มาร์กซิยาล เก่งจริง และ เสียสละ

มาร์กซิยาล เก่งจริง และ เสียสละ

มาร์กซิยาล เก่งจริง และ เสียสละ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศึกเอฟเอ คัพ 2016 คู่ตัดเชือกเกมแรกจบลงด้วยชัยชนะเป็นของทีมปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ทำผลงานได้ดีที่สุดแมตช์หนึ่งในฤดูกาลเหนือเอฟเวอร์ตัน 2-1 โดยอองโตนี มาร์กซิยาล มีส่วนร่วมทั้ง 2 ประตูทั้งจ่าย และยิง

ผมเชื่อครับว่า แม้แมนฯยูฯจะไม่ได้แชมป์ในบั้นปลาย หรืออาจพลาด "ท็อปโฟร์" ในตารางพรีเมียร์ลีก

ทว่า รูปแบบการเล่นของทีมในช่วงหลัง แม้กระทั่งเกมแพ้สเปอร์ส 0-3 ก็ตาม สามารถสร้าง "เครดิต" ให้กุนซือดัตช์ได้เดินจากไป

หรืออาจจะได้ทำทีมต่อจนหมดสัญญาในซีซั่นหน้าได้แล้ว!

เพราะหากทีมเล่นได้ "มาตรฐาน" นี้ และสามารถปั้นผู้เล่นดาวรุ่งขึ้นมาเป็นเจนเนอเรชั่นใหม่อย่าง "โดดเด่น" แบบนี้

เสียง "ยี้" ย่อมถูก "แบ่ง" ไปเป็นเสียง "ยอม(รับ)" บ้างไม่มากก็น้อย...

ครับ ผมคงไม่ต้อง "ฉายซ้ำ" ว่า แมนฯยูฯเหนือกว่าเอฟเวอร์ตันอย่างไร? แม้ในมุมหนึ่งอาจมองได้ว่า โรเมลู ลูคาคู พลาดครั้งแล้วครั้งเล่า

ตั้งแต่ "หลุดเดี่ยว" 2 หน และจุดโทษ 1 ครั้งจนเป็น "ตัวแปร" ความพ่ายแพ้แน่ ๆ ของ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ และลูกทีม

แต่ทั้งหมดอันเป็น "ความดี" ข้างต้น หรือผลงานที่กระเตื้องขึ้นใน 45 นาทีหลังจะ "โดนกลบ" สนิททันทีด้วยฟุตบอล "ลื่นไหล" ของฟาน ฮัล กับเด็ก ๆ

โดยเฉพาะแนวรุกที่มี มาร์คุส แรชฟอร์ด เป็นหัวหอก และสนับสนุนโดย เจสซี ลินการ์ด, อองโตนี มาร์กซิยาล และกัปตันทีมที่คืนกลับมา เวย์น รูนีย์

ยิ่ง มาร์กซิยาล ออกฟอร์มได้ "โดดเด่น" ขนาดนี้ คำถามจึงตามมาทันทีหลังเกมครับ

"มาร์กซิยาล ควรเล่นกองหน้า มากกว่าริมเส้นหรือไม่?"    
ตอบ: "ผมชอบเค้าในฐานะปีก ไม่ใช่กองหน้าเหมือน รุด ฟาน นิสเตอรอย" ฟาน ฮัล กล่าว

วิเคราะห์จากคำตอบของกุนซือดัตช์ก็ไม่ได้มีอะไรผิด เพราะมาร์กซิยาล ไม่ใช่ ฟาน นิส เตอรอย และก็ไม่ใช่กองหน้าแนว แฮรี่ เคน ที่ชัดเจนว่าเป็นกองหน้าแท้ ๆ (Orthodox Striker) ทว่านี่คือกองหน้าสมัยใหม่ในระบบฟุตบอล 4-3-3 หรือ 4-2-3-1 ที่เล่นได้ทั้งริมเส้น และหน้าเป้า

ขณะที่หาก "ถามกลับ" ว่า รุด หรือเคน สามารถเล่นหน้าริมเส้นเหมือน มาร์กซิยาล ได้ไหม?
ตอบ: "ไม่ได้!!!" (โดยไม่ต้องมีคำอธิบาย)

คำถามที่ตาม ๆ มา และอาจไม่ต้องหาคำตอบ ทว่าควร "รับทราบไว้" นั่นคือ เหตุผลจริง ๆ ที่กองหน้าวัย 20 ปีต้องมายืนริมเส้นฝั่งซ้าย เป็นเพราะต้อง "หลีกทาง" ให้มาร์คุส แรชฟอร์ด หรือเวย์น รูนีย์ (ก่อนเจ็บ 2 เดือน) หรือเปล่า?

เพราะหากนำ แรชฟอร์ด หรือรูนีย์ มายืนริมเส้น เชื่อแน่ว่า ยืนไม่ได้ หรือทำได้ไม่ดีเท่ากับมาร์กซิยาล

แต่หากนำมาร์กซิยาลไปยืนกองหน้าเป้าเหมือนแรชฟอร์ดตอนนี้ หรือรูนีย์ตอนโน้น

ผมมั่นใจว่า อย่างน้อย ๆ มาร์กซิยาล จะทำได้ไม่เป็นรอง หากไม่ดีกว่า

ดังนั้นคำตอบของ ฟาน กัล หลังประสบความสำเร็จพาทีมปิศาจแดง เข้าสู่นัดไฟนอล เอฟเอ คัพ 2016 เกี่ยวกับ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมนี้จึงอาจไม่ใช่คำตอบที่ครบ "ทุกมิติ"

โดยเฉพาะในแง่ "มูลค่า" ของตำแหน่ง และความ "เสียสละ" ของผู้เล่น

ทำไม ธีโอ วัลคอตต์ ถึงอยากเล่นหน้าเป้า และถูกต่อรองเป็นเงื่อนไขตอนต่อสัญญากับ อาร์เซนอล?

เพราะกองหน้าเป็นตำแหน่งที่มี "มูลค่า" มากกว่าตัวริมเส้นนั่นเองครับ

หรือ เธียร์รี อองรี ตอนโดน อาร์เซน เวนเกอร์ ปรับมาเป็นกองหน้าก็ทำให้ "มูลค่า" ของอองรี สูงขึ้น ณ เวลาที่อองรี ก็ชอบไปยืนริมเส้นนั่นแหละ

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ณ ตำแหน่งปีกขวาสมัยระบบ 4-4-2 ของแมนฯยูฯ กับ "ท่านเซอร์" ก็มีมูลค่าในตัวเองต่างจาก 4-3-3 กับเรอัล มาดริด

ขณะที่ในแง่ความ "เสียสละ" แน่นอนครับว่า มาร์กซิยาล สามารถตั้งคำถามได้ว่า "ทำไมต้องกรู?"

กรู เป็นกองหน้าจะมาให้เล่นริมเส้นเพื่อเพื่อนอย่าง รูนีย์, เฟลไลนี หรือแรชฟอร์ด กระนั้นหรือ?

ครับ ผมมองว่า สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้เป็นเรื่องที่ หลุยส์ ฟาน ฮัล หรือแฟน ๆ แมนฯยูไนเต็ด สมควร "รับทราบ" และยอมรับว่า อองโตนี มาร์กซิยาล

ไม่ใช่แค่เก่งที่สุดในแนวรุกทีมตอนนี้ แต่ "เสียสละ" ตัวเองขนาดไหน!?

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook