สกู๊ป : "เปเยเกรินี่ vs คล็อปป์" (โดย มาร์ค สุรเดช)

สกู๊ป : "เปเยเกรินี่ vs คล็อปป์" (โดย มาร์ค สุรเดช)

สกู๊ป : "เปเยเกรินี่ vs คล็อปป์" (โดย มาร์ค สุรเดช)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เสียใจด้วยกับเอฟเวอร์โตเนี่ยน ที่ไม่ได้เห็น เอฟเวอร์ตัน เข้าชิงในถ้วยแคปิตอล วัน คัพ และพลาดโอกาสจะได้เห็น เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ หนแรกของถ้วยนี้นับตั้งแต่ปี 1984 และหนแรกในบอลถ้วยในประเทศของอังกฤษนับตั้งแต่ เอฟเอ คัพ ไฟนั่ล 1989 และยังจะเป็นเมอร์ซี่ย์ไซด์ ไฟนั่ล หนแรกของนิว เวมบลี่ย์ ไป

แต่ก็ต้องยอมรับว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้นทำได้ดีกว่าและยังแข็งแกร่งกับการได้เล่นใน เอติฮัด ของตัวเอง พร้อมกับผ่านเข้ารอบไปด้วยสกอร์รวม 4-2

เอฟเวอร์ตัน นั้นรอคอยความสำเร็จนับตั้งแต่การได้แชมป์เอฟเอ คัพ ในปี 1995 เหนือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากประตูชัยของ พอล ไรด์เอ้าท์ แต่พวกเขาก็แสดงให้เห็นว่า ภายใต้การทำทีมของกุนซือชาวสเปนคนปัจจุบันอย่าง โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ นั้น เอฟเวอร์ตัน ยังเป็นทีมที่มีโอกาสจะประสบความสำเร็จได้

นักเตะอย่าง จอห์น สโตนส์, เคราร์ด เดโลเฟว, รอสส์ บาร์คลี่ย์ หรือ โรเมลู ลูคาคู ล้วนเป็นนักเตะที่ทำผลงานกันได้ดีตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา แต่พวกเขาก็ต้องพยายามรั้งตัวซูเปอร์สตาร์เหล่านี้เอาไว้ได้อีกอย่างน้อยหนึ่งหรือสองฤดูกาลด้วย

ในทางกลับกัน ขอแสดงความยินดีกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่จะลุ้นแชมป์อีกรายการภายใต้การนำทัพของ มานูเอล เปเยกรินี่ โดย เปเยกรินี่ เป็นแค่กุนซือคนที่สองต่อจาก โชเซ่ มูรินโญ่ เท่านั้นที่เข้ามาคุมทีมในพรีเมียร์ลีกปีแรกและคว้าแชมป์ ลีก คัพ ในปีแรกของการทำงาน

ไม่ว่าบทสรุปสุดท้ายเมื่อจบฤดูกาลนี้ บอร์ดบริหารของ ซิตี้ จะตัดสินใจแยกทางกับ เปเยกรินี่ หรือไม่ แต่ผมเชื่อว่ากุนซือจากชิลีคนนี้เป็นมืออาชีพเพียงพอที่จะยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาทุกอย่าง ต่อให้เขาจะสามารถพาทีมคว้าแชมป์ได้สักกี่รายการในฤดูกาลนี้ก็ตาม

เปเยกรินี่ เป็นกุนซือที่มีฝีมือคนหนึ่งของวงการลูกหนังนะครับ ทั้งจากอเมริกาใต้บ้านเกิดจนมาสร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นกับการคุมทีมอย่าง บียาร์เรอัล ในสเปน ตามมาด้วยการได้รับโอกาสให้ไปคุม เรอัล มาดริด แม้ว่าช่วงเวลาที่ เบร์นาเบว ของเขาจะไม่สวยงามนัก แต่ เปเยกรินี่ ก็ไม่ปริปากบ่น เขาปั้น มาลาก้า จนได้ไปเล่นฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร

การที่บอร์ดของ ซิตี้ เลือก เปเยกรินี่ มาคุมทีม เป็นบทพิสูจน์นะครับว่าเขาเป็นที่ยอมรับแค่ไหน เพราะ ซิตี้ มีพร้อมทุกอย่าง เงินทอง และ เจ้าของทีมที่อยากเห็นทีมก้าวหน้าจริงๆ

ลึกๆผมเชื่อว่าฤดูกาลนี้ เปเยกรินี่ คงไม่ได้คิดแค่จะทำผลงานสั่งลาทิ้งทวนให้แฟนๆซิตี้ต้องจดจำเขา แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพในการทำงาน ทำให้ เปเยกรินี่ คงอยากจะทำให้ดีที่สุดด้วยการพา ซิตี้ คว้าทุกแชมป์เท่าที่จะทำได้เพื่อเป็นการจากลาที่สมบูรณ์แบบที่สุด

ในพรีเมียร์ลีก เมื่ออาร์เซน่อลสะดุด ไม่ได้มีแต่ เลสเตอร์ ที่เป็นแคนดิเดตในการลุ้นแชมป์ ละสายตาไปนิดเดียว ซิตี้ ของ เปเยกรินี่ กลับมาอยู่ในกลุ่มที่พร้อมจะก้าวไปสู่การคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้แล้วเช่นกัน

ไม่นับรวมในถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่พวกเขาเพิ่งจะทำได้ในฤดูกาลนี้กับการผ่านเข้าไปถึงรอบน็อกเอ้าท์ของทัวร์นาเมนต์ได้สำเร็จ และนี่คือเป้าหมายสูงสุดที่บอร์ดบริหารต้องการจาก เปเยกรินี่ อย่างแท้จริง

จากนี้ไปอีกแค่ไม่กี่สัปดาห์ เปเยกรินี่ จะได้ดวลฝีมือกับ เยอร์เก้น คล็อปป์ อีกครั้ง หลังจากเพลี่ยงพล้ำคาบ้านมาแล้วในการพบกันในเกมลีกที่เจอกันมา

อย่างไรก็ดี แฟนๆลิเวอร์พูล จะคิดว่าเคยชนะมาแล้วคงจะชนะอีกได้ไม่ยากแบบนั้นไม่ได้นะครับ เปเยกรินี่ เป็นกุนซือประเภทเจ็บแล้วจำ แล้วนำมาแก้ไขข้อผิดพลาด การเจอกับ เอฟเวอร์ตัน เมื่อคืนนี้ เปเยกรินี่ บอกเองว่าเคยเจอกันมาสองครั้งในเดือนนี้ ซึ่งเขาจะนำเอาข้อผิดพลาดกลับมาแก้ไขและทำให้ทีมของเขาผ่านเข้าไปถึงเวมบลี่ย์ให้ได้ และ ซิตี้ ก็พลิกสถานการณ์กลับมาได้จริงๆ จะด้วยการมีประตูที่เป็นข้อถกเถียงเกิดขึ้นจากทั้งสองเลกก็ตามแต่

แม้ถ้วยจะเล็กเกินกว่าศักดิ์ศรีของทั้งสองทีม แต่ 28 ก.พ.นี้ ผมเชื่อว่าทั้ง เปเยกรินี่ และ คล็อปป์ จะมุ่งมั่นที่จะคว้าแชมป์รายการนี้ไม่แพ้กันอย่างแน่นอนครับ

Mark Write by มาร์ค สุรเดช สันติเลิศประภพ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook