึง 3 ใบกับ ซูเปอร์ ลีก, เตอร์กิช คัพ และเตอร์กิช ซูเปอร์ คัพ - เฟเนร์บาห์เช่ และอิสตันบูล ไม่ได้เป็นที่หมายที่แย่นัก

ในทางตรงกันข้ามมันจะเป็นการผจญภัยครั้งใหม่ในชีวิตที่แตกต่างจากที่เขาเคยสัมผัสมาโดยตลอด

เฟเนร์บาห์เช่ กำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลังจากที่ได้ จูเลียโน เตอร์รานีโอ อดีตคนของสโมสรลาซิโอ และอินเตอร์ มิลาน ที่เข้ามาเป็นผู้อำนวยการสโมสรด้านกีฬาที่เป็นชาวต่างชาติคนแรกในประวัติศาสตร์ของทีม

การมาถึงของเตอร์รานีโอ ตามมาด้วยนักเตะอย่าง ไซมอน เคียร์ ซึ่งเปิดเผยว่าเขาเลือกเฟเนร์บาห์เช่ก่อนลิเวอร์พูลเพราะมองเห็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กว่า

นอกจากนี้ยังมี เฟร์นันเดา กองหน้าจากอัตเลติโก พีอารื, เซเนอร์ ออซบายรัคลี แบ็กจากบูร์ซาสปอร์, อับดุลลาย บา และฟาเบียโน สองนักเตะจากปอร์โต้ที่ถูกยืมตัวมา

อีกหนึ่งคนคือ นานี่ เพื่อนร่วมถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดของฟาน เพอร์ซี่ ที่จะย้ายไปเล่นที่นั่นร่วมกันด้วย  และช่วยทำให้หัวใจอบอุ่นขึ้นอย่างมาก

คนสุดท้ายที่กดปุ่ม “ผ่าน” ให้คือภรรยาที่ไม่มีปัญหากับการย้ายไปใช้ชีวิตในเมืองใหม่ เพราะได้ลองเดินทางมาเที่ยวอิสตันบูลและ “หลงรัก” เมืองแห่งนี้ขึ้นมา ก็ไม่มีเหตุผลใดที่ฟาน เพอร์ซี่ จะไม่ตอบตกลงในการเจรจาครั้งนี้

มันอาจจะน่าเสียดายอยู่บ้างสำหรับ ฟาน เพอร์ซี่ ที่ได้ใช้เวลาแสนสั้นในโอลด์ แทรฟฟอร์ด เพียง 3 ฤดูกาล และสถานการณ์หลายอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

จากนักเตะที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ร้องขอต่อบอร์ดบริหารให้ช่วยคว้าตัวมาร่วมทีมให้ได้ในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล 2012-13 แม้จะต้องแลกด้วยการจ่ายเงินมหาศาลกว่า 20 ล้านปอนด์

ซึ่งอาจเป็นตัวเลขที่ไม่คุ้มค่าในเชิงธุรกิจ แต่สุดท้ายนั้นเกินคุ้มเพราะ ฟาน เพอร์ซี่ คือดาวยิงที่ช่วยพาทีมคว้าแชมป์ได้ในฤดูกาลนั้น และเป็นแชมป์ครั้งสุดท้ายของสโมสร เป็นของขวัญอำลาที่ดีที่สุดสำหรับเฟอร์กี้ด้วย

จากบทบาทของนักเตะคนสำคัญในทีม และถูกคาดหมายว่าจะได้เป็นกัปตันทีมคนใหม่ต่อจาก เนมันย่า วิดิช ที่อำลาทีมไป

แต่ท้ายที่สุดกุนซือคนดัตช์เหมือนกันอย่าง หลุยส์ ฟาน ฮาล เลือกจะฝากอนาคตของทีมระยะยาวเอาไว้กับ เวย์น รูนี่ย์ มากกว่าโดยที่ ฟาน เพอร์ซี่ ไม่ได้เป็นแม้กระทั่งรองกัปตันทีม ซึ่งเป็นการส่ง “สัญญาณ” ในทางอ้อมว่าเวลาและบทบาทของเขากับทีมอาจเหลือไม่มาก

อาการบาดเจ็บเรื้อรังมีส่วนเร่งให้ทุกอย่างเดินทางถึงบทสรุปที่รวดเร็วขึ้น

มันอาจจะน่าใจหายอยู่บ้างในวูบแรก

แต่หลังจากนั้นจะมีเพียงจังหวะของหัวใจที่เต้นระรัวกับการผจญภัยครั้งใหม่ที่รออยู่

 - Football insight -
by ลูกแม่กิ่ง (lookmaeking@hotmail.com)