สกู๊ป : คนที่ใช่!! (จริงหรือ?)

ถ้าหลุยส์ ฟาน ฮัลถูกวิจารณ์เรื่องปรัชญาในการทำทีมของเขาว่าไม่เหมาะกับแมนเชสเตอร์ ยูไนต็ด โจเซ่ มูรินโญ่ก็ไม่น่าจะใช่คนที่จะมาตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้เช่นเดียวกัน

แต่หลังจากความล้มเหลวมาตลอด 3 ปีหลังหมดยุคของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ปิศาจแดงก็จำเป็นต้องยอมที่จะแลกบางอย่างกับความสำเร็จ

การที่ลิเวอร์พูลได้เยอร์เก้น คล็อปป์เข้ามาคุมทีมในระหว่างฤดูกาลที่ผ่านมา และการที่เป๊ป กวาร์ดิโอล่ากำลังจะเข้ามานั่งเก้าอี้ผู้จัดการทีมคนใหม่ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้

รวมถึงเชลซีก็จะได้อันโตนิโอ คอนเต้มาเป็นนายใหญ่ คนใหม่ หมายความว่าแมนฯ ยูไนเต็ดต้องมองหากุนซือที่มีฝีไม้ลายมือในระดับเดียวกันหรือเหนือกว่ามารับหน้าที่ด้วย

นั่นทำให้หวยไปออกที่มูรินโญ่ที่มีดีกรีความสำเร็จรองรับมากมายในการคุมทีมปอร์โต้, เชลซี, อินตอร์ มิลาน, เรอัล มาดริด รวมถึงการกลับมาคุมเชลซีรอบสอง

แม้ว่าในฤดูกาลที่ผ่านมาเขาจะต้องเผชิญกับความตกต่ำเป็นครั้งแรกจนถึงขั้นถูกไล่ออก แต่ด้วยผลงานที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ดยังเชื่อว่ากุนซือคนพิเศษคนนี้นี่แหละที่จะสามารถพาทีมกลับสู่บัลลังก์แชมป์ได้อีกครั้ง

แน่นอนว่าความเห็นในแวดวงลูกหนังส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ผิดแผกไปจากนี้ นั่นคือแทบทุกคนเชื่อว่ามูรินโญ่คือคนที่สามารถพาผีแดงกลับมาเป็นทีมในระดับแนวหน้าที่มีแชมป์เป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จได้

แต่สิ่งที่หลายคนตั้งคำถามก็คือตัวตนและสไตล์ในการคุมทีมของมูรินโญ่จะเข้ากับความเป็นแมนฯ ยูไนเต็ดมากน้อยแค่ไหน และผีแดงจะต้องจ่ายด้วยอะไรบ้างในการแลกมาซึ่งความสำเร็จจานด่วนแบบที่ต้องการ

หนึ่งในนั้นก็คือเอริก ก็องโตน่า อดีตดาวเตะระดับตำนานของแมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งพูดถึงกุนซือคนใหม่ของผีแดงไว้ด้วย

“ผมชอบบุคลิกของเขา ชอบความหลงใหลที่เขามีต่อเกม ชอบอารมณ์ขันของเขา เขาฉลาดเป็นกรด เขาต้องการทุกอย่างเต็มร้อยจากนักเตะของเขา และแน่นอนว่าเขาทำทีมคว้าแชมป์มามากมาย”

“แต่ผมไม่คิดว่าฟุตบอลในสไตล์ของเขาจะเป็นแบบที่แฟน ๆ ของแมนฯ ยูไนเต็ดชอบ ถึงแม้เขาจะพาทีมคว้าแชมป์ได้ แต่แมนฯ ยูไนเต็ดจะคาดหวังฟุตบอลในสไตล์ของเขาจริงหรือ? ผมไม่คิดอย่างนั้น”

มูรินโญ่โดดเด่นในเรื่องการวางแท็คติกเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ แม้จะต้องเล่นในแบบที่เขาเองเคยวิจารณ์ทีมอื่นว่าเอารถบัสมาจอดไว้ที่หน้าประตูเพื่ออุดโดยเฉพาะ ชัยชนะแบบที่เรียกว่า winning ugly คือสิ่งที่มูรินโญ่ถนัด เพราะเขามองที่ผลการแข่งขันเหนือสิ่งอื่นใด

แน่นอนว่ามันนำมาซึ่งความสำเร็จได้ แต่อาจไม่ได้นำมาซึ่งความบันเทิงในแบบที่แฟนผีแดงคงอยากจะเห็น โดยเฉพาะหลังจากเอือมกับปรัชญาการต่อบอลไปมา เน้นจ่ายไม่เน้นยิง ของฟาน ฮัลมาตลอด 2 ปี

อีกประเด็นที่หลายคนไม่คิดว่าปรัชญาการคุมทีมของมูรินโญ่จะเข้ากับปรัชญาของแมนฯ ยูไนเต็ดก็คือนโยบายการสร้างทีมจากระบบนักเตะเยาวชน ซึ่งเป็นผลงานที่โดดเด่นที่สุดที่ฟาน ฮัลได้ฝากเอาไว้ และเป็นนโยบายที่ป๋าเฟอร์กี้เคยใช้จนเป็นรากฐานของความสำเร็จของทีมมาแล้ว

เมื่อมูรินโญ่เข้ามารับงานที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด สิ่งที่หลายคนอยากรู้ก็คือนักเตะอย่างมาร์คัส แรชฟอร์ดและพวกจะยังได้รับโอกาสอีกหรือไม่ เพราะตัวอย่างที่มูรินโญ่เคยแสดงให้เห็นกับเชลซีดูจะมีแนวโน้มที่ไม่ค่อยดีนัก

เมื่อเขาปล่อยให้ดาวรุ่งที่ทีมคว้าตัวมาปั้นอย่างโรเมลู ลูคาคูหรือเควิน เดอ บรอยน์หลุดมือไปรุ่งกับทีมอื่น เพราะไม่พร้อมจะให้โอกาสดาวรุ่งเหล่านี้พิสูจน์ผลงานให้เห็นมากพอ

ไหนจะยังคำถามเกี่ยวกับพฤติกรรมอื่น ๆ ของเขา ทั้งการชอบแสดงอารมณ์กราดเกรี้ยวในแบบที่เกินพอดีหรือผิดที่ผิดเวลา การยึดเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางและพร้อมจะมีเรื่องกับทุกคน ไม่ว่าจะฝ่ายตรงข้ามหรือฝ่ายเดียวกัน

อีกอย่างก็คือมูรินโญ่มักจะเข้าไปหาความท้าทายในการคุมทีมเพียงระยะสั้น ๆ ไม่ได้คิดจะอยู่เพื่อวางรากฐานในระยะยาวให้กับทีม ซึ่งเป็นสิ่งที่แมนฯ ยูไนเต็ดต้องการให้มีการสานต่อหลังหมดยุคท่านเซอร์

แต่ด้วยเหตุผลในเรื่องของความสำเร็จแบบเร่งด่วนที่ผีแดงต้องการในฤดูกาลหน้า มูรินโญ่จึงเป็นตัวเลือกที่ลงล็อกที่สุดเท่าที่จะหาได้ เพราะน่าเสียดายที่คนที่น่าจะเหมาะกับสไตล์ของทีมอย่างเป๊ปก็ดันเลือกไปอยู่กับแมนเชสเตอร์ผิดฝั่งไปแล้ว

เพราะฉะนั้นฝั่งสีแดงของเมืองก็จะต้องคาดหวังความสำเร็จกับมูรินโญ่แทน และคงต้องคาดหวังว่าเขาจะเป็นคนที่ใช่จริง ๆ ซักที แม้จะไม่ใช่คนที่ชอบที่สุดก็ตาม