งานเข้า! เริ่มแบน "มาเรีย" 12 มี.ค., "ไนกี้" ถอนหนุนแล้ว

สหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ไอทีเอฟ) แถลงข่าวเริ่มแบนมาเรีย ชาราโปว่า แร็กเกตสาวรัสเซียตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคมเป็นต้นไป จนกว่าการสอบสวนจะได้ข้อสรุป

หลังอดีตมือ 1 โลกวัย 28 ปีรายนี้เพิ่งยอมรับเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ว่า ตัวเองไม่ผ่านการตรวจสารต้องห้ามระหว่างการแข่งขัน "ออสเตรเลียน โอเพ่น" ศึกแกรนด์สแลมแรกของปีในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา

โดยไอทีเอฟแถลงการณ์ว่า แผนกต่อต้านสารต้องห้าม (ทีเอดีพี) ของตัวเองยืนยันว่า สิ่งที่ชาราโพว่ากล่าวว่าได้ใช้ยาที่มีสารเมลโดเนียม

ตั้งแต่เมื่อครั้งที่สารยังไม่ได้เป็นสารต้องห้ามขององค์กรต่อต้านสารต้องห้ามโลก (วาด้า) ในปี 2006 เพื่อรักษาอาการขาดธาตุแมกนีเซียมและคลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ

ก่อนตัวยาดังกล่าวจะเป็นสารต้องห้ามของวาด้าในปีนี้ เป็นความจริง

นอกจากนี้ ไอทีเอฟยังได้ไล่เรียงเหตุการณ์ว่า ชาราโพว่าได้ส่งตัวอย่างการตรวจสารต้องห้ามของตัวเองจากการแข่งออสเตรเลียน โอเพ่น 2016 ให้กับทีเอดีพี เมื่อวันที่ 26 มกราคม

ก่อนห้องตรวจสารต้องห้ามที่ได้รับการรับรองจากวาด้าจะระบุผลตรวจเป็นบวกจากการใช้สารเมลโดเนียม ซึ่งเป็นสารต้องห้ามจากทางวาด้า และทีเอดีพี

ดังนั้นจากการบังคับข้อ 8.1.1 ของทีเอดีพี ทำให้ชาราโปว่าถูกตั้งข้อหาใช้สารต้องห้ามเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ขณะที่ชาราโปว่าได้ยอมรับว่าใช้สารเมลโดเนียมจริง

และสารดังกล่าวเป็นสารที่วาด้า และทีเอดีพีไม่ได้ระบุไว้อย่างเฉพาะเจาะจง ส่งผลให้ชาราโปว่าถูกห้ามทำการแข่งขัน และเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม เพื่อรอผลการพิจารณาคดีต่อไป

ส่วน "ไนกี้" ผลิตภัณฑ์กีฬายักษ์ใหญ่ระดับโลก ซึ่งเป็นผู้ให้การสนับสนุนชาราโปว่าแถลงการณ์ยอมรับว่าทั้งรู้สึกเสียใจ และตกใจกับข่าวดังกล่าว

ก่อนตัดสินใจยกเลิกสัญญากับชาราโปว่าในขณะที่คดีโด๊ปยากำลังดำเนินอยู่

โดยเชื่อว่าสัญญาที่ชาราโปว่าเคยเซ็นกับไนกี้ตั้งแต่ปี 2010 มีมูลค่าถึง 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2,520 ล้านบาท / อัตรา 1 ดอลลาร์สหรัฐ 36 บาท) ในระยะเวลา 8 ปี

ขณะที่คนส่วนใหญ่ในวงการเทนนิสต่างโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ในลักษณะเห็นใจชาราโปว่า โดยเฉพาะมาร์ติน่า นาฟราติโลว่า อดีตมือ 1 โลกหญิงจากเชโกสโลวาเกีย

แต่มีสัญชาติสหรัฐอเมริกา หวังว่าชาราโปว่าจะไม่ได้ตั้งใจทำตามที่บอกไว้จริงๆ และน่าจะเป็นการ "บกพร่องโดยสุจริต" มากกว่า

อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งอดีตมือ 1 โลกจากสหรัฐ อย่างเจนนิเฟอร์ คาปริอาตี้ ที่ยอมเลิกเล่นด้วยวัยแค่ 28 ปี เนื่องจากอาการบาดเจ็บเรื้อรังไม่เห็นด้วยกับการกระทำของชาราโปว่า

และยืนยันว่าตัวเองไม่เคยโกงการแข่งขันด้วยการโด๊ปยา ในเมื่อร่างกายไม่ไหวจริงๆ ก็ขอโยนผ้ายอมแพ้ดีกว่า