สกู๊ป : ฤดูร้อนที่ยาวนานของ "หงส์แดง"
ณ เข็มนาฬิกาเดินไปความสนใจของโลกลูกหนังอยู่ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ถูกคาดหมายกันมานานในการเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของ โจเซ่ มูรินโญ่ ที่คาดว่าจะเข้ารับตำแหน่งโดยเร็วที่สุด
แต่บนอีกฟากของถนนสาย M62 ทีมคู่ปรับตลอดกาลอย่าง ลิเวอร์พูล เอง ก็กำลังจะมีความเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่ากันครับ
โดยหลังจบศึกนัดชิงชนะเลิศยูโรป้า ลีก ด้วยความเจ็บช้ำ เราได้เห็นความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นมากมายที่มากพอจะเรียกได้ว่าเป็นการ “ผ่าตัด” ทีมครั้งใหญ่
การผ่าตัดทีมครั้งนี้เพื่อให้เป็นอย่างที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องการสำหรับการกลับมาสู้ศึกใหม่ในฤดูกาลหน้า หลังจากที่ได้ใช้งานนักเตะมรดกของ เบร็นแดน ร็อดเจอร์ส อย่างเต็มที่ตลอด 7-8 เดือนที่ผ่านมา
นั่นหมายถึงจะต้องมีทั้งกลุ่มนักเตะเก่าบางส่วนที่คงต้องจากกันแค่ตรงนี้ครับ ซึ่งที่มีการคาดกันไว้คือ โคโล่ ตูเร่, มาร์ติน สเคอร์เทล, โจ อัลเลน และ ลูคัส เลวา ไม่นับที่จากไปแล้วอย่าง โฆเซ่ เอ็นริเก้ กับ เฌอโรม ซินแคลร์
คริสเตียน เบนเตเก้ เป็นอีกรายที่น่าจะต้องย้ายออกจากแอนฟิลด์เพื่อประโยชน์ต่อทุกฝ่าย และคล็อปป์ จะต้องจัดการกับกลุ่มนักเตะที่ถูกปล่อยตัวไป อย่าง มาริโอ บาโลเตลลี่, ลาซาร์ มาร์โควิช ด้วยเช่นกัน
ทั้งหมดนั้นเพื่อเปิดทางให้กลุ่มนักเตะคลื่นลูกใหม่ที่จะทยอยมาครับ
ถ้าไม่ผิดจากที่คาดการณ์ไว้ นักเตะใหม่รายแรกที่คาดว่าจะย้ายมาเป็นนักเตะใหม่ของ คล็อปป์ ประจำซัมเมอร์นี้คือ ลอริส คาริอุส ผู้รักษาประตูดาวรุ่งที่กลายเป็นขวัญใจของ เดอะ ค็อป สาวๆทันทีตั้งแต่ยังไม่ทันย้ายมาร่วมทีมด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มนักเตะที่มีข่าวมานานอย่าง ปิโตเออร์ ซิลินสกี้, เบน ชิลเวลล์ รวมถึง มาห์มูด ดาฮูด ที่ต้องคอยจับตาอย่างใกล้ชิดครับว่าใครจะย้ายเข้ามาเสริม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ คล็อปป์ ได้มาร์โก กรูยิช และ โยเอล มาทิป มาก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ดีสิ่งที่ถือเป็น “สัญญาณร้าย” สำหรับนายใหญ่ขวัญใจมหาชนคือการที่ไม่สามารถเกลี้ยกล่อมให้ มาริโอ เกิตเซ่ ย้ายตามมาอยู่ในแอนฟิลด์ได้ ซึ่งถือเป็นการ “พลาด” ที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งครับ
เกิตเซ่ อาจจะห่างไกลจากฟอร์มที่ดีที่สุด และชวนให้มีคำถามอยู่บ้างครับว่าจะซ้ำซ้อนกับตัวที่มีอย่าง คูตินโญ่, เฟียร์มิโน่ และอดัม ลัลลานา หรือไม่
แต่นักเตะใน “คลาส” นี้ บางครั้งไม่ควรไปตั้งคำถามอะไรให้มากมายครับ เพราะการได้ตัวมานั้นมีประโยชน์ต่อทีมมากมายไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม
มันเป็นการแสดงให้เห็นถึง “อำนาจต่อรอง” และ “ความน่าดึงดูด” ของทีม ทั้งในแง่ของศักยภาพของสโมสร และตัวผู้จัดการทีมเองด้วยเช่นกัน
ผมเข้าใจในเหตุผลของเกิตเซ่ ที่เลือกจะปักหลักกับบาเยิร์นต่อไปอีกฤดูกาล ไม่ว่าจะเพื่อพิสูจน์ตัวเองหรือเพื่อรอคอย “โอกาส” อื่นที่ดีกว่าครับ และนั่นเป็นกระจกสะท้อนสำหรับลิเวอร์พูล และคล็อปป์ ได้เป็นอย่างดีครับ
คล็อปป์ และทีมงานน่าจะรู้ตัวแล้วว่าการพลาดไม่ได้เล่นสโมสรยุโรปนั้นส่งผลต่อสถานะของสโมสรมาก และฤดูร้อนนี้จะเป็นงานที่ยากลำบากกว่าที่พวกเขาคิดเอาไว้มาก
โดยเฉพาะการเซ็นสัญญากับนักเตะระดับ marquee signing ที่ควรจะมีอย่างน้อย 1-2 ตัวเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและบรรยากาศที่ดี
ฤดูร้อนนี้ของ ลิเวอร์พูล ยังอีกยาวนานครับ และมีความเป็นไปได้ที่มันจะไม่สวยงามอย่างที่หวัง
นิทานลูกหนัง by ลูกแม่กิ่ง (lookmaeking@hotmail.com)