สกู๊ป : หลังปีใหม่เป็นอย่างไร...?

พรีเมียร์ ลีกช่วงเวลานี้เป็นการลงเล่นกันเรื่อยเปื่อยเหมือนไม่เหนื่อยไม่ล้ากันแต่ อย่างใด แทบจะวิเคราะห์ วิจารณ์หรือพูดถึงประเด็นต่างๆกันไม่ทัน

เอาเป็นว่าพูดถึงภาพรวมๆในประเด็นที่มีการพูดถึงกันบ่อยๆดีกว่าครับ

เลสเตอร์ไปถึงแชมป์หรือเปล่า...

เป็นเรื่องราวที่มีการพูดถึงแน่นอน ปฏิเสธไม่ได้ว่า เคลาดิโอ รานิเอรี่ พาเลสเตอร์สร้างผลงานที่เป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์อย่างแท้จริง

ช่วงคริสต์มาสหรือช่วงกลางของฤดูกาลที่แล้ว เลสเตอร์อยู่ท้ายตาราง ทว่านาทีนี้ยึดหัวหาดกันเลยทีเดียว

นั่นทำให้มีการคิดไกลไปว่า เลสเตอร์ทีมนี้จะไปถึงแชมป์พรีเมียร์ ลีกได้หรือไม่

รานิเอรี่ ตอบคำวิจารณ์ของสื่อด้วยการพาทีมโชว์ผลงานที่เหลือเชื่อ เป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายต่อหลายทีมหยิบยกมาเป็นตัวอย่าง

จิ้งจอกสยามเป็นทีมที่ไม่มีความหวาดหวั่นพรั่นพรึงต่อคู่แข่งที่ครองบอลได้มากกว่า

สถิติของตัวเองกับการครองบอลนั้นอยู่ในระดับเดียวกับซันเดอร์แลนด์หรือเวสต์ บรอม

ทว่านั่นไม่ใช่ปัญหาเลย ทุกครั้งที่ครองบอลได้ ตัดบอลได้ กลับมาเป็นฝ่ายโต้กลับ ประสิทธิภาพมาแบบเต็มๆ

ความสมดุลตรงนี้ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวในยามที่ไม่มีบอล และยามที่กลับมาครองบอล

แดนกลาง ของทีมเต็มไปด้วยพลังงาน มีลูกเล่นแพรวพราว เล่ห์เหลี่ยมในการออกบอล การผ่านบอลจากริมเส้นสู่ เจมี่ วาร์ดี้ ที่รอปิดฉาก ประสิทธิภาพสูงมาก

เรื่องที่ท้าทายและอาจจะเป็นปัญหาใหญ่มาขัดขวางการเดินหน้าของทีมก็คือเกมรับเสียประตูมากเกินไป

แน่นอนว่าถ้ากองหน้ายังคงยิงประตูได้มากกว่าที่เสียให้คู่แข่งก็เป็นเรื่องดี

หากวันหนึ่ง ริยาด มาห์เรซกับเจมี่ วาร์ดี้ หยุดผลิตสกอร์ขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น หากตัวหลักเหล่านี้ติดโทษแบน บาดเจ็บ

หรือเกิดอาการล้าจนฟอร์มหล่นหาย จะเกิดอะไรขึ้น ตรงนี้เป็นประเด็นใหญ่มากสำหรับเลสเตอร์

ทว่านาทีนี้หากยังคงเดินหน้าได้ดีก็เอาใจช่วยและลุ้นกันไปเรื่อยๆก็แล้วกัน

เชลซีจะดีขึ้นหรือเปล่า...

กุ ส ฮิดดิ้งค์ ออกมาประกาศชัดเจนแบบโครมครามว่า เชลซีชุดนี้พร้อมที่จะสร้างผลงานติดท็อปโฟร์ พร้อมที่จะเป็นแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก และแชมป์เอฟเอ คัพ

นั่นหมายความว่าผลงานต้องดีขึ้นแบบผิดหูผิดตา ซึ่งกำลังถูกจับตามองเป็นพิเศษถึงความเป็นไปได้

ทัศนคติของนักเตะเชลซีที่มีต่อกุนซือคนใหม่ต้องมีความแตกต่างให้เห็นอย่างชัดเจน

โจเซ่ มูรินโญ่ พยายามทำงานบนความกดดันที่ตัวเองสร้างพื้นฐานความสำเร็จเอาไว้

กดดันลูกทีมทุกทางจนกลายครั้งถึงกับด่าผ่านสื่อ นักเตะฝีเท้าดี กุนซือฝีมือดี แต่ทัศนะคติชักจะห่างออกไปเรื่อยๆ

เป็นเรื่องท้าทายของ กุส ฮิดดิ้งค์ กับการพยายามกระตุ้นให้นักเตะทุกคนมีแนวทางเดียวกัน

กลับมาสร้างผลงานที่ควรจะเป็นแบบเป็นหนึ่งเดียว ให้ลูกทีมทุกคนมีทัศนะคติเช่นเดียวกับกุนซือ

ขึ้น อยู่กับ กุส ฮิดดิ้งค์ จริงๆครับกับการพาทีมเชลซีกลับมาให้ได้ หลายคนยังคงเชื่อมั่นว่าไม่ใช่เรื่องเกินเลยแต่อย่างใดกับสิ่งที่ ฮิดดิ้งค์ ออกมาประกาศ

หลังจากคริสต์มาสจะดีขึ้นนี่คือสิ่งที่ขีดเส้นใต้เอาไว้ครับ

ผีแดงเล่นให้สนุกหน่อย...

พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาล 2015-16 เดินทางมาเกือบครึ่งทาง หลุยส์ ฟาน ฮัล กับสื่อยังคงมีเรื่องถกเถียงเหมือนเดิม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ร่วงแคปิตอล วัน คัพ ด้วยน้ำมือของมิดเดิ้ลสโบรห์

หลังจากนั้นก็ร่วงแชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยผลงานนัดสุดท้ายที่โดนโวล์ฟสบวร์กเล่นงาน 6 นัดสุดท้ายทุกถ้วยที่ผ่านมา

ก่อนเกมบ๊อกซิ่งเดย์ผีแดงไม่ชนะใคร นี่ไม่ใช่ผีแดงที่แฟนบอลต้องการเห็นแน่นอน

หลุยส์ ฟาน ฮัล กำลังสร้าง กำลังปูพื้นฐานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดขึ้นมาใหม่ ต้องใช้เวลากันหน่อย เป็นเรื่องที่เข้าใจได้

ทว่าหลายอย่างดูเหมือนไม่ค่อยคืบหน้าอย่างที่ควรจะเป็น นักเตะที่ทีมทุ่มซื้อตัวเข้ามาด้วยจำนวนเงินรวมกันมหาศาล

ยังคงไม่เห็นแววที่ชัดเจน มีแต่พวกที่ยังคงไม่สามารถลงหลักปักฐานทั้งสิ้น

การจัดตัวผู้เล่นจึงอยู่บนพื้นฐานของความไม่แน่ใจ ความไม่มั่นใจในนักเตะเหล่านั้น เกิดความลังเลขึ้นมา

ประจวบเหมาะกับแรงบันดาลใจของทีมอย่าง เวย์น รูนี่ย์ ไม่สามารถยืนหยัดสร้างเรื่องราวดังกล่าวได้

ทั้งกุนซือและกัปตันทีมเลยโดนวิจารณ์ไปพร้อมๆกัน หลุยส์ ฟาน ฮัล บอกว่าการสร้างทีมต้องรอกันหน่อย

ทุกอย่างต้องดำเนินไปตามปรัชญาฟุตบอลที่กำหนดเอาไว้แล้ว

รอได้ครับกับเรื่องราวดังกล่าว ทว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในในแฟนบอลและบรรดาอดีตแข้งผีแดงทั้งหลาย

ก็คือบางสิ่งบางอย่างควรรักษาเอาไว้ไม่ต้องสร้างใหม่ทั้งหมด

สไตล์ ฟุตบอลที่กลายเป็นวัฒนธรรมของผีแดงก็คือเกมในสนามต้องมีความบันเทิง ต้องมีเกมรุกที่ดุดันก้าวร้าวสร้างความตื่นเต้นได้ตลอด 90 นาที

เป็นวัฒนธรรมที่ไม่สามารถลบออกไปจากจิตใจของแฟนบอลผีแดงได้ ทุกอย่างซึมลึกลงไปจากการเล่นในสไตล์ดังกล่าวและมีความสำเร็จเสมอมา

ทุกอย่างรอคอยกันได้แต่ถ้ายังคงไว้ซึ่งความบันเทิงก็โอเค จะช่วยลดกระแสความไม่พอใจได้มากทีเดียว

แน่นอนครับเกมรุกของผีแดงที่ หลุยส์ ฟาน ฮัล พยายามผลักดันมีสถิติที่ดีขึ้นตามลำดับ ทว่าภาพรวมยังคงไม่สนุกอยู่ดี

พอล สโคลส์ อดีตมิดฟิลด์ผีแดงคือคนที่ออกมาโวยวายเป็นประจำเกี่ยวกับสไตล์ของผีแดงที่ขาดความบันเทิง ขาดความก้าวร้าวอย่างแรง

ใครจะมีปรัชญาอย่างไรก็ว่าไป แต่การเล่นของทีม สไตล์ของทีมยังคงต้องเน้นเกมรุกและใส่ความบันเทิงให้แฟนบอลลุ่นกันตัวโก่งต่อไป

ผี แดงกำลังอยู่บนความเปลี่ยนแปลง ทว่าในระหว่างการเดินทางต้องมีการตอบสนองเรื่องราวบางอย่างไว้ตลอดเวลาเพื่อ รักษาบรรยากาศและลดความกดดัน

โจเซ่ มูรินโญ่ โดนไปแล้ว หลุยส์ ฟาน ฮัล ก็อย่าคาดหวังว่าทุกอย่างจะหนุนหลังเต็มที่ตลอดเวลา

ความกดดันจากข้างสนามของแฟนบอลไม่ใช่เรื่องที่สามารถมองข้ามไปได้ ลุ้นกันต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น...

เรื่องโดย : ดามัน