2 ศาลปกครองไม่คุ้มครอง! เดินหน้าเลือกตั้งชิงประมุขบอลไทย 11 ก.พ.ต่อได้

2 ศาลปกครองไม่คุ้มครอง! เดินหน้าเลือกตั้งชิงประมุขบอลไทย 11 ก.พ.ต่อได้

2 ศาลปกครองไม่คุ้มครอง! เดินหน้าเลือกตั้งชิงประมุขบอลไทย 11 ก.พ.ต่อได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ศาลปกครองกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ ศาลปกครองกลาง นัดไต่สวนฉุกเฉิน คดีหมายเลขที่ 181/2559 ตามที่ พ.ต.ท.ชัยทรัพย์ ธรัช ฤทธิ์เต็ม ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยื่นฟ้องการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1 รวมถึงคณะกรรมการกลาง (FAT NC) และสมาคมฟุตบอลฯ โดยระบุว่าทำผิดข้อบังคับของสมาคมฟุตบอลฯ

ในการรับสมัครผู้ชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลฯ พร้อมกับขอให้มีการคุ้มครองชั่วคราวการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ รวมถึงศาลได้ไต่สวนฉุกเฉินคดีหมายเลขที่ 184/2559 ตามที่ พล.อ.จิระศักดิ์ บุตรเนียร ประธานสโมสรมุกดาหาร นาคราช ยื่นฟ้อง กกท., FAC NC และสมาคมฟุตบอลฯ เพื่อเรียกร้องสิทธิตัวแทน 30 เสียงลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ชุดเดิมที่มีสิทธิลงคะแนนเสียง พร้อมกับขอให้คุ้มครองชั่วคราวการเลือกตั้งเช่นกัน โดยมีนางสุปราณี กิตติกรณ์ ที่ปรึกษา และตัวแทน FAC NC ร่วมให้ข้อมูลชี้แจง รวมถึงมีนายธวัชชัย

สัจจกุล ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลฯ และนายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ประธานฝ่ายกฎหมายของสมาคมฟุตบอลฯ ร่วมรับฟังด้วย

กระทั่งเวลา 20.00 น. ศาลปกครองกลาง แจ้งวัฒนะ มีคำสั่งยกคำขอทุเลาการบังคับตามประกาศรายชื่อผู้สมัครสภากรรมการสมาคมฟุตบอลฯ ตามคำขอของผู้ฟ้องคดี

ขณะเดียวกัน ศาลปกครอง จ.นครศรีธรรมราช มีคำสั่งไม่คุ้มครองชั่้วคราวตามที่นางอนงค์ ล่อใจ ได้ขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวการเลือกตั้งนวันที่ 11 กุมภาพันธ์ โดยระบุในหมายเหตุว่า คู่กรณีไม่สามารถอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวได้ แต่ไม่กระทบถึงคำฟ้องของผู้ฟ้องคดี ซึ่งศาลจะได้ทำการพิพากษาตามระเบียบต่อไป

ทั้งนี้จากคำสั่งที่ออกมาของศาลปกครองกลาง แจ้งวัฒนะ กับศาลปกครอง จ.นครศรีธรรมราช ทำให้กระบวนการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ คนใหม่ที่กำหนดไว้ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์สามารถเดินหน้าต่อไปได้

นางสุปราณีกล่าวว่า ได้ชี้แจ้งต่อศาลว่าอำนาจหน้าที่ของ FAC NC มีอยู่จริงซึ่งถูกแต่งตั้งโดยฟีฟ่าในสถานการณ์ไม่ปกติ รวมถึงไม่ใช่หน่วยงานรัฐหรือ กกท. และจะหมดวาระวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ โดยมีภารกิจในการจัดการ และไม่ยุ่งเกี่ยวกับการจัดการแข่งขัน ทั้งนี้ FAT NC มีอำนาจเต็ม ซึ่งจากการชี้แจงศาลปกครองเข้าใจประเด็นนี้ ขณะที่การรับสมัครผู้ชิงตำแหน่งนายกสมาคม คนละที่แล้วผิดข้อบังคับนั้น ถามว่าสำนักเลขาธิการกับ FAC NC ใครมีอำนาจ ซึ่งคณะกรรมการฉุกเฉินของฟีฟ่ามีข้อบังคับว่า FAC NC เปรียบเป็นสภากรรมการสมาคมฟุตบอลฯ และสำนักเลขาธิการเป็นฝ่ายจัดฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก

นางสุปราณีกล่าวว่า กรณีที่ฟีฟ่าแบนแล้วจะเป็นอย่างไร แล้วรู้ได้อย่างไรว่าฟีฟ่าจะไม่แบน FAT NC ไม่ได้เดือดร้อนหากฟีฟ่าแบน เพราะได้ทำหน้าที่ตามที่รับมอบหมาย สำหรับการไม่เปิดเผยรายชื่อตัวแทน 72 เสียงที่มีสิทธิโหวตนั้น เพราะเป็นอันตรายต่อตัวแทน โดยมีเพียงคนเดียวที่ทราบรายชื่อทั้งหมด แม้แต่ตัวเองยังไม่ทราบเลย

ด้านนายนรินท์พงศ์กล่าวว่า เท่าที่ได้รับข้อมูลมาในวันเลือกตั้งจะมีผู้สมัครและสโมสรสมาชิกหลายสโมสรที่ไม่เห็นด้วยจะไปร้องเรียนต่อ กกท. เพราะหลังจากการเลือกตั้งไปแล้ว กกท.ในฐานะนายทะเบียนต้องไปรับเผือกร้อนในการรับรองการเลือกตั้งต่อไป ดังนั้น จะต้องได้รับข้อมูลจากทุกฝ่ายว่าจะมีกลุ่มเรียกร้องว่าจัดการเลือกตั้งได้อย่างไร

วันเดียวกัน “เสธ.โต” พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมณ์ ประธานคณะกรรมการกลางหารือกับนายนิโคล่า ลูก้า ผู้จัดการฝ่ายกิจการสมาคมฟุตบอลฟีฟ่า และนายพูรูทชอตตัม แคทเติ้ล ฝ่ายประสานงานนานาชาติ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ตัวแทนจากฟีฟ่า และเดินทางไปตรวจความพร้อมของอินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก ที่จะใช้ในการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ วันที่ 11 กุมภาพันธ์

หลังจากการสำรวจสถานที่เสร็จสิ้น เสธ.โต กล่าวว่า ตัวแทนจากฟีฟ่า ค่อนข้างพอใจกับการเตรียมสถานที่ ซึ่งทางคณะ กก.ได้เตรียมมาตรการในการรักษาความปลอดภัยอย่างดี ใช้มาตรการระดับสูงสุด ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่เฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง ห้ามมิให้ผู้ใดเข้า ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการป่วนการเลือกตั้งนั้น ทางเจ้าหน้าที่มีมาตรการไว้แล้ว ขอเตือนว่าอย่าทำดีกว่า ซึ่งบทลงโทษต่างๆ ก็จะเป็นไปตามกฎหมายถ้ารุนแรงก็ถึงขั้นจำคุก

เสธ.โตกล่าวว่า หลังจากผ่านการเลือกตั้งวันที่ 11 กุมภาพันธ์ คณะกรรมการกลางจะหมดอายุการทำงานในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ตามที่ฟีฟ่ากำหนด โดยส่วนตัวแล้ว ก็คงไม่กลับมาทำงานเกี่ยวกับฟุตบอลอีก แม้ต่อไปจะมีเหตุการณ์เช่นเดียวกันนี้ ตนก็ไม่ทำแล้ว ถ้าหากฟีฟ่ารับรองผลคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรตามมา นอกเสียจากมีการฟ้องร้อง ซึ่งตนก็ไม่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว

พล.ร.อ.สุรวุฒิกล่าวในตอนท้ายว่า จากนี้ไปสิ่งที่อยากฝากถึงผู้บริหารสมาคมชุดใหม่ คือขอให้เข้ามาจัดระบบบริหารจัดการให้ดี เรื่องกรรมการ ผู้ตัดสิน ที่มีปัญหากันมาก ก็ขอให้จัดการให้เรียบร้อย ขณะเดียวกัน การตัดสินอะไรก็ต้องอยู่ในมาตรฐานเดียว อย่า 2 มาตรฐาน นอกจากนี้ ผู้บริหารต้องเปิดใจรับฟังความคิดเห็นจากสโมสรเล็กๆ ด้วย ไม่ใช่จะเอาอย่างไรก็ทุบโต๊ะ ต้องเป็นอย่างนั้น โดยไม่ฟังใคร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook