สกู๊ป : หมดเวลาของ รูนีย์ !? "คลื่นลูกใหม่ย่อมร้อนแรงกว่าคลื่นลูกเก่าเสมอ"

ก็คงเป็นธรรมดาของมนุษย์ ในขณะที่ประกายไฟในตัว แฮร์รี่ เคน และ เจมี่ วาร์ดี้ เริ่มเจิดจรัสมากขึ้นเรื่อยๆ อีกฟากฝั่งของสังเวียนชื่อของ เวย์น รูนี่ย์ และ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ เริ่มเลือนหายไป

จากอดีตฮีโร่ที่เปรียบดั่ง ‘ความหวังของชาติ’  หนึ่งปีให้หลังใครเล่าจะเชื่อว่า ทั้ง ดาวยิงร่างอวบ และ หัวหอกจอมเซิ้งกลายเป็นส่วนเกินที่ไร้ผู้คนเหลียวมอง  

จังหวะเทิร์นก่อนตวัดยิงของ แฮร์รี่ เคน ในเกมล่าสุดช่างเปี่ยมไปด้วยมนต์ขลัง  ไม่ต่างกับลูกยิงไขว้สุดงามหยดของ เจมี่ วาร์ดี้ ที่สะกดสายตาผู้ชม  ทว่าในห้วงเวลาที่ชื่อของทั้งสองเริ่มติดท็อปชาร์ต

รัศมีในตัวของ สเตอร์ริดจ์ และโดยเฉพาะกับ เวย์น รูนีย์

เริ่มถูกลืมเลือน และ จางหาย ‘ออกจากสารบบ’ ของผู้คน

มีรายงานจากบีบีซีว่า ในตอนนี้กระแสของสองดาวยิงสเปอร์ส และ เลสเตอร์ เริ่มร้อนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นแตกเสียงเป็นสองฝ่าย  ฝ่ายแรกคือเสียงส่วนใหญที่อ้อนวอนให้ รอย ฮ็อดจ์สัน จับทั้งคู่เล่นร่วมกัน ส่วนอีกฟากหนึ่งยังคงหนุนกัปตันอย่าง เวย์น รูนีย์ ให้ลงบู๊บนสังเวียนต่อไป

“ยังไงเขาก็คือกัปตันทีมของเรา  เมื่อ เขา (รูนีย์) กลับมา และ ฟิตอีกครั้ง แน่นอนว่า เขาจะถูกหนีบไปลุยยูโรด้วย และจะสร้างความลำบากใจให้กับคู่แข่งในตำแหน่งเดียวกัน ” รอย ฮ็อดจ์สัน ผู้กุมชะตาชีวิตทั้งสองกล่าวหนักแน่นพลางทำหน้าสุดขึงขังอันเป็นเอกลักษณ์   ทว่าในวาจาที่เปล่งไปด้วยความเชื่อมั่นกลับแฝงไปด้วยเลศนัย

“แต่ในอีกแง่หนึ่ง ..ในเมื่อทั้ง แฮร์รี่ เคน และ เจมี่ วาร์ดี้ ต่างทำได้ดี  ผมแน่ใจเหลือเกินว่า  เวย์นก็จะรู้สึกถึงการแข่งขันที่สูงเช่นเดียวกัน”

จากตำนานผู้ซัลโวประตูมากสุดตลอดกาลให้ทัพ “เดอะ ไลออนส์” , เคยผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านความขมขื่นรวมทั้งช่วงเวลาแห่งความสุขมานับไม่ถ้วน ทว่าถึงตรงนี้กระทั่งบิ๊กบอสอย่าง รอย ฮอดจ์สัน ก็ยังไม่รู้ชะตากรรม

สำหรับผม นี่ ‘ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ’ อีกต่อไป

‘เวย์น รูนีย์ หรือ แฮร์รี่ เคน  กันแน่ที่สมควรยึดตัวจริงในทัพ ‘สิงโตคำราม’ !?

ตามตวามรู้สึกส่วนตัว ผมคิดว่า เวลาของ “หมูรูน” หมดลงแล้ว

อาจจะใช่ที่นี่คือดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของประเทศ จำนวน 51 ลูกที่กระทุ้งเป็นว่าเล่นคงเป็นเรื่องยากที่ใครต่อใครจะก้าวขึ้นมาทำลายล้าง

ทว่ามีขึ้นสุดก็ต้องมีช่วงเวลาที่ลงสู่สามัญ จากดาวยิงร่างอวบที่ไม่ต่างกับเสือร้ายที่คู่แข่งผวาดผวา กาลเวลาผ่านไปในฤดูกาลนี้รูนีย์กลายเป็นแค่แมวเหมียว หอกวัย 30 ปีกดไปแค่ 7 ลูกเท่านั้นตลอด 22 นัดในลีก

แม้กับทัวร์นาเมนต์พี่เบิ้มอย่าง ยูโร 2016 จริงอยู่ที่ประสบการณ์ของเจ้าตัวย่อมสำคัญ บางคนอาจเอ่ยว่ายามหน้าสิ่วหน้าขวานการฟากความหวังไว้ที่กัปตันตัวเก๋าย่อมอุ่นใจกว่าใช้บริการ วาร์ดี้ เป็นไหนๆ

แต่บางทีอาจถึงเวลาแล้วครับที่ทัพอิงแลนด์ ‘ต้องมีการเปลี่ยนแปลง’

ที่ผ่านมาประสบการณ์ของ เวย์น รูนีย์ ไม่ได้ช่วยอะไร เป็นเจ้าตัวมิใช่หรือที่โดนไล่ออกแบบเสียค่าโง่ในตอนที่โดนเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดอย่าง คริสติอาโน่ โรนัลโด้ จงใจยั่ว  เป็นแข้งปีศาจแดงอีกนั่นแหละที่อยู่ในชุดที่ทีมประสบความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ถึงจะได้ชื่อว่า ดาวยิงเบอร์ 1 ตลอดกาลของชาติ แต่ถึงตรงนี้ รูนีย์ กลับสอยได้เพียง 6 ลูกเท่านั้นตลอด 5 ทัวร์นาเมนต์ระดับชาติที่ลงเตะ

กับสกอร์กระจุ๋มกระจิ๋มแบบนี้  กับประสบการณ์มากเหลือล้นทว่ากลับล้มเหลวเช่นนี้

บางทีคงถึงคราวที่ทีมชาติอังกฤษต้องใช้บริการ ‘หัวหอกหน้าใหม่’

ที่ผ่านมาเป็นเพราะ เวย์น รูนีย์ ยืนระยะได้อยู่คนเดียวโดยปราศจากคู่แข่งที่คอยสร้างความรำคาญ นั่นทำให้เจ้าตัวสถาปนาตนเองเป็น เบอร์ 1 ประจำทีม

แต่ในวันที่เหล่ายอดดาวยิงรายล้อมเช่นนี้ บางที รอย ฮอดจ์สัน น่าจะลองเสี่ยงเดิมพันดูบ้าง

นับตั้งแต่หมดยุค อลัน เชียเรอร์ และ ไมเคิ่ล โอเว่น นี่น่าเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ที่อังกฤษเพียบพร้อมไปด้วยเหล่ายอดดาวยิง  ไม่มีครั้งไหนอีกแล้วที่จะมีโอกาสดีเท่ายูโรหนนี้

หากคิดอยากจะสร้างเหล่าเจเนเรชั่นรุ่นใหม่ขึ้นมาประดับวงการ

นี่คงเป็นโอกาสดีที่จะ ‘เปลี่ยนแปลง’

ประสบการณ์ที่ผ่านมาของ ยอดกัปตันคนเก่ง จริงอยู่ที่อาจช่วยได้บ้าง  ทว่าค่าของคนวัดกันที่การกระทำฉันท์ใด ค่าของนักกีฬาย่อมถูกวัดกันที่ “ผลงาน” ฉันท์นั้น

ในเมื่อทั้ง วาร์ดี้ และ แฮร์รี่ เคน กำลังร้อนแรง คงเป็นเรื่องที่ยุติธรรมดีหากในบั้นปลายทีมชาติจะตอบแทนทั้งสองด้วยการการันตีตำแหน่งตัวจริง

ส่วนกับ รูนีย์  แม้จะเป็นเพียงแค่สำรองทว่าก็ใช่ว่าจะหมดความสำคัญ  หากทั้ง เคน และ วาร์ดี้ ที่มอบโอกาสทองได้ไม่สามารถคว้าแสงสว่างที่เห็นอยู่รำไรได้

ถึงเวลานั้นค่อยหันกลับมาใช้บริการเจ้าตัวก็ไม่สาย

by มาสเตอร์ ริท