สกู๊ป : "ลมหนาวกับชาวหงส์" (โดย มาร์ค-สุรเดช)

ย้อนหลังกลับไปที่ 3 แต้มกับชัยชนะด้วยสกอร์มโหฬาร 5-4 ที่สนามแคร์โรว์ โร้ด เมื่อคืนวันเสาร์ ทำให้ ลิเวอร์พูล ยังพอมีลุ้นกับการจะทำอันดับเพื่อไปเล่นฟุตบอลสโมสรยุโรปในฤดูกาลหน้าโดยเฉพาะกับถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

นับเป็นฤดูกาลที่พรีเมียร์ลีกมีผลการแข่งขันแบบเกินความคาดหมายให้ได้เห็นกันอยู่ตลอด สัปดาห์นี้เราได้เห็น อาร์เซน่อล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องสะดุด ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ เวสต์แฮม ก็แชร์แต้มกัน และนั่นทำให้ทุกทีมในครึ่งบนของตารางคะแนนยังมีลุ้นกับการจะเร่งเก็บคะแนนเพื่อไปให้ถึงพื้นที่ฟุตบอลยุโรปที่รออยู่

ผมวกกลับมาที่ประเด็นของลิเวอร์พูลนะครับ แม้จะไม่ได้มีโอกาสนั่งดูเกมแบบเต็มๆแมตช์ แต่เพียงแค่ไฮไลท์ที่ได้ชมก็ทำให้เห็นว่าแต่ละประตูที่เกิดขึ้นในเกมนี้ มีที่มาที่ไปกันอย่างไรบ้าง

การป้องกันลูกเตะมุมที่ยังทำได้ไม่ดี ยังทำให้ลิเวอร์พูลเสียประตูจากจุดนี้อยู่ ขณะที่การยืนคุมพื้นที่ในแนวรับและการปล่อยให้ทำชิ่งนำมาซึ่งการเสียประตูที่สอง

จุดโทษที่นำไปสู่ประตูที่สามของ นอริช อาจมีปนด้วยความโชคร้ายที่เหลี่ยมนั้นผู้ตัดสินอาจมองเห็นในมุมที่ โมเรโน่ ไปเข้าด้านหลัง ส่วนประตูที่สี่ซึ่งน่าจะปิดเกมได้แล้ว ก็พลาดจากการเคลียร์บอลไม่ขาด

4 ประตูในเกมนี้น่าจะสะท้อนให้เห็นว่า ลิเวอร์พูล ยังมีสิ่งที่ต้องทำให้ดีขึ้นอย่างมากนั่นคือเกมรับที่ต้องเหนียวแน่นและแข็งแกร่งกว่านี้

ปัญหาอาการบาดเจ็บอาจจะเป็นสาเหตุสำคัญสำหรับการทำคะแนนหลุดมือไปในหลายๆเกม และผมเชื่อว่า คล็อปป์ จะซื้อกองหลังตัวใหม่แน่นอนในซัมเมอร์นี้ เพียงแต่ทีมจะได้ตัวใครเข้ามาและตรงใจกับที่แฟนบอลต้องการหรือไม่นั้น คงเป็นสิ่งที่เราต้องตามลุ้นกัน

เกมรับโดนวิจารณ์โดนพูดถึงไปแล้ว ขอพูดถึงเกมรุกของทีมบ้างนะครับ เกมนี้ ลิเวอร์พูล ใช้โอกาสไม่ค่อยเปลืองนัก แม้จะไม่ได้เล่นในตำแหน่งหน้าเป้าเป็นตำแหน่งถนัดที่สุด แต่ ณ นาทีนี้คงต้องให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เป็นตัวความหวังของทีมไปแล้วในเรื่องการทำประตู

สองประตูจากเกมนี้ทำให้ ฟีร์มิโน่ สมควรจะได้รับรางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครอง ถึงแม้ว่าประตูของ อดัม ลัลลาน่า ในช่วงบีบหัวใจทดเจ็บท้ายเกมจะทำให้ทีมได้สามคะแนนอย่างเด็ดขาดก็ตาม

ด้วยทักษะการทำประตูในตัวของ ฟีร์มิโน่ อาจจะทำให้ ลิเวอร์พูล พอแก้ไขเรื่องปัญหากองหน้าเจ็บไปได้ในระดับหนึ่ง และหากทีมไม่ได้ลงไปในตลาดซื้อขายเพื่อควานหากองหน้าตัวใหม่เข้ามา ผมคิดว่าถ้ากรณีที่ขาย ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ออกไปจริงๆนั้น การให้ ฟีร์มิโน่ ขึ้นมาเล่นเป็นกองหน้าเต็มตัวอาจจะเป็นการแจ้งเกิดของเจ้าตัวเลยก็เป็นได้

รายของ เบนเตเก้ แม้จะทำประตูในเกมนี้ไม่ได้ แต่ก็มีส่วนเข้าไปกดดันจนทำให้ทีมได้ประตูปิดท้ายเกมนี้ ประโยชน์ของกองหน้าทีมชาติเบลเยียมรายนี้ยังมีให้ได้ดึงมาจากศักยภาพที่มีอยู่ทั้งหมดในตัวของเขา

เป็นอีกเกมที่ใครที่ได้ดูคงลุ้นกันแบบตัวโก่งหืดจับแต่ก็สนุกและได้ดีใจกันเต็มที่กับชัยชนะและแต้มที่สำคัญ

ผ่านเกมกับ นอริช แล้ว ลิเวอร์พูล จะลงเตะกับ สโต๊ค ในเลกที่สองของถ้วยแคปิตอล วัน คัพ (เราจะทราบผลกันเช้านี้) ก่อนจะกลับมาเจอกับ เวสต์แฮม ในเอฟเอ คัพ และตามด้วยการไปเยือน คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม ของ เลสเตอร์ ซิตี้ ในเกมพรีเมียร์ลีกมิดวีคช่วงสัปดาห์หน้า เป็นสามเกมที่ดูแล้วคงต้องส่งกำลังใจกันเต็มที่เหมือนเดิม

ให้บังเอิญกับที่ได้ดูฟอร์มของ ชาลเก้ 04 ในเกมบุนเดสลีกา เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาที่เปิดบ้านรับการมาเยือนของ แวร์เดอร์ เบรเมน

 

เกมนี้ผมตั้งใจดูฟอร์มของ เลอรอย ซาเน่ และ โจเอล มาทิป เป็นพิเศษเพราะชื่อของทั้งสองคนนี้ตกเป็นข่าวอย่างต่อเนื่องกับ ลิเวอร์พูล ในตลาดซื้อขายหน้าหนาวนี้

มาทิป ขึ้นมาทำประตูแรกของเกมนี้และทำให้ ชาลเก้ ขึ้นนำจากลูกเตะมุม ความสูงและการรู้จักการสลัดหนีตัวประกบทำให้ มาทิป ทำประตูให้กับทีมได้ อย่างไรก็ดีตัวเขาก็พลาดในการทำให้ทีมเสียไปหนึ่งประตูจากการเข้าไม่ถึงบอลที่โดนครอสจากด้านข้าง ทำให้ภาพรวมที่ผมให้คะแนน มาทิป ในเกมนี้ยังเป็นแค่ 7 จาก 10 คะแนนเต็ม

แน่นอนว่าเมื่อต้องมาเล่นในอังกฤษ มาทิป จะต้องเจอกับสารพัดลูกโยนหลากชนิดและนั่นคือสิ่งที่ คล็อปป์ จะต้องสกรีนให้ดีว่าหากจะดึงกองหลังรายนี้เข้ามาแล้ว จะแก้ไขเรื่องลูกโด่งได้อย่างที่ต้องการจริงๆหรือไม่

รายของ เลอรอย ซาเน่ ตลอด 45 นาทีแรกนั้น นักเตะหัวฟูรายนี้เล่นได้โดดเด่นทีเดียว ขึ้นลงทั้งรับและรุกฝั่งขวาประสานงานกับ จูเนียร์ ไคซาร่า แบ็คฝั่งเดียวกันได้อย่างรู้ใจ

อย่างไรก็ดี กับการพยายามจะทำประตูด้วยตัวเองในหลายๆจังหวะแต่ขาดความเฉียบคม บวกกับการหายไปจากเกมตลอดครึ่งหลัง ทำให้ ซาเน่ ยังไม่ชนะใจผมถ้าจะดึงเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับ ลิเวอร์พูล หากดีลนี้มีโอกาสจะเกิดขึ้นจากข่าวที่ออกมา คะแนนของ ซาเน่ ในสายตาผมจากเกมนี้เกมเดียวคือ 6.5 เท่านั้นจาก 10 คะแนนเต็ม

อากาศหนาวๆในช่วงสองสามวันนี้ ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเตือนให้ทราบน่าจะทำให้หลายๆคนชอบ แต่สำหรับบางพื้นที่ของประเทศไทยนั้น คงมีผู้คนอีกจำนวนมากที่อาจจะต้องทนรับมือกับสภาพอากาศที่เอาแน่เอานอนไม่ค่อยจะได้ของปัจจุบัน

ครั้งหนึ่ง บ๊อบ เพสลี่ย์ เคยฝากประโยคหนึ่งที่ผมรู้สึกประทับใจและมักจะคิดถึงประโยคนี้อยู่เสมอๆนั่นก็คือ "If you're in the penalty area and don't know what to do with the ball, put it in the net and we'll discuss the options later." Bob Paisley

สวัสดีวันใหม่ทุกท่านครับ

Mark Write by มาร์ค สุรเดช สันติเลิศประภพ