สกู๊ป “อันเชล็อตติ” ของดีที่พี่เสือได้ไป

สกู๊ป “อันเชล็อตติ” ของดีที่พี่เสือได้ไป

สกู๊ป “อันเชล็อตติ” ของดีที่พี่เสือได้ไป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แน่นอนว่าเรื่องของการแยกทางระหว่างพี่เสือ “บาเยิร์น มิวนิค” กับ “เป็ป กวาดิโอร่า” หลังจบฤดูกาลนี้กลับเป็นเรื่องที่สื่อและแฟนบอลให้ความสนใจจนเป็นกระแสมากกว่า

จนทำให้เรื่องกุนซือคนใหม่ของยอดทีมจากเยอรมันดูเงียบไปเลย แม้ว่าจะเป็นชื่อของ “คาร์โล อันเชล็อตติ” ก็ตาม

อย่างไรก็ตามเชื่อสาวกพี่เสือน่าจะพอใจกับกุนซือคนใหม่ที่จะมาทำทีมต่อในฤดูกาลหน้าอย่าง “อันเชล็อตติ” เพราะในยุคนี้ ชื่อชั้นและฝีมือความสามารถในการคุมทีม ก็ไม่เป็นสองรองจาก “เป็ป” หรือ “โจเซ่ มูรินโญ่” เองเท่าไหร่

 ที่สำคัญต้องชมฝ่ายบริหารของทีมที่สามารถดึงตัวยอดกุนซือคนนี้มาสู่ทีมได้ในยุคที่ “โค้ช” หรือ “ผู้จัดการทีม” มีความสำคัญต่อทีมฟุตบอลไม่น้อยกว่านักเตะ

โจทย์ของ “อันเชล็อตติ” ในฤดูกาลหน้า น่าจะเป็นอะไรที่ถนัดอยู่แล้ว ด้วยชื่อเสียงในเรื่องของการเป็นโค้ชที่มี “ลูกเก๋า” และเก่งเรื่อง “แท็คติค” น่าจะตอบโจทย์ของทีมตอนนี้ได้ไม่ยาก


เนื่องจากในทีมตอนนี้มีองค์ประกอบในเรื่องตัวผู้เล่นที่ “เก่ง” อยู่แล้วและระบบทีมที่ได้กุนซือคนก่อนอย่าง “เป็ป” วางเอาไว้ จะขาดก็เพียงความขี้ยวและความละเมียดละไมในเกมสำคัญ หรือในสถานการณ์คับขัน

โดยเจ้าตัวเป็นกุนซือที่ “เข้าถึง” นักเตะ มากกว่า “เป็ป” ที่ดูจะทำงานในแบบความสัมพันธ์เจ้านายกับลูกน้องมากกว่า

ขณะที่ “อันเชล็อตติ” น่าจะให้ความสัมพันธ์แบบลูกพี่กับลูกน้อง มิเช่นนั้นเจ้าตัวคงไม่โทรศัพท์ให้ “ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา” เพื่อแนะนำตัวในสมัยที่เพิ่งเข้ามาคุม “เชลซี” ในปี 2009

ถึงแม้จะให้ความสัมพันธ์กับตัวเองมากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง แต่ก็เป็นโค้ชที่ไม่เคยเข้าไปยุงกับเรื่องส่วนตัวของนักเตะ 

ขอแค่เพียงในสนามซ้อมกับตอนลงสนามแข่งต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีตามสิ่งที่เจ้าตัวต้องการเท่านั้น เรื่องอื่นนักเตะต้องรับผิดชอบตัวเองและอย่าปล่อยให้มากระทบเรื่องในสนาม

ที่สำคัญยอดโค้ชชาวอิตาเลี่ยนผู้นี้มักจะให้โอกาสนักเตะอยู่เสมอ แต่เวลาสำคัญหรือเกมที่ตัดสินชี้เป็นชี้ตายก็จะเลือกสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดเพียงอย่างเดียว


ที่มองว่าเหมาะกับขุนพลบาเยิร์นที่มีขุมกำลังนักเตะไม่แพ้ทีมไหนในโลก และต้องยอมรับว่านักเตะภายในทีม “เก่ง” อยู่แล้ว

ตั้งแต่ผู้รักษาประตูอย่าง “มานูเอล นอยเออร์” พวกมิดฟิลด์อย่าง “ชาบี้ อลองโซ๋” “อาตูโร่ วิดัล” ไปจนถึงพวกแนวรุกระดับพระกาฬ อย่าง “โธมัส มุลเลอร์””ดั๊กลาส คอสต้า” “มาริโอ เกิตเซ่”

หรือตัวเก๋าอย่าง “อาเยน ร็อบเบน” กับ “ฟร้อง ริเบรี่” ไปจนถึงกองหน้าเบอร์หนึ่งของทีมอย่าง “โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้”

ส่วนแนวรับอาจจะมองว่าเป็นจุดอ่อนที่สุดของทีมอย่าง “ราฟินญ่า” “เจอโรม บัวเต็ง” “ฮวน แบร์นาต” และ “ฟิลิปป์ ลาห์ม” ก็จะแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน


อย่าลืมว่า “อันเชล็อตติ” เป็นโค้ชสาย “อิตาเลี่ยน สคูล” ที่ขึ้นชื่อลืมชาเรื่องเกมรับอยู่แล้ว สิ่งนี้จะเป็นตัวเสริมให้ทีมแข็งแกร่งมากขึ้นในจุดนี้อย่างแน่นอน

 “อันเชล็อตติ” คือคำตอบของสิ่งที่ยอดทีมอย่าง “บาเยิร์น” ขาดไปซึ่งมีความสำเร็จด้วย “แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก” 3 สมัย (2 สมัยกับมิลาน และ 1 สมัยกับมาดริด) แชมป์ลีกสูงสุดของ 3 ลีกใหญ่ในยุโรป (กัลโช่ เซเรียอากับมิลาน พรีเมียร์ลีกกับเชลซี และ ลีกเองกับปารีส แซง แชร์แมง) การันตี

งานนี้ “บาเยิร์น มิวนิค” ได้โค้ชคนใหม่ที่ “ครอบเครื่อง” อันดับต้นๆของโลก ถือว่าเป็นของดีที่พี่เสือได้ไปจริงๆครับ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook