สกู๊ป : สาวไทยไฟแรงเฟร่อ!

ในรอบเดือนที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าผลงานของนักกีฬาสาวไทยสามารถสร้างความสุขให้กับคนไทยได้แทบทุกสัปดาห์

ตั้งแต่ แบดมินตัน จาก น้องเมย์ “รัชนก อินทนนท์” เทควันโด จาก น้องเทนนิส “พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ” ยิงเป้าบินจาก น้องณี “สุธิยา จิวเฉลิมมิตร” จนไปถึงยกน้ำหนัก จาก น้องปุ๊กลุก “ศิริภุช กุลน้อย” ซึ่งทุกคนได้ตั๋วไปแข่งโอลิมปิกเกมส์ ที่บราซิล เรียบร้อยแล้ว เหลือแค่ “น้องเทนนิส” คนเดียวที่ต้องรอผลการคัดเลือกกับ “น้องเล็ก” ชนาธิป ซ้อนขำ อยู่

แน่นอนว่าไฮไลต์ประจำเดือนคงหนีไม่พ้นการกวาดแชมป์ระดับซูเปอร์ซีรี่ส์ 3 รายการติดต่อกันของน้องเมย์ แห่งบ้านทองหยอด โดยเริ่มตั้งแต่ “อินเดีย โอเพ่น” “มาเลเซีย โอเพ่น” จนมาที่ “สิงคโปร์ โอเพ่น” ถือว่าเป็นนักแบดมินตันคนแรกของโลกที่ทำได้ พร้อมทั้งการเป็นคนไทยคนแรก ขึ้นมารั้งตำแหน่งหมายเลขหนึ่งของโลกจากการประกาศของสหพันธ์แบดมินตันนานาชาติ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ถึงแม้ว่าตอนนี้เจ้าตัวจะตกรอบชิงแชมป์เอเชียไปแล้ว แต่ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพราะการที่ลงสนามเกือบ 20 แมตช์ ในเวลาเพียงแค่ 3 สัปดาห์ ย่อมล้าเป็นธรรมดา ถือซะว่าให้น้องเมย์ได้พัก “ดีกว่า” ลงแข่งไปแล้ว “บาดเจ็บ” ขึ้นมา ที่สำคัญเป้าหมายใหญ่ที่เหลืออยู่ในปีนี้คือ “โอลิมปิก” หลังจากประสบความสำเร็จในเป้าหมายแรกกับตำแหน่งหมายเลข 1 ของโลกมาแล้ว

มากันที่ น้องเทนนิส กันบ้าง ซึ่งเพิ่งคว้าแชมป์ในรายการชิงแชมป์เอเชียในรุ่น 49 กิโลกรัม ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ถ้าใครเคยดูน้องเทนนิสลงสนาม จะเห็นว่าสไตล์เทควันโดแตกต่างจากนักกีฬาไทยที่ผ่านมา ด้วยรูปร่างที่ถือว่า สูงยาว เข่าดี พร้อมกับความรวดเร็วและพรสวรรค์ ทำให้เกือบทุกรายการที่ลงแข่งได้ “แชมป์” กลับมาเป็นประจำ

อย่างการแข่งขันล่าสุดในรอบชิง เอาชนะนักกีฬาเกาหลีใต้ไปได้ ซึ่งถือว่าเป็นคู่แข่งสำคัญในการลุ้น “เหรียญทองโอลิมปิก” ถ้าน้องเทนนิสได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนทีมชาติในรุ่นนี้ หลังจากเราได้โควต้ามาแล้วแบบอัตโนมัติ จากอันดับโลกของ “น้องเทนนิส” และ “น้องเล็ก” ที่สูงจนไม่ต้องไปแข่งรายการรอบคัดเลือก

ขณะที่กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา น้องณี ก็ประสบความสำเร็จในการแข่งยิงปืนประเภท ยิงเป้าบิน สกีตหญิง ชิงแชมป์โลกที่ประเทศบราซิล ถือว่าเป็นคนไทยคนแรกที่ทำได้ ซึ่งในรอบชิงชนะเลิศต้องลุ้นหนักจากการที่ต้องตัดสินกับแบบชู้ตออฟ หลังจากที่เสมอกัน โดยสาวจากรั้วแม่โดมคนนี้ก็ไม่ได้ทำให้คนไทยผิดหวัง

ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้านี้ น้องณี ต้องเจอปัญหามากมายทั้งในเรื่องของจิตใจจากการสูญเสียบิดาเมื่อปีที่แล้ว จนไปถึงการที่ต้องหมดเงินไปมากมายหลายล้านจากทุนส่วนตัวในการจ้างโค้ชต่างชาติราคาแพง ซึ่งทำให้ช่วงหลังเธอต้องเลิกจ้าง และฝึกซ้อมด้วยตัวเองมากขึ้น แน่นอนว่า ถ้าวันที่แข่งในโอลิมปิกสามารถยิงเข้าเป้าได้แบบวันที่ได้แชมป์โลก อีก 1 เหรียญทอง ของคนไทยก็อยู่ไม่ไกล

ส่วน น้องปุ๊กลุก ก็เพิ่งได้ 3 เหรียญทอง จากการแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์เอเชีย หญิง ในรุ่น 63 กิโลกรัม ที่ประเทศอุซเบกิสถาน เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนักกีฬาเจ้าของเหรียญทองแดงคนแรกของทัพนักกีฬาไทยในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่แล้ว ถือว่าตอนนี้คืออันดับต้นๆในรุ่นนี้ เอาชนะคู่แข่งสำคัญจากจีนที่ได้อันดับ 2 ทุกท่า ตั้งแต่ “สแนตช์” “คลีนแอนด์เจิร์ก” และ “น้ำหนักรวม” ทำให้น้องปุ๊กลุกกลายเป็นความหวังของทัพนักกีฬายกน้ำหนัก ไม่ใช่แค่คว้าเหรียญแต่ต้องเหรียญทอง

สำหรับตอนนี้เหลือเวลาประมาณ 4 เดือน ก่อนที่การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ จะเริ่มต้น ซึ่งจริงๆแล้ว ยังมีนักกีฬาสาวไทยมากกว่านี้ที่กำลังรอสร้างความสุขให้กับไทย หรือ “ไฟแรงเฟร่อ” เหมือนกัน แต่เรายังไม่เห็น ก็ขอเป็นกำลังใจให้บรรดานักกีฬาตั้งใจ มีวินัย ขยันฝึกซ้อม และที่สำคัญคือ “อดทน”

เพราะถ้าได้ “เหรียญทองโอลิมปิก” ขึ้นมา ไม่ใช่แค่สร้างความสุขให้คนไทยและชื่อเสียงให้ประเทศชาติ แต่ตัวนักกีฬาเอง “ชีวิตเปลี่ยน” จากหน้ามือเป็นหลังมือจริงๆครับ

เรื่องโดย BANK