เกม "คนอกหัก"

เกม "คนอกหัก"

เกม "คนอกหัก"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ไม่ต่างอะไรกับเกม "คนอกหัก" หรือ "บาดเจ็บ" สะบักสะบอมนะครับสำหรับศึก "ซูเปอร์ซันเดย์" คู่สำคัญระหว่าง แมนฯซิตี้ - อาร์เซนอล
    
ฝ่ายหนึ่งเพิ่ง "รักคุด" พ่ายเรอัล มาดริด มาแบบคนไม่รู้จุดหมายปลายทางในชีวิต ขณะที่ทีมปืนใหญ่ ก็ยังไม่พื้นจากสภาพงง ๆ เบลอ ๆ อันเป็นอาการ "เมาฤทธิ์ยา" แบบปกติตอนท้ายปี
    
แน่นอนครับว่า ความสำคัญคือ "อันดับ 3" ลุ้นไปเตะยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แบบไม่ต้องเหนื่อยเตะรอบคัดเลือกเฉกเช่นอันดับ 2 สเปอร์ส
    
แต่ต่างจากอันดับ 1 หรือแชมป์ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่จะได้สิทธิ์เข้ารอบแบ่งกลุ่มในฐานะ "ทีมวาง" อีกต่างหาก
    
ฟุตบอลนัดนี้จึงมีความสำคัญในตัวเองไม่ใช่น้อย หาใช่เกมของคน "อกหัก" พลาดหวังจากแชมป์ลีกสูงสุดมาเจอกันธรรมดา ๆ แม้ในแง่ "ความรู้สึก" ความสำคัญมันแทบไม่เหลือครับ และคงใช่เรื่องง่ายโดยเฉพาะทีมเรือใบสีฟ้าที่จะ "คืนชีพ" ณ ช่วงเวลาแบบนี้ สถานการณ์เช่นนี้ของปี
    
มานูเอล เปเญกรินี่ เตรียมส่งมอบงานให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ขณะที่ "ผู้เล่น" หลายคน โดยเฉพาะ "บิ๊กเนม" ดูเหมือนจะทราบ "ชะตาชีวิต" คร่าว ๆ แล้วเหมือนกัน
    
ดังนั้น เกมนี้จึงแทบไม่มี "ฟิลลิ่ง" ใด ๆ ต่อพวกเค้าหลังโอกาสเข้าสู่รอบไฟนอล UCL กับโอกาสได้เตะในซานซีโร่ สเตเดี้ยม เมืองมิลาน สิ้นสุดลงเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา


    
แมตช์ดังกล่าว มี "ประเด็น" อยู่ 2-3 หัวข้อนะครับ:
    
1.การบาดเจ็บของ แวงซองต์ กอมปานี ตั้งแต่ต้นเกมด้วยอาการกล้ามเนื้อยึดแบบที่เรียกว่า หากอยู่เมืองไทยคงต้องพาไปหา "หมอเทวดา" เพราะมักจะมาแบบไม่มีที่มาที่ไปเสมอ ๆ จังหวะดังกล่าว ก้าวล่วงไม่ถึง 10 นาทีของเกมขณะที่แมนฯซิตี้ กำลังทำได้ดีก่อนที่จะ "สะดุด" ทันทีหลังจากกัปตันทีมถูกเปลี่ยนตัวออก และไม่ฟื้นเลยตลอดแมตช์
    
2.ฟอร์มของ ยาย่า ตูเร่ ที่โดนวิจารณ์อย่างหนักจากบรรดาผู้สันกรณีฟุตบอล อาทิ รุด ฮุลลิท ที่ต้องการเห็นดาวเตะรายนี้ถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่หมดครึ่งแรก แต่กองกลางไอวอรี่โคสต์ก็ถูกปล่อยเล่นถึง 60 นาทีชนิดไม่มีความสามารถในการ "ไล่บอล", แย่งบอล หรือมีพลังในการขับเคลื่อนเกมได้ หลังเกมจึงฉงนกันเล็กน้อยที่ได้ยิน เปเญกรินี่ กล่าวว่า ลูกทีมรายนี้ "ไม่ฟิต" อันนำมาซึ่งคำถาม "แล้วจะเอาลงสนาม และปล่อยให้เล่นตั้ง 60 นาทีทำไม?"
    
3.ซิตี้เองก็ระดมไปด้วยผู้เล่นหลักราคา 30,40 หรือ 50 ล้านปอนด์ทั้งนั้น ชนิดไล่ชื่อตั้งแต่โจ ฮาร์ต, เอเลียคิม มองกาล่า, นิโคลัส โอตาเมนดี้, เฟอร์นันโด, เฟอร์นันดินโญ่ ยันเควิน เดอ บรอย และแซร์โจ้ กุน อเกวโร่ นักเตะซิตี้ ไม่ได้ราคาถูกกว่า เรอัล มาดริด หรือต่างมากนักตามหน้ากระดาษ แต่กลับเล่นอย่าง "เกรงใจ" หรือกลัวศักดิ์ศรีเจ้าถิ่นแห่ง ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว
    
ในเกมที่ ซิเนอดีน ซีดาน เองก็ยอมรับว่า ลูกทีมเล่นได้ไม่ดีนัก ขณะที่ซิตี้ก็ต้องการแค่ "ประตูเดียว" ก็เข้ารอบแล้วทว่าพอเล่นแบบ "ไม่ใจ" เครื่องหมายคำถามจึงตามมากมาย
    
เป๊ป เข้ามาแล้วจะ "เก็บใคร" หรือ "ทิ้งใคร" และจะ "ซื้อใคร" เข้ามาใหม่?
    
เพราะขนาดเกมที่มีความหมายที่สุดในฤดูกาล เด็ก ๆ ชุดนี้ยังทำได้แค่นี้
    
ส่วนอาร์เซนอล ก็ไม่ได้ต่างกันนักในซีซั่นที่ "ย่ำแย่" ตามมาตรฐานการคาดหวังจากแฟน ๆ เพราะไม่ได้สัมผัสถ้วยรางวัลใด ๆ
    
ขณะที่ "อนาคต" ก็ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่า อาร์เซน เวนเกอร์ จะทำหน้าที่เข้าสู่ปีที่ 21 ต่อไป
    
โดยสถานการณ์ตอนนี้ ทีมปืนใหญ่อยู่อันดับ 3 นำหน้าซิตี้อันดับ 4 อยู่ 3 คะแนน
    
ดังนั้นหากไม่แพ้เกมนี้ อันดับ 3 น่าจะอยู่ในมือ แต่หากแพ้ ก็เหมือนกับจะยื่น "ท็อปทรี" ให้แมนฯซิตี้ไปเลย เพราะแต้มจะเท่ากัน แต่ประตูได้เสียเป็นรอง
    
เอาเป็นว่า ลองจับตาดูเล่น ๆ ครับว่า เกม "คนอกหัก" แต่มีความหมายแมตช์นี้จะลงเอยเช่นไหร?

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook