ผลถก กก.บห.กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ

ผลถก กก.บห.กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2553 ที่ห้องประชุม 301 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้ นายกนกพันธุ์ จุลเกษมผู้ว่าการ กกท. ได้รายงานฐานะทางการเงินของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ณ วันที่ 30 กันยายน 2553 ว่า มียอดเงินคงเหลือหลังจากที่หักค้างจ่ายภาระผูกพัน จำนวน 142,326,572 บาท และได้รับการจัดสรรงบประมาณประจำปี พ.ศ.2554 เป็นจำนวนเงิน 400,000,000 บาท รวมทั้งสิ้น 542,326,572 บาท

ซึ่งในส่วนของภาระผูกพันที่ยังค้างจ่าย ประจำปี 2553 มีในส่วนของการสนับสนุนเงินรางวัลสำหรับนักกีฬา ผู้ฝึกสอนและสมาคมกีฬา ที่ได้รับเหรียญรางวัลจากการแข่งขันระดับนานาชาติ จำนวน 42 รายการ จาก 22 สมาคมกีฬา รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 63,830,000 บาท และการสนับสนุนสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ตามแผนปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายงบประมาณ พ.ศ.2553 ในการส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน และการจัดการแข่งขัน รวมทั้งการพัฒนากีฬาด้านอื่นๆ ตามวัตถุประสงค์ของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ รวมจำนวน 41,211,154 บาท

นอกจากนี้ ได้มีการพิจารณาแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2554 ของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ในวงเงิน 542,326,572 บาท โดยได้วางกรอบการดำเนินงานตามแผนงานของกองทุนฯ ในวงเงินดังกล่าว ดังนี้ หมวดบริหาร จำนวน 7,000,000 บาท, หมวดสวัสดิการ จำนวน 9,326,572 บาท, หมวดเงินรางวัล จำนวน 166,000,000 บาท และหมวดพัฒนากีฬา จำนวน 360,000,000 บาท


จากนั้น ที่ประชุมได้มีการอนุมัติการสนับสนุนสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ตามแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2554 รวมทั้งสิ้น 125,803,904 บาท แบ่งเป็น สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย จำนวน 91,578,224 บาท เพื่อส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน ของ 29 สมาคมกีฬา 86 รายการ จำนวน 60,942,260 บาท และการจัดการแข่งขัน ของ 12 สมาคมกีฬา 16 รายการ จำนวน 30,635,964 บาท และสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย จำนวน34,225,680 บาท เพื่อส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน ของ 12 สมาคมกีฬา 22 รายการ จำนวน 29,911,850 บาท และการจัดการแข่งขัน
ของ 3 ชนิดกีฬา 3 รายการ จำนวน 4,313,830 บาท

นอกจากนั้น ที่ประชุมได้มีการอนุมัติงบประมาณสำหรับค่าครองชีพรายเดือนให้แก่นักกีฬาทีมชาติไทย จำนวน 7 คน ที่ได้รับเหรียญรางวัลจากการแข่งขันยูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 1 โดยให้จ่ายตั้งแต่เดือนกันยายน 2553 เป็นต้นไป จนถึงอายุครบ 35 ปีบริบูรณ์ และยังอนุมัติให้การสนับสนุนทุนการศึกษา ตามระเบียบคณะกรรมการบริหารกองทุนการศึกษาของนักกีฬา ให้กับนักกีฬาทั้ง 7 คน ดังกล่าวอีกด้วย ซึ่งขึ้นอยู่กับความประสงค์ของนักกีฬา ที่จะศึกษาต่อจนถึงระดับปริญญาเอก แต่ต้องมีอายุไม่เกิน 35 ปีบริบูรณ์ สุดท้าย ที่ประชุมได้อนุมัติ
ให้การสนับสนุนให้ความช่วยเหลือค่ายังชีพรายเดือน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ให้แก่ ดาบตำรวจ ภิรมย์ จุลหุ่น อดีตนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทย ซึ่งปัจจุบันอายุ 63 ปี ประสบปัญหาความเดือดร้อน ในการดำเนินชีวิต และป่วยเป็นอัมพฤกษ์ โดยให้การสนับสนุนเงินเดือนละ 7,000 บาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook