สกู๊ป : แด่ "เจที" และความเปลี่ยนแปลงคือนิรันดร์

สกู๊ป : แด่ "เจที" และความเปลี่ยนแปลงคือนิรันดร์

สกู๊ป : แด่ "เจที" และความเปลี่ยนแปลงคือนิรันดร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ข่าว จอห์น เทอร์รี่ ไม่ได้รับการเสนอสัญญาฉบับใหม่ทำให้ผมรู้สึกใจหายเหมือนกัน ที่ เทอร์รี่ กำลังจะอำลาทีมที่เขาเล่นให้มาตั้งแต่เป็นเด็กนักเรียนจนกระทั่งได้รับการโปรโมตขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่ และประสบความสำเร็จกลายเป็นกัปตันทีมชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์รายการใหญ่ๆอีกมากมายร่วมกับ เชลซี

นี่เป็นวิถีทางของฟุตบอลอาชีพ ก่อนจะมี จอห์น เทอร์รี่ เชลซีผ่านการร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเหล่านักเตะและผู้จัดการทีมชั้นยอดมามากมาย ไล่มาตั้งแต่ยุคที่ รอย เบนท์ลี่ย์ ยังเล่นอยู่และคว้าแชมป์ลีกสูงสุดให้กับทีมได้ในปี 1955 ด้วยการเป็นทีมที่มีแต้มน้อยที่สุดแต่ได้แชมป์ลีกสูงสุดของเมืองผู้ดี

ถัดมานั้นแฟนของเชลซีก็จดจำชื่อของ จิมมี่ กรีฟส์, รอน "ช็อปเปอร์" แฮร์ริส, ชาร์ลี คุ้ก, ปีเตอร์ ออสกู้ด, ปีเตอร์ โบเน็ตติ ไล่มาจนถึงในยุคของ เคอร์รี่ ดิ๊กซั่น, แพท เนวิน มาจนถึงยุคนักเตะต่างชาติเข้ามาร่วมทีมมากมายในช่วงทศวรรษ 90

ในช่วงเวลาที่ เชลซี เริ่มสร้างชื่อคว้าแชมป์รายการต่างๆมาครองโดยเฉพาะฟุตบอลถ้วย พวกเขามีนักเตะและกุนซือต่างชาติเป็นแกนหลักในการสร้างทีมขึ้นมาต่อกรกับบรรดาทีมชั้นนำในประเทศรวมถึงในภาคพื้นยุโรป

แต่สำหรับ จอห์น เทอร์รี่ เขาคือสายเลือดของ เชลซี อย่างแท้จริง ไม่ต่างจากที่แฟนลิเวอร์พูลรักและอาลัยในตัวของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เลยแม้แต่นิดเดียว

จากการมาอยู่กับทีมตั้งแต่วัยได้เพียง 14 ปี เจที ค่อยๆสั่งสมประสบการณ์และกระดูกในเกมฟุตบอลจนเขาก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของทีมได้อย่างเต็มปากเต็มคำ มีส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 ครั้ง, แชมป์เอฟเอ คัพ 5 ครั้งรวมถึงแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีกและยูโรป้า ลีก อีกอย่างละครั้ง เรียกได้ว่ากวาดเกียรติยศต่างๆร่วมกับทีมมามากมาย ไม่นับรวมกับการที่เป็นสมาชิกคนสำคัญของทีมชาติอังกฤษมาตลอดหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา

ธรรมชาติสอนให้เรารู้ว่าการเปลี่ยนแปลงคือนิรันดร์ และสัจธรรมของชีวิตก็คือไม่มีใครจะอยู่ค้ำฟ้าไปได้ตลอด

จากยุคที่ เชลซี รุ่งเรืองสุดๆในประวัติศาสตร์ของสโมสร ชื่อของ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ปีเตอร์ เช็ค ได้ถูกจารึกเอาไว้ในจิตใจของแฟนๆสิงโตน้ำเงินครามไปเรียบร้อยหมดแล้ว และตำนานของสิงโตตัวสุดท้ายแห่งเดอะ บริดจ์ ที่ผมขออนุญาตเรียกพวกเขาอย่าง จอห์น เทอร์รี่ กำลังจะจากลาสโมสรที่เขารักมันยิ่งกว่าชีวิตจิตใจไปในเดือนมิถุนายนนี้

ช่วงเวลา 4-5 เดือนนับจากนี้ ผมเชื่อว่าทุกวินาทีในสนามในสีเสื้อของ เชลซี จะเป็นช่วงเวลาที่ จอห์น เทอร์รี่ จะทุ่มเทและต่อสู้เพื่อทีมๆนี้ของเขาอย่างที่สุดมิได้ เป็นสิ่งที่ดีนะครับที่เขาเล่นฟุตบอลในยุคที่พวกเราได้ทันเห็นผลงานจริงๆ และยังเคยได้สัมผัสกับการเดินทางมาที่บ้านเราตลอดหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

แม้วันอำลาจะยังมาไม่ถึง แต่ขอปรบมือให้เกียรติกับอีกหนึ่งนักฟุตบอลที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีกคนนี้ครับ จอห์น จอร์จ เทอร์รี่

Mark Write by มาร์ค สุรเดช สันติเลิศประภพ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook