สกู๊ป : 5 เหตุผลที่ "เรอัล" จะพิชิต "บิ๊กเอียร์"

สกู๊ป : 5 เหตุผลที่ "เรอัล" จะพิชิต "บิ๊กเอียร์"

สกู๊ป : 5 เหตุผลที่ "เรอัล" จะพิชิต "บิ๊กเอียร์"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

1. เป็นความหวังเดียว

ว่ากันตามตรง 7 แต้มที่ตามบาร์ซ่าในฟุตบอลลีก กับ 7 นัดที่เหลือ สาวก “ลอส บลังกอส” ไม่คิดอะไรมากแล้ว ทำใจตั้งแต่โดนทิ้งไป 10 แต้มช่วงก่อนโปรแกรมทีมชาติอีก

กับฟุตบอลถ้วยในประเทศ ก็ไม่มีอะไรให้ลุ้นอีกแล้ว หลังจากต้องตกรอบด้วยยาพิษของ ราฟาเอล เบนิเตซ และ เดนิส เชริเชฟ

“แชมเปี้ยนส์ ลีก จึงเป็นเป้าหมายที่ มันควรจะพุ่งชนที่สุด” โดยไม่ต้องไปเสียสมาธิกับถ้วยอื่นๆ เหมือนอย่างบาร์ซ่า และ แอตเลติโก ที่ยังมีถ้วยลา ลีกา ให้พะวงหน้าพะวงหลังกันอยู่

หากไปดูทีมอื่นๆในยูซีแอล ที่กำลังลุ้นหลายๆถ้วย ก็จะมี บาเยิร์น, เบนฟิก้า, บาร์ซ่า, แอตเลติโก, โวล์ฟสบวร์ก และ แมนฯ ซิตี้ ที่ยังต้องไปโฟกัสในลีกในเวลาเดียว จะมีก็แค่ เปแอสเช เท่านั้น ที่ในประเทศไม่ต้องสนอะไรแล้ว เพราะพวกเขาได้แชมป์ตั้งแต่ไก่โห่

2. การันตีเก้าอี้ซีดาน

ตลอดช่วงที่ ซีเนอดีน ซีดาน รับอภิมหางานต่อจาก ราฟาเอล เบนิเตซ ทีมก็ยังคงมีข่าวทาบทามกุนซือรายใหม่ๆ มานั่งเก้าอี้แทนเขาอยู่เรื่อยๆ

ไม่ว่าจะเป็น โชเซ่ มูรินโญ่, มัสซิมิลอาโน่ อัลเลกรี รวมทั้ง อันโตนิโอ คอนเต้ แต่รายหลังนี้ล่าสุดไปลงเอยกับเชลซีแล้ว

ข่าวพวกนี้ยังคงโหมมาเป็นระยะๆ อย่างไรก็ตามดูเหมือนนักเตะจะพอใจและยินดีกับโค้ชซิซูมากกว่าคนอื่นๆ เพียงแต่ประธานสโมสร ต้องเอาผลงานโค้ชเป็นตัวตัดสิน ว่าควรจะอยู่หรือไปในช่วงท้ายซีซั่น

หากบอลลีกจบที่อันดับสามตามหลังคู่ทั้งอริตลอดกาลและคู่ปรับร่วมเมือง คงไม่เป็นที่แฮปปี้แน่ แต่มันจะทุเลาด้วยถ้วยที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป หากจะกลับมาตั้งที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ครั้งที่ 2 ในรอบสามปี

แน่นอนว่าความสำเร็จนี้ ซีดาน ไม่ต้องกลัวตกงานแน่นอน

3. CR7’s Favorite

ไม่ว่าเขาจะฟอร์มฝืดในเกมลีก 4-5 นัดยิงประตูไม่ได้ แต่กับถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก นั้น ถือว่าเป็นของคู่กับสำหรับ “เจ็ทโด้” เพราะเป็นเวลา 5 ปีแล้ว ที่ทุกๆสามนัด โรนัลโด้ จะต้องยิงได้ หรือหากปืนฝืดจริงๆ ต้องย้อนไปปลายปี 2011 ที่ปีกชาวโปรตุกีสยิงไม่ได้สามนัดต่อเนื่อง

8 นัดที่ผ่านมา แบ่งเป็นรอบแบ่งกลุ่ม 6 นัด รอบน็อกเอาท์อีกสองเกม “CR7” ยิงไปแล้ว 13 ประตู เป็นดาวซัลโวสูงสุดของรายการ

ย้อนไปดูทุกครั้งที่โรนัลโด้คว้ารางวัลดาวซัลโวของรายการ ในปี 2014 และ 2008 โรนัลโด้ พาทีมพิชิตถ้วยนี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ เรอัล มาดริด

 

4. ความมั่นใจหลัง “กลาสิโก้”

บาร์ซ่า คือทีมเต็ม 1 มาตลอดรายการนับตั้งแต่เปิดซีซั่น รอบแบ่งกลุ่มมาจนถึงรอบควอเตอร์ไฟนัล แม้ว่าจับสลากเจอกับของแข็งอย่าง แอตเลติโก ก็ยังคงเป็นเต็งจ๋าอยู่ดี

ทว่าในเกมตัวต่อตัวล่าสุด กับ เรอัล มาดริดนั้น “ราชันชุดขาว” ทำได้ดีกว่าชัดเจน แปลว่าในระบบน็อกเอาท์นั้น เรอัล มาดริด มีความมั่นใจแซงหน้า “เต็งหนึ่งของรายการ” ไปเรียบร้อยแล้ว

ตรงกันข้ามกับ “อาซูลกราน่า” คาดว่ากำลังใจลดลงไปพอสมควร หากรอบนี้ผ่านกันไปได้ทั้งคู่ ต้องมาเจอกันเอง ทำศึก “เอล กลาสิโก้” ในแบบฉบับแพ้ตกรอบ เรอัล ไม่เป็นรองแน่นอน และมีโอกาสชนะสูงกว่าด้วยซ้ำ

5. เจอของไม่แข็ง

ว่ากันตามทรงแล้ว 5 ทีมที่เหลือ โวล์ฟสบวร์ก ถูกวางไว้โหล่ที่สุดของบรรดาผู้คร่ำหวอดวงการเดิมพันออนไลน์

ไม่ว่าจะเป็นค่ายไหน พวกเขามีแต้มต่อคุ้มค่าที่สุดหากว่าสามารถคว้าแชมป์ได้ โดยปัจจุบันอยู่ที่ แทง 1 จ่าย 125 แย่กว่า เบนฟิก้า ที่จ่าย 120 เสียอีก

เรอัล มาดริด เจอของง่ายที่สุดในรายการ หากไม่มีอะไรผิดพลาดแบบล็อคถล่มแผ่นดินสะเดือน รอบ 4 ทีมสุดท้าย พวกเขาน่าจะไปยืนรอก่อนใครเพื่อน

ถึงตอนนั้น ไม่ว่าจะเป็นบาเยิร์น, บาร์ซ่า หรือ แมนฯ ซิตี้, เปแอสเช เองก็ตาม ไม่มีใครอยากจะเจอลูกทีมของซีเนอดีน ซีดาน แน่นอน เพราะหากพวกเขาเล่นในรอบนี้ได้ง่ายกว่าทีมอื่นๆ นักเตะตัวหลักๆก็สามารถเลือกเก็บเลือกใช้ได้ ยามโดนคาดโทษใบเหลือง

ขอเพียงคืนนี้ ทำผลงานให้ดีที่สุด จะมีใครคาดโทษอะไรก็แล้วแต่ ตุนสกอร์ให้ได้ นัดที่สองจะได้เลือกนักเตะ และวิธีการเล่นได้ง่ายกว่าทุกทีม เพื่อเป็นรากฐานการวางตัวของรอบต่อไปนั่นเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook