My Manchester United ที่ไม่มี "ดิ มาเรีย"

My Manchester United ที่ไม่มี "ดิ มาเรีย"

My Manchester United ที่ไม่มี "ดิ มาเรีย"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันก่อนที่ผมเขียนถึง หลุยส์ ฟาน ฮัล และแง่มุมความคิดล่าสุดของเค้าส่งตรงจากแคลิฟอร์เนีย ณ ฐานเก็บตัวของทีมปิศาจแดง แมนฯยูไนเต็ด

กุนซือวัยย่าง 64 ปีไม่ได้สร้างประเด็นใหญ่เฉพาะหัวข้อจะ “อำลา” ยอดทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ในอีก 3 ปีข้างหน้า เพราะให้สัญญากับภรรยาไว้เท่านั้น

แต่ยังมีเรื่องที่มองว่า คริสเตียอาโน่ โรนัลโด้ จะเป็นนักเตะ “ในฝัน” ที่ตอบโจทย์การสร้างทีมของเค้า

“ตอนนี้ยังคง Not my Manchester United” ฟาน ฮัล ว่าไว้แบบนั้น

และพูดว่า โรนัลโด้ คือ นักเตะในลักษณะที่เค้าต้องการ เพราะการแข่งขันในเวที แชมเปี้ยนส์ ลีก และกัดกับ บาร์ซ่า, เรอัล มาดริด, บาเยิร์น มิวนิค ที่มี เมสซี่/เนย์มาร์, โรนัลโด้/เบล หรือริเบอรี่/ร็อบเบน

แมนฯยูฯ ต้องมีตัวรุกซึ่งมี “สปีด” และ “ความสร้างสรรค์”

นั่นเป็นเหตุผลที่เค้ายังต้องการ อังเคล ดิ มาเรีย ไว้ในทีม และยังต้องการเสริมผู้เล่นเข้ามาอีก


เขียนถึงตรงนี้ พลันเหลือบไปเห็นบทวิเคราะห์ “ทำไมการเซ็นสัญญา ดิ มาเรีย จึงไม่เวิร์กกับทีมแมนฯยูไนเต็ด” จากเว็ปไซต์ “บีบีซี” ที่ตีแผ่ไว้หลากหลายแง่มุม

แต่เหนือสิ่งอื่นใดก่อนจะ “ไปเจาะ” แง่มุมเหล่านี้ ผมมีคำถามย้อนกลับมาเหมือนเดิมว่า ดิ มาเรีย เพิ่งจะได้โอกาส 1 ซีซั่นเท่านั้น และหากฟาน ฮัล หาใครที่มี “สปีด” และความ “สร้างสรรค์” ไม่ได้จริง ๆ

มันจะมีใครดีกว่า การจะเก็บดาวเตะอาร์เจนไตน์รายนี้เอาไว้? หรือความมีความพยายามเป็น “รูปธรรม” มากกว่านี้ไหม?

เพราะโดยส่วนตัว และหากผมเป็น ดิ มาเรีย ผมคงรู้สึกไม่สบายใจไปตลอดชีวิตที่ไม่สามารถตอบคำถามให้ตัวเอง และลูกหลานได้ว่า “ทำไมไม่ประสบความสำเร็จในพรีเมียร์ลีก?”

หรือ “ได้พยายามอย่างเต็มที่ถึงที่สุดหรือยัง?” หรือฟาน ฮัล จริงจัง จริงใจ แค่ไหน?

นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ผม “ชื่นชอบ” การโยกย้ายของ ราดาเมล ฟัลเกา ไม่ว่าจะเพราะจะใช้เอเยนต์คนเดียวกับ โจเซ่ มูรินโญ่ หรือจะมีเบื้องหลังแอบแฝงหรือเปล่า? ผมไม่สนใจ

แต่เลือกมองว่า อย่างน้อย ฟัลเกา แสดงความพยายาม และโชคดีที่ได้โอกาสที่ 2 ในอังกฤษจากมูรินโญ่


ซึ่งผมมั่นใจว่า ผลงานดาวเตะโคลัมเบีย จะไม่แย่กว่าซีซั่นแรกที่แมนฯยูฯ แน่นอน!

วกมาที่ประเด็น ดิ มาเรีย ไม่ประสบความสำเร็จ (ในซีซั่นแรก – ที่อาจเป็นซีซั่นเดียวหากย้ายไป เปแอสเช จริง ๆ)

“บีบีซี” มองเหมือนทุกคนว่า ดิ มาเรีย เจ้าของสถิติการย้ายทีมสูงสุดของเกาะอังกฤษ 59.7 ล้านปอนด์ ทำได้ดีในช่วงแรกที่ยิง 1 ประตู และ assist 3 หนใน 4 แมตช์แรก

แต่หลังจากชนะเอฟเวอร์ตัน 5 ต.ค.ไปจนถึง 4 ม.ค.ที่ชนะโยวิล ทาวน์ ในบอลถ้วยเอฟเอ คัพ มิดฟิลด์วัย 27 ปีทำประตูไม่ได้เลย

ระหว่างนั้น ดิ มาเรีย ถูกวางให้ทดลองเล่นในตำแหน่งต่าง ๆ ไม่เว้นแม้แต่กองกลาง (ตัวกลาง) และกองหน้า รวมแล้วถึง 6 ตำแหน่งโดย หลุยส์ ฟาน ฮัล

มีเกมต้องทัวร์เอเชีย เดินทางไปกลับกว่า 12,000 ไมล์กับอาร์เจนติน่า และปัญหาอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาต่อเนื่องจากบอลโลก 2014 และกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ที่อย่างหลังทำให้เจ้าตัวพักแข้งตลอดเดือน ธ.ค.2014

มีโจรขึ้นบ้านเดือน ม.ค.2015 และน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ภรรยา และครอบครัวไม่อยากอยู่เมืองแมนเชสเตอร์ อีกต่อไป และจากนั้นฟอร์มก็ “รูดลง” เรื่อย ๆ


แน่นอนครับ นักเตะไม่ว่า เกรดไหน ย่อมมีปัญหาการ “ปรับตัว” กับสภาพแวดล้อม วัฒนธรรม ภาษา ฯลฯ ของประเทศใหม่ เมืองใหม่ และทีมใหม่

กรณี ดิ มาเรีย ผมว่า “พิเศษ” ตรงที่ แรกเริ่มเล่นได้ดีมากก่อนค่อย ๆ เฟดตัวลง ฉะนั้นจึงคล้าย ๆ ว่า เรื่องฟุตบอลไม่มีผล แต่มีปัญหารอบด้านมากกว่า

พิจารณาดังนี้ และเห็นความพยายาม “สร้างทีม” ให้เป็น My Manchester United ของหลุยส์ ฟาน ฮัล ซึ่งซัมเมอร์สอยมาแล้ว 5 ตัวก็อดเสียดายไม่ได้

หากสุดท้ายพวกเค้าจะรั้ง อังเคล ดิ มาเรีย ไม่ได้จริง ๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook