สกู๊ป : "ทอฟฟี่ vs ผี" เกมคลาสสิคที่ไม่เหมือนเดิม
เป็นอีกหนึ่งเกมที่บรรยากาศควรจะตื่นเต้นมากกว่านี้ แต่ดูเหมือนการพบกันระหว่าง เอฟเวอร์ตัน กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ จะไม่ได้เป็นไปอย่างที่ควรหวัง
ทั้งที่ความจริงแล้วระหว่าง เอฟเวอร์ตัน กับแมนฯ ยูไนเต็ด ในศึกเอฟเอ คัพ นัดจัดเป็นคู่ “คลาสสิค” คู่หนึ่ง
ในยุค 80 ที่เอฟเวอร์ตันยิ่งใหญ่ ยูไนเต็ด สามารถล้มพวกเขาได้ 1-0 ในนัดชิงชนะเลิศ
มาถึงในยุค 90 ที่ยูไนเต็ดยิ่งใหญ่ เอฟเวอร์ตัน ที่ตกต่ำอย่างน่าใจหายในยามนั้น สร้างตำนานด้วยการพลิกล็อกเอาชนะได้อย่างสุดมัน 1-0
เป็นเกมแห่งความทรงจำทั้งคู่ครับ
แต่กับสถานการณ์เวลานี้ที่ทีมหนึ่งกำลังย่ำแย่และตกต่ำถึงขีดสุดในรอบฤดูกาล เมื่อพ่ายแพ้ในเกม เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ แบบหมดรูป ซ้ำร้ายยังมี “ตราบาป” จากใบแดงที่โง่เง่าของ รามิโร ฟูเนส โมริ ที่ทำลายภาพลักษณ์ของสโมสรอย่างรุนแรง
อีกทีมหนึ่งแม้ผลงานจะดีขึ้นตามลำดับ พร้อมกับความหวังใหม่อย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด เจ้าหนูมหัศจรรย์วัย 18 ปีที่ทำไปแล้ว 7 ประตูจากการเล่น 13 นัด แต่นั่นไม่ได้ทำให้ความรู้สึกที่มีต่อทีมของหลุยส์ ฟาน ฮาล แตกต่างไปจากเดิมแต่อย่างใด
แมนฯ ยูไนเต็ด ในการดูแลของปราชญ์ลูกหนังชาวดัตช์ทำได้ประมาณนั้น ไม่ดีและไม่แย่ไปกว่านี้
ในสภาพเช่นนี้จึงไม่แปลกที่บรรยากาศจะ “กร่อย” อย่างน่าเสียดาย
อย่างไรก็ดีเราอาจจะพอ “หวัง” กันได้บ้างครับว่า เกมที่เวมบลีย์ในคืนนี้จะเป็นเกมที่มีสนุกบ้าง หาก เอฟเวอร์ตัน จะแสดงออกทางความรู้สึกให้เห็นบ้างว่าพวกเขา “แคร์” แฟนบอลและไม่อยากพ่ายแพ้อย่างง่ายดายเหมือนในเกมที่ผ่านมา
ว่ากันว่าผลการแข่งขันในเกมนี้อาจจะส่งผลต่ออนาคตของ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ว่าจะได้ทำทีมต่อไปหรือไม่ในฤดูกาลหน้า
หรืออาจจะตกงานทันทีหากทีมพ่ายต่อยูไนเต็ดด้วยซ้ำไป
สำหรับ ฟาน ฮาล เอฟเอ คัพ คือโอกาสสุดท้ายที่จะพาทีมคว้าโทรฟี่มาครอง เพราะโอกาสจะได้ทำทีมต่อในฤดูกาลหน้าแทบไม่เหลือ บวกกับผลงานของทีมที่อยู่ในลูป “ขาขึ้น” (เล็กๆ) การตกรอบย่อมไม่ใช่สิ่งที่เขาปรารถนาเช่นกันครับ
ในเกมที่ไม่มีอะไรให้พูดถึงมากนัก ก็ได้แต่หวังว่ามนต์ขลังของเกมเอฟเอ คัพ จะช่วยให้เราได้ดูเกมฟุตบอลที่ดีบ้าง ให้เป็นเกมที่มีความหมายแม้จะไม่มีความหวังเหลือมากนักสำหรับทั้งสอง
ไม่ขออะไรมากไปกว่านั้นแล้วครับ
นิทานลูกหนัง by ลูกแม่กิ่ง