เอเชียสะเทือน! "จีน" กลัวน้อยหน้า "ญี่ปุ่น" ขอเป็นขาใหญ่บอลโลกปี 2050 ด้วย!

เอเชียสะเทือน! "จีน" กลัวน้อยหน้า "ญี่ปุ่น" ขอเป็นขาใหญ่บอลโลกปี 2050 ด้วย!

เอเชียสะเทือน! "จีน" กลัวน้อยหน้า "ญี่ปุ่น" ขอเป็นขาใหญ่บอลโลกปี 2050 ด้วย!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เป็นข่าวเป็นคราวช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา New York Times เสนอข่าวเกี่ยวกับความพยายามของทางการจีนในการพัฒนาวงการลูกหนังของเค้า ในเนื้อข่าวระบุว่า

จีนได้กำหนดแผนงานในการทำให้ทีมลูกหนังของตนเองเป็นหนึ่งในทีมชั้นนำของโลกภายในปี 2050 ซึ่งแผนระยะแรกกำลังดำเนินการอยู่ โดยได้กำหนดให้นักเรียนจำนวน 30 ล้านคนในโรงเรียนกว่า 20,000 แห่ง เล่นฟุตบอลเป็นกิจวัตร ภายในสิ้นทศวรรษนี้ (2020)

ส่วนแผนระยะกลาง 2021-2030 จีนต้องพยายามให้ทีมเป็นทีมชั้นนำในเอเซีย ซึ่งที่ผ่านมาจีนเคยเข้าใกล้จุดนั้นครั้งเดียวในเอเชี่ยน คัพ ปี 2004 โดยจีนเป็นเจ้าภาพและได้เข้าชิงชนะเลิศ นอกนั้นก็ตกอยู่ภายใต้ร่มเงาของ เกาหลีใต้และญี่ปุ่นมาโดยตลอด โดยเฉพาะญี่ปุ่นที่มีเป้าหมายเป็นแชมป์โลกในปี 2050 เช่นกัน

โค้ชทีมชาติ เกา ฮง โบ กล่าวว่าการเข้ารอบคัดเลือกรอบสาม WC 2108 เป็นการยุติความล้มเหลวในความพยายามเข้ารอบคัดเลือกรอบสุดท้าย 3 ครั้งล่าสุดก่อนหน้านี้ (ครั้งสุดท้ายที่จีนผ่านเข้ามาในรอบนี้คือปี 2002 ที่ไทยเข้ารอบคัดเลือกรอบสุดท้ายเช่นกันแต่อยู่คนละสาย ซึ่งครั้งนั้นจีนไปไกลถึงแชมป์กลุ่มได้ผ่านไปเล่นรอบสุดท้ายที่ เกาหลี/ญี่ปุน ทีเดียว)

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์บางคนมองว่า แผนดังกล่าวไม่สมเหตุผลและไม่น่าจะทำได้จริง เพราะในญี่ปุ่น/เกาหลี ทำแผนโดยคนในวงการฟุตบอล แต่แผนของจีนกำหนดโดยนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่มีความรู้เรื่องฟุตบอล ซึ่งส่วนมากมีแต่การพูดคุยแต่ไม่มีการลงมือทำ นอกนั้นเนื้อข่าวก็พูดถึงเม็ดเงินมากมายที่ใช้ในการดึงนักเตะดังและโค้ชระดับโลกมายังไชนีส ซูเปอร์ลีก ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

จีนมีโอกาสได้ทดสอบตัวเองกับเกาหลีใต้ในวันที่ 1 กันยานี้ ในรอบคัดเลือกรอบสาม โดยจีนชนะเกาหลีใต้ได้ครั้งเดียวจากการพบกัน 29 ครั้ง อูลี่ สตีลีเก้ โค้ชของเกาหลีใต้คิดว่า จีนอาจกลายเป็นทีมชั้นนำของเอเชียได้ แต่การใช้เงินมากมายเป็นแค่ส่วนนึงของแผนเท่านั้น

ส่วนผู้บริหารทีมชาติญี่ปุ่นบอกแค่ว่า "สักวันจีนอาจตามเราทัน แต่ญี่ปุ่นก็เริ่มพัฒนามานานแล้วนะ" (เอ็งเพิ่งเริ่มเอง จะทันตูมั้ย?) ส่วนแอนดี้ ร็อกซ์เบิร์ก อดีตโค้ชทีมชาติสก็อตแลนด์ ดูจะมั่นใจในศักยภาพของจีน ทั้งในส่วนของประชากรและการเงินของจีน ว่าต้องทำได้แน่ ได้กล่าวประมาณว่า "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น"

ที่มาข่าวต้นฉบับ http://www.nytimes.com/2016/04/13/sports/soccer/chinas-blueprint-for-reaching-top-ranks-of-soccer.html?_r=0


เห็นจำนวนเด็กนักเรียน 30 ล้าน ขนลุกอ่ะ ขอแค่ 1 ล้านคนมีเก่งสักคนก็พอ

เครดิตคุณ chalee (thailandsusu)
ปล. แปลตามความเข้าใจ ผิดพลาดประการใด ขออำไพ มา ณ ที่นี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook