สกู๊ป : โอกาสที่ผ่านเลยไปของ "ปืนใหญ่"

สกู๊ป : โอกาสที่ผ่านเลยไปของ "ปืนใหญ่"

สกู๊ป : โอกาสที่ผ่านเลยไปของ "ปืนใหญ่"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผมอยากให้ตัดประเด็น นักเตะเรียงคิวกัน “บาดเจ็บ” สลับไปมา คนหนึ่งหาย อีกคนตามขึ้นเขียงแทนนะครับ เพราะเกมระดับเยือน แคร์โรว์ โร้ด ทัพนักเตะอาร์เซนอล สมควรมี 3 แต้ม สถานเดียว

เฉพาะอย่างยิ่ง เกมนี้เป็นอีกนัดที่ “เหนือกว่า” ชัดเจน และยิงนำคู่แข่งได้ก่อน ทว่าสุดท้ายกลับไม่สามารถเก็บ 3 แต้ม ได้เฉยเลยครับ

นัดก่อนก็เยือนถิ่น ฮอว์ธอร์น ของเวสต์ บรอมวิช และสามารถออกนำไปก่อน 1-0 ในช่วงต้นเกมที่ “วูบวาบ” หวือหวา เฉพาะอย่างยิ่งตอน เมซุต โอซิล, อเล็กซิส ซานเชซ, ซานติ กาซอร์ล่า และผองเพื่อนแนวรุก “เข้าฝัก” คลิกกัน

มันจะเป็นภาพแบบที่อดีตกองหน้าของทีม อลัน สมิธ ซึ่งปัจจุบันเป็นคอลัมนิสต์ให้ “เดลี เทเลกราฟ” ได้กล่าวไว้ครับว่า ไม่มีทีมใดเล่นเกมรุกได้ (งดงาม) เหมือนอาร์เซนอล

ถูกต้องครับ เพราะไม่น่าจะมีทีมใดที่มีรูปแบบการซ้อม และเล่นเหมือนที่ อาร์แซน เวนเกอร์ ได้สร้างเอาไว้

“มูฟเมนต์” ตอนทุกอย่างลงตัว นักเตะต่างอยู่ใน “อารมณ์ร่วม” ที่ดีกับเกม ณ ยามที่อะไรๆ “เป็นใจ” เราจะได้เห็นความหอมหวานของเกมฟุตบอล

ตามแบบฉบับ The Beautiful Game อย่างแท้จริง


อย่างไรก็ดีครับ อาร์เซนอล มี “จุดอ่อน” ง่ายๆ ไม่ต่างอะไรกับนักมวย “คางเปราะ” นั่นคือ ต่อยมาดีๆ ทำแต้มมาสวยๆ ด้วยสไตล์ และรูปมวยกินขาด

สุดท้ายโดน “หมัดเดียว” น็อก หรือเสียรูปมวย เสียคะแนนไปเลย

นัดนี้ หรือนัดที่ผ่านมาที่ดูเหลี่ยมไหน มุมใด ทั้ง “ชื่อชั้น” และความสามารถ รวมถึง “หน้างาน” ในสนามที่เกิดจริงกลับสร้างเครื่องหมายคำถามให้เกิดขึ้นครับว่า “เกิดอะไรขึ้นกับอาร์เซนอล?”

แพ้เวสต์ บรอมวิช และเสมอนอริช 2 เกมที่ต้องได้ 6 แต้ม ทว่ากลับทำได้เพียง 2 คะแนน หาไม่แล้ว “จ่าฝูง” ตอนนี้จะไม่ใช่ แมนฯ ซิตี้ นะครับ

แต่จะเป็นอาร์เซนอล!!!

หรือหากชนะ 1 เสมอ 1 คะแนน ก็ต้องมีค่าเท่ากับ “จ่าฝูงร่วม” 29 คะแนน

ทั้งนี้ ผมพูดเพียง 2 นัดล่าสุดในลีก แต่ใน “ภาพรวม” มันคงต้องลงลึกถึงสภาพ “จิตใจ” ความมั่นใจ หรือไปถึง “ความเชื่อ” ของทีมว่ามีมากพอ หรือพร้อมขนาดไหน?

จะรับมือการบาดเจ็บที่ล่าสุด โลร็องต์ กอสเซียลนี่ และ ซานเชซ ดันมาเจ็บเพิ่มอีกตามหลังพวก ธีโอ วัลค็อตต์, ฟรานซิส โกเกอแล็ง, โทมัส โรซิคกี้, มิเกล อาร์เตต้า, แจ๊ค วิลเชียร์, แดนนี่ เวลเบ็ค ฯลฯ

เกมที่แล้ว พอโกเกอแล็งเจ็บระหว่างเกม ทีมมีแกว่งจากนำจนแพ้, เกมนี้ ก็ดูเหมือนแก้ปัญหาหน้างานเดิมๆ ไม่ได้หลัง กอสเซียลนี่ และ ซานเชซ เจ็บ

นักเตะที่เหลือดูขาดความมั่นใจ และเร่งไม่ขึ้น ทั้งที่คู่แข่ง “โนเนม” มาก ไม่ใช่ทีมใหญ่ และทัพนักเตะของเวนเกอร์ก็จัดว่า ขนาดใหญ่พอทั้งตัวจริง และสำรอง เช่น อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ที่หายเจ็บเปลี่ยนลงมา

อีกทั้งขุนพลชั่วโมงนี้หลังได้ ปีเตอร์ เช็ก มายืนเฝ้าเสา อาร์เซนอล แทบจะกล่าวได้ว่า “ลงตัว” และสมบูรณ์ในระดับ “ท็อป ทู” หรือไม่อันดับ 1 ก็ต้อง 2


เพราะผมเขียนในจุดที่ปีนี้ เชลซี ไม่เหมือนเดิม ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังสร้างทีม และ แมนฯ ซิตี้ ก็ไม่แน่นอนอย่างที่ทราบๆ กัน

ดังนั้น จะว่าไปแล้ว อาร์เซนอล ดูจะ “เหมาะสม” กว่าทุกๆ ทีมที่เอ่ยชื่อมาข้างต้นด้วยซ้ำ

หรือเขียนในอีกมุมหนึ่งคือ ปีนี้อาร์เซนอลมี “โอกาส” มากกว่าทุกปี!!!

ซึ่งหากจะนับย้อนไปหลายๆ ซีซั่น ฤดูกาลนี้น่าจะเป็นปีที่ “เปิดกว้าง” มาก และยิ่ง สเปอร์ส ภายใต้การนำทัพของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เริ่มลงล็อก น่ากลัว

เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ทำให้ “โมเมนตัม” ลิเวอร์พูล เริ่มติด และล่าสุดคว้าชัยในบ้านในพรีเมียร์ลีกเกมแรกได้แล้วต่อสวอนซี

อะไรๆ น่าจะดีขึ้น และรออีกนิดเพียงเดือนมกราคม ตอนตลาดนักเตะรอบ 2 เปิดตัว ลิเวอร์พูล, แมนฯ ยูฯ และหลายๆ ทีมน่าจะ “เอาแน่”

แต่อาร์เซนอล แม้จะมีตังค์ ทว่า อาร์แซน เวนเกอร์ น่าจะระมัดระวังเหมือนเดิมจนน่าฉงนว่า กุนซือเลือดเฟรนช์คิดอะไรอยู่? หรือรออะไร? แค่ไหน? อย่างไร?

ในซีซั่นที่อาร์เซนอลน่าเสี่ยงอย่างน้อย ซื้อกองหน้าระดับโลกเติมเข้ามา เพราะนี่จะเป็นปีที่พวกเค้ามีลุ้นมากที่สุด ชัดเจนที่สุด

หาไม่แล้ว เราๆ ท่านๆ คงได้เห็น “โอกาสที่ผ่านเลย” (แค่) อีกปีของ อาร์เซนอล ครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook