New home new hope / โดย ธีรพัฒน์ อัครเศรณี

New home new hope / โดย ธีรพัฒน์ อัครเศรณี

New home new hope / โดย ธีรพัฒน์ อัครเศรณี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ต้องยอมรับว่า...นานพอสมควรแล้วครับที่ผมไม่ได้ไปชมเกมฟุตบอลที่สนาม แต่ความรู้สึกเหล่านั้นยังพอจำได้ มันคงติดตัวมาตั้งแต่เด็กๆ สมัยเคยไปดูที่ ศุภชลาศัย อารมณ์เดินเข้าตัวสเตเดี้ยมแล้วภาพหญ้าเขียวขจีตัดกับสีสันบรรยากาศบนอัฐจันทร์อันคึกคักแว่บเข้าสู่สายตาในวินาทีแรกนั้น เป็นอะไรที่ยังประทับใจไม่รู้ลืม

เมื่อไม่นานมานี้ผมมีโอกาสไปชมเกมสดๆอีกครั้ง ไม่ทราบว่าอารมณ์ไหนแล้วว่างได้อย่างไร ลองไปที่สนาม ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต รังเหย้าแห่งใหม่ของทีม BUFC หรือ แบงค็อก ยูไนเต็ด นั่นเอง

ท่ามกลางเครื่องหมายคำถาม หลังจากใช้สนาม ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง มาหลายปี ทำไมทีม “แข้งเทพ” ถึงได้ตัดสินใจย้ายบ้านจากย่านดินแดงมาอยู่รังสิต

แม้จะต้องเสี่ยงต่อการเสียฐานแฟนบอลเดิมที่อยู่ดินแดง ไหนจะต้องลงทุนเพิ่มเพื่อปรับปรุงสนามใหม่ ซึ่งท่านประธาน ขจร เจียรวนนท์ เผยว่า ต้องควักกระเป๋าเพิ่มไปกว่า 10 ล้านบาทในการทำแผงไฟใหม่แทนของเดิมที่ชำรุดในช่วงน้ำท่วมใหญ่ ทราบมาว่าท่านประธานสโมสรตัดสินใจบวกลบคูณหาร ชั่งตวงวัดอยู่นาน แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเฉียบขาด ย้ายเป็นย้าย!

เท่าที่เดินสำรวจ ข้อดีของสนามแห่งนี้คือสภาพสิ่งอำนวยความสะดวกแล้วยังดีอยู่มาก ทั้งที่จอดรถ สภาพสนาม ทางเข้า พื้นสนาม แถมบริเวณโดยรอบยังมีนักศึกษาและคนในพื้นที่เข้ามาเล่นกีฬาออกกำลังเป็นจำนวนมากทีเดียว น่าจะสร้างฐานแฟนบอลเพิ่มเติมได้

ที่สำคัญสมรภูมิดีเป็นที่โล่งใหญ่โตมโหฬาร ลมพัดเย็นสบาย

ส่วนการเดินทางมาสนามแห่งนี้นั้นก็ไม่ยากครับ ขึ้นทางด่วนมุ่งตรงมายังแจ้งวัฒนะ พอถึงเมืองทองธานีไม่ต้องลงเดี๋ยวไปเชียร์ผิดทีม (แล้วจะเขียนทำไม) ขับมาเรื่อยๆ พอเห็นป้ายธรรมศาสตร์-เชียงราก ค่อยดิ่งลงเลย ขับต่อมาอีกหน่อยสนามจะอยู่ซ้ายมือ

ทีม “แข้งเทพ” ปีนี้นั้นนอกจากย้ายสนาม ยังปรับทีมด้วยการซื้อตัวซูเปอร์สตาร์อย่าง “ลีซอ”ธีรเทพ วิโนทัย มาริโอ ยูรอฟสกี้และ ดราแกน บอสโกวิช ซึ่งท่านประธานฯแอบเผยความลับว่า การจะซื้อนักเตะแต่ละคนสมัยนี้

ฝีเท้าดีอย่างเดียวไม่พอ การตลาดต้องได้ด้วย บางครั้งใช้วิธีเช็คเรตติ้ง Social Media ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊คหรืออินสตาแกรม ซึ่ง ลีซอ เอง มีกว่า 2 แสนคน นอกจากจะช่วยให้มีแฟนตามมาเชียร์ แล้วยังได้ขายเสื้อทีมได้เพิ่มอีกด้วย

ส่วนเป้าหมายในปีนี้จากที่ 5 มาที่ 4 อันดับเดียวดูไม่น่ายาก แต่เอาเข้าจริงทีมหัวแถวในไทยลีกทุกวันนี้ไม่ธรรมดา เขี้ยวๆกันทั้งนั้น

หนทางยังอีกยาวไกล แต่ถ้าโชคดีเกิดทำได้จริงตามเป้าขึ้นมา รับรองว่าทั้งนักเตะ โค้ช ทีมงานและท่านประธานเอง เตรียมตัวเหนื่อยหนักกันอีกครั้งแน่ๆ...

ต้องแก้บนกันน่ะสิครับพี่น้อง! 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook