สกู๊ป : ฉากสุดท้ายของชายชื่อ "จอห์น เทอร์รี่"

ฤดูกาลที่แล้ว จอห์น เทอร์รี่ ทำสถิติลงเล่นให้เชลซีครบทุกนาที ในการนำทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปครองแบบไร้คู่แข่ง แต่ฤดูกาลนี้เขาจะไม่มีโอกาสได้เตะนัดสั่งลาที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในการพบกับแชมป์ทีมล่าสุดอย่างเลสเตอร์ เมื่อโดนไล่ออกในเกมกับซันเดอร์แลนด์เมื่อวันเสาร์

ใบแดงจากการทำฟาวล์อย่างงุ่มง่ามของเทอร์รี่ทำให้เขาต้องโดนแบนห้ามแข่ง 2 นัด เพราะเป็นการถูกไล่ออกครั้งที่ 2 ในฤดูกาลนี้ หลังเคยโดนตะเพิดออกจากสนามมาแล้วในเกมกับเวสต์ บรอมวิชตั้งแต่นัดที่ 3

และมันจะทำให้เขาพลาดการลงเตะในพรีเมียร์ลีก 2 นัดสุดท้ายที่เหลืออยู่ นั่นคือเกมที่จะไปเยือนลิเวอร์พูลในวันพุธ รวมถึงเกมปิดฉากซีซั่นที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ระหว่างแชมป์เก่าและแชมป์ใหม่

ด้วยสัญญาที่กับเชลซีที่กำลังจะหมดลงหลังจบดูกาลนี้ และยังไม่การส่งสัญญาณใดๆออกมาว่าเซ็นเตอร์แบ็กวัย 35 ปีรายนี้จะได้รับข้อเสนอใหม่ มันจึงหมายว่ากัปตันทีมผู้เป็นตำนานแห่งถ้ำสิงห์ครามอาจจะลงเตะนัดสุดท้ายให้กับทีมไปแล้ว

นับเป็นการรูดม่านปิดฉากชีวิตการเป็น one club man ลงอย่างไม่สวยงามอย่างที่ควรจะเป็นสำหรับเทอร์รี่ ซึ่งใช้ชีวิตในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์มานาน 21 ปี ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ 18 ฤดูกาล เป็นกัปตันทีมอย่างเป็นทางการ 13 ฤดูกาล

รวมถึงการเป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของสโมสร ด้วยการครองแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย แชมป์เอฟเอ คัพ 5 สมัย แชมป์ลีก คัพ 3 สมัย และแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกกับแชมป์ยูโรป้า ลีก อย่างละ 1 สมัย

ยังไม่นับสถิติอีกมากมายที่เขาสร้างขึ้นในระหว่างการลงเล่นในสีเสื้อของสิงห์คราม ทั้งในระดับสโมสรและพรีเมียร์ลีก หรือแม้แต่ในระดับประเทศ

แต่น่าเสียดายที่ฤดูกาลสุดท้ายของเจทีถือเป็นฤดูกาลที่แย่ที่สุดในชีวิตการค้าแข้งของเขากับสโมสร เมื่อสิงห์ครามไม่มีแชมป์ใดๆติดมือเลย และยังทำอันดับในลีกได้ต่ำที่สุดในรอบ 20 ปีอีกด้วย

แถมเขาจะยังไม่มีโอกาสได้รับลงไปเตะสั่งลาเพื่อขอบคุณแฟนๆ และได้รับคำขอบคุณกลับคืนจากแฟนๆ ที่เตรียมตัวบอกลากัปตันผู้เป็นตำนานผู้นี้อย่างยิ่งใหญ่ด้วย

หลายคนยังจำได้ดีกับภาพที่เทอร์รี่แต่งตัวเต็มยศลงไปร่วมเฮและรับถ้วยแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2012 ซึ่งเขาโดนแบนในนัดชิงชนะเลิศกับบาเยิร์น มิวนิค จนถูกเอามาอำและล้อเลียนไปพักใหญ่

แต่ในเกมสุดท้ายที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เจทีคงไม่มีโอกาสได้สวมเสื้อเชลซี ลงไปทำแบบนั้นอีก และถือเป็นฉากสุดท้ายที่น่าเสียดายสำหรับนักเตะผู้ยิ่งใหญ่คนนี้

Babybear