ทูเคิ่ล "เราแก้ตัวได้สวยและมุ่งมั่นต่อไป"

เกาะติดข่าวและและความเคลื่อนไหวในเรื่องราวของบุนเดสลีกาที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเกมที่ 30 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่สุดท้ายเจ้าบ้านก็ไม่ชนะทุกคู่ เพราะมีคู่สุดท้ายแห่งสัปดาห์ที่เป็นทีมเยือนบุกคว้าชัยได้สำเร็จ

สรุปนัดนี้พังประตูรวมกันทั้งหมด 27 ประตูจาก 9 คู่ ทำให้สกอร์รวมเฉลี่ยคู่ละ 3 ประตูพอดี มีจุดโทษ 1 ประตู อย่างที่บอกก็คือเจ้าบ้านชนะ 8 ทีมเยือนชนะ 1 ไม่มีเสมอเลยแม้แต่คู่เดียว มีใบเหลือง 26 ใบ เฉลี่ยคู่ละ 2.89 ใบ มีใบแดง 1 ใบ  จำนวนผู้ชมเฉลี่ยต่อคู่ 42,289 คน

คู่แรกวันอาทิตย์นั้น "เสือเหลือง" ดอร์ทมุนด์ เปิดซิกนัล อิดูน่า พาร์ค ถล่ม "สิงห์เหนือ" ฮัมบูร์ก 3-0 ไล่จี้ บาเยิร์น มิวนิค 7 แต้มตามเดิม โดยเกมนี้ "เสือเหลือง" ส่งสำรองลงเกือบทั้งชุด คริสเตียน ปูลิซิช ทำหน้าที่ปั้นเกมอยู่ข้างหลัง อาเดรียน รามอส ฝั่ง "สิงห์เหนือ" ออกสตาร์ตด้วยการให้ ปิแอร์-มิเชล ลาซ็อกก้า กลับมาเป็นกองหน้าตัวจริงหลังหายหน้าไปหลายเกม มีเลวิส โฮลท์บี้ คอยทำเกมรุก

เกมแลกกันสนุก ฮัมบวร์กก็มีโอกาสไม่น้อยแต่ไม่เฉียบขาด  จนผ่านถึงนาทีที่ 38 ดอร์ทมุนด์ ออกนำ 1-0 จากจังหวะเตะมุมสั้นทางฝั่งซ้ายคางาวะ จ่ายตัดมาหน้าที่เขตโทษให้ ฮุมเมิ่ลส์ ชิ่งสั้นๆเข้าช่องไปให้ปูลิซิช หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปในเขตโทษแล้วยิงด้วยขวาส่งบอลเสียบมุมแคบเสาแรกเข้าประตูไปอย่างเฉียบขาด เป็นประตูแรกของเจ้าหนูวัย 17 ปีคนนี้อีกด้วย

ท้ายครึ่งแรกเจ้าถิ่นได้อีกประตู ซาฮิน แทงบอลออกไปทางซ้ายให้รามอส พาลากโต้เข้าไปทางซ้ายของเขตโทษ แล้วปั่นด้วยขวา ส่งบอลโค้งผ่านมือของ อ๊าดเลอร์ เข้าประตูไปสุดสวยดอร์ทมุนด์ ออกนำ 2-0    

นาทีที่ 52 ฮัมบวร์ก ต้องมาเหลือ 10 คน หลังจากที่อ๊าดเลอร์ ออกไปตัดเกม คางาวะ ที่กำลังจะหลุดเข้าไปยิงประตูที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะชักใบแดงไล่ อ๊าดเลอร์ ออกจากสนามไป ลาบบาเดีย ต้องส่งดร็อบนี่ย์ ประตูสำรองลงเล่นแทน    

เสือเหลืองเล่นอย่างสบายใจ ครองเกมไว้ได้หมด ก่อนหมดเวลา 4 นาที ดอร์ทมุนด์ มาได้ประตูย้ำชัย จากจังหวะชิ่งสั้นๆหน้าเขตโทษ ไลท์เนอร์ คืนหลังมาให้ คางาวะ แล้วยิงด้วยขวาก่อนยิงไปติดเซฟ แต่ยังมาเข้าทางรามอส ซ้ำจ่อๆเข้าประตู จนจบเกม 90 นาที ดอร์ทมุนด์ ถล่ม ฮัมบวร์ก 3-0 จี้หลังบาเยิร์น มิวนิค 7 แต้มตามเดิม

รายชื่อนักเตะที่ลงสนาม-คะแนนความสมารถจาก'Bild' (1-ระดับโลก,2-ยอดเยี่ยม,3-ดี,4-พอใช้,5-ย่ำแย่,6-ไม่ได้เรื่อง)
ดอร์ทมุนด์:บูร์กี้(3) -กินเตอร์4) (ชเมลเซอร์ น.75), สเวน เบนเดอร์(4), ฮุมเมิ่ลส์(2) -พาสส์ลัค(3),กุนโดกาน(3) ( ไลท์เนอร์ น.65),ซาฮิน(3),คาสโตร(4) (โอบาเมย็อง น.75)-คางาวะ(3) -ปูลิซิช(2) -รามอส(2)-คะแนนรวมเฉลี่ย: 3.00
ฮัมบวร์ก:อ๊าดเลอร์(6)-ซากาอิ(4),เคลแบร์(5),สปาฮิช(4),ออสต์โซเล็ค(6) -เอ็คดาล(5),คาชาร์(5)(ดร็อบนีย์ น.54)-  นิโคไล มุลเลอร์(4) (เกรกอริตช์ น.67),โฮลท์บี้(5),อิลิเซวิช(5) -ลาซ็อกก้า(5)(ชิปปล็อค น.34)-คะแนนรวมเฉลี่ย: 4.79

โธมัส ทูเคิ่ล เทรนเนอร์ดอร์ทมุนด์ กล่าวหลังเกมว่า "ผมจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงในทีมไม่น้อยหลังแพ้ลิเวอร์พูล เราต้องเรียกความเชื่อมั่นกลับมา ต้องบอกว่าเราแก้ตัวได้สวย และเล่นเกมรับได้แข็งแกร่ง สกอร์ 3-0 เป็นสกอร์ที่ยอดเยี่ยม ตอนนี้เรามีสมาธิเต็มที่สำหรับเกมโพคาล รอบรองชนะเลิศ เราต้องไปชนะแฮร์ธ่า และเข้าชิงชนะเลิศให้ได้"

บรูโน่ ลาบบาเดีย เทรนเนอร์ฮัมบวร์ก กล่าวว่า "เราน่าจะได้ประตูนำก่อนด้วยซ้ำ แต่เราไม่เฉียบขาดเอง การที่จะเอาชนะที่นี่ได้ต้องท็อปฟอร์มเท่านั้น แต่เราพลาดกันเองมากเกินไป เราต้องเหนื่อยที่จะต้องหนีตายจากการตกชั้นอีกครั้ง แต่เราก็จะอยู่รอดให้ได้"

เกมอีกคู่ต้องบอกว่าพลิกล็อกไม่น้อย ที่ไมนซ์ ซึ่งลุ้นไปแชมเปี้ยนส์ ลีกแพ้คาบ้านต่อโคโลญจน์ 2-3 ทั้ง ๆ ที่ออกนำก่อน 2-0 หมดสภาพเลยเกมรับของไมนซ์ เสียง่าย ๆ 3 ประตู ทำให้แต้มไม่ขยับไปไหน

ไมนซ์นำก่อน 2-0 จากคอร์โดบ้า และบาโลกุน แต่โดนริสเซ่ตีไข่แตก ตามด้วยโยยิชตีเสมอและท้ายเกมพลาดให้โมแดสต์ซัดประตูชัยให้แพะบ้ามาผยองได้ที่ไมนซ์ ไม่น่าตกชั้นค่อนข้างแน่นอนแล้ว

มาร์ติน ชมิดต์ เทรนเนอร์ไมนซ์ กล่าวหลังเกม "เรามุ่งมั่นเต็มที่ตั้งแต่ต้นเกม การที่เราได้ประตูนำห่าง 2-0 น่าจะจบแล้วในตอนต้นครึ่งหลัง แต่เราไปเนือยเอง เสียประตูง่าย ๆ ถึง 3 ประตู ผมแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง มันเป็นการพ่ายแพ้ที่น่าเสียดาย และเราไม่นิ่งพอที่จะรักษาสกอร์เป็นผู้ชนะ ที่เราควรได้อย่างน้อย 1 แต้ม"

ปีเตอร์ สโตเกอร์ เทรนเนอร์โคโลญจน์ กล่าวว่า "เรามีความสุขมาก ๆ ที่เก็บชัยชนะได้ในเกมนี้ เราโดนนำห่างแต่ก็ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ ผมภูมิใจลูกทีมของผมทุกคนที่ช่วยกันทำให้เราอยู่ในจุดที่ยอดเยี่ยมได้อีกครั้ง เราจะเดินหน้าทำให้ดีที่สุดต่อไปในัดที่เหลือ"

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงเลือดโปลของ บาเยิร์น มิวนิค กระตุ้นทีมต้องเล่นอย่างมุ่งมั่น และมีสมาธิ เพื่อปิดจ๊อบให้สำเร็จด้วยการ คว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 4 ติดต่อกัน หลังจากถล่ม ชาลเก้ เละ 3-0 จ่อคว้าแชมป์เต็มทีแล้ว

กองหน้าทีมชาติโปแลนด์ ของ บาเยิร์น มิวนิค กระตุ้นเพื่อนพี่เสือจะต้องรักษาสมาธิ และเล่นด้วยความมุ่งมั่นต่อไป หลังจากโชว์ฟอร์มถล่ม ชาลเก้ 3-0 รักษาบัลลังก์จ่าฝูงเอาไว้เหนียวแน่น จ่อฟาดแชมป์ลีกสมัยที่ 4 ติดต่อกัน และทีมยังโปรแกรมเล่นรอบตัดเชือก แชมเปี้ยนส์ ลีก เจอกับ แอตเลติโก มาดริด ด้วย

เลวานดออฟสกี้ ที่ยิงประตูเกมลีกซีซั่นนี้ไป 27 ประตู กล่าวว่า "มันก็มีบ้างบางช่วงที่อะไรๆ มันไม่เข้าทางเลย สำหรับกองหน้า แต่วันนี้มันลงตัวไปหมด ครึ่งแรกเราเคลื่อนบอลทำเกมรุกไม่ดีเท่าไหร่ เราทำดีขึ้นในครึ่งหลัง และยิงได้ 3 ประตู นี่เป็นเกมที่ดีของเรา เราต้องทุ่มเทในบุนเดสลีกาอย่างเต็มที่ไปจนจบซีซั่น เกมกับ แอตเลติโก ไม่ง่าย แต่เราต้องทำให้เห็นว่าเราต้องการเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศให้ได้และพยายามไปให้ถึงแชมป์ยุโรป"

ทางด้านเป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือคนเก่งบาเยิร์น ก็ออกมาตำหนิบรรดาลูกทีมว่ามีทัศนคติที่แย่ในการเล่นเกมลีกที่ชนะ ชาลเก้ 3-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยบอกว่าครึ่งแรกแทบไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันและควรขยันช่วยกันทำเกมรุกมากกว่านี้ และยอมรับทีมไม่มีจอมถล่มประตูแบบเมสซี่ หรือโรนัลโด้ ไม่อย่างนั้นก็สบายไปแล้ว

กุนซือวัย 45 ปี กล่าวในเรื่องนี้ว่า "ผมไม่พอใจกับเกมของเรา ครึ่งแรกเราเหมือนไม่ได้อยู่ในสนามกันเลย ผมต้องขอโทษแฟนบอลด้วย เพราะคุณอยากมาดูเกมที่สนุกทั้ง90 นาทีอยู่แล้ว เราไม่มีนักเตะที่ยิงได้ 50-60 ลูกอย่างโรนัลโด้ หรือเมสซี่ แต่มันเป็นเรื่องของทัศนคติในการทำงาน นั่นคือความแตกต่างระหว่างครึ่งแรกกับครึ่งหลังอย่างแท้จริงที่เรากลับมาเป็นผู้ชนะได้สำเร็จ"

วันนี้ว่าไว้แค่นี้ ลาไปก่อน มีความสุขมาก ๆ ทุกท่าน สวัสดีครับ

คอลัมน์ "ลอดรั้วบุนเดสลีกา"