ก่อนชิงเจ้ายุโรป "ตราหมี vs ชุดขาว".. เทียบกำลังหลักแบบ "ปอนด์ต่อปอนด์"

ก่อนชิงเจ้ายุโรป "ตราหมี vs ชุดขาว".. เทียบกำลังหลักแบบ "ปอนด์ต่อปอนด์"

ก่อนชิงเจ้ายุโรป "ตราหมี vs ชุดขาว".. เทียบกำลังหลักแบบ "ปอนด์ต่อปอนด์"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อีกเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น ศึกลูกหนังส่งท้ายซีซั่น "ยูซีแอล นัดชิง" ก็จะระเบิดศึกขึ้น หลังจากที่เมื่อวานนี้โหมโรงความเป็นมาของ "มาดริด ดาร์บี้" รวมถึงสถิติต่างๆไปแล้ว

วันนี้เพื่อเป็นการพิสูจน์กึ๋นและศักยภาพของทั้งสองฝ่ายชนิดปอนด์ต่อปอนด์ เราจะขอพาทุกท่านชมการเปรียบเทียบของสองผู้เล่นจาก “ตราหมี”  และ “ราชันชุดขาว” ว่าใครถึงพริกถึงขิงกว่ากัน!

-----------------------------------------------------------------

>>> ผู้รักษาประตู <<<
แยน โอบลัค ปะทะ เคย์เลอร์ นาบาส

นี่คือการห้ำหั่นที่สุดดุเดือดและยากจะเทียบเคียง ในอดีตหลายฝ่ายอาจมีข้อกังขากับนายด่านมือกาว ทว่ากับ ณ ปัจจุบันไม่มีใครสงสัยในความยอดเยี่ยมของ โอบลัค อีกต่อไป ผลงาน 8 คลีนชีตบนเวทีชปล. คือตัวพิสูจน์มือฉมังของแข้งทีมชาติสโลเวเนียรายนี้ และหากวัดจากรอบที่แล้ว เจ้าตัวเซฟเกมเดียวถึง 9 ครั้งพาทีมกรุยทางเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศอย่างยิ่งใหญ่

ฟาก นาบาส จากโกลมือกาวที่ถูกปรามาสเพียงเพราะเติบโตจากชาติรองบ่อนอย่างคอสตาริกา ทว่ากับปัจจุบันในยุค ซีเนอดีน ซีดาน กุมบังเหียน เจ้าตัวกลายเป็นนายด่านตัวหลักที่ทีมนั้นขาดไม่ได้ มีรายงานว่า 2 ซีซั่นหลัง จาก 12 เกมที่ลงเล่นบนเวทีชปล. นาบาสเสียประตูให้คู่แข่งแค่ลูกเดียวเท่านั้น นับเป็นสถิติที่เยี่ยมยอด และเป็นสาเหตุที่ว่า ทำไมกระทั่ง คาซิยาส ยังถึงกับต้องย้ายหนีเมื่อเจ้าตัวได้โอกาสลงเฝ้าเสา

ปอนด์ต่อปอนด์ : เจ๊ากัน

เหตุผล : เป็นเรื่องยากที่จะจิ้มเลือกเนื่องจากต่างฝ่ายต่างครองความเหนียวแน่นในสไตล์ที่แตกต่างกัน ด้วยหน่วยก้านร่างโย่งทำให้โอบลัคได้เปรียบช่วงตัวยามพุงเซฟ ทว่าขณะเดียวกันแม้ นาบาส จะรูปร่างเล็กแต่ก็แฝงไปด้วยความปราดเปรียวและว่องไว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทั้งสองต่างกินกันไม่ลงนั่นเอง

-----------------------------------------------------------------

>>> กองหลัง <<<
ดิเอโก้ โกดิน ปะทะ เซร์คิโอ รามอส

สองเซนเตอร์ฮาล์ฟสุดเหนียว ที่เพียบพร้อมไปด้วยประสบการณ์ โกดินแม้จะเป็นดาวเตะที่มาจากละติน แต่กลับมีความแข็งแกร่งชนิดที่บรรดาหัวหอกยากจะต่อกร นี่คือสุดยอดเซนเตอร์ฮาล์ฟที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในปัจจุบัน

ฝั่ง รามอส ด้วยดีกรีกัปตันทีม “ราชันชุดขาว” ย่อมการันตีถึงความเก๋า และสภาวะผู้นำที่มีอยู่ในตัว แม้จะเป็นเซนเตอร์ทว่าด้วยความเร็ว และความคล่องตัวชนิดหาตัวจับยาก ทำให้บ่อยครั้งที่เจ้าตัวมักถูกโยกไปเล่นแบ็คขวาขัดตาทัพ ด้านเกมรุกก็บ่อยครั้งที่เจ้าตัวเติมเกมขึ้นมาซัลโวประตูสำคัญให้ทีม ดังเช่นเกมนัดชิงเมื่อ 2 ปีก่อนที่คว่ำแอต.มาดริด นั่นเอง

ปอนด์ต่อปอนด์ : ให้ โกดิน เหลื่อมกว่า

เหตุผล : นี่คือสองเซนเตอร์ที่ได้รับการยอมรับมากอันดับต้นๆของวงการลูกหนังยุคปัจจุบัน อย่างไรก็ดี ในบางครั้งแม้จะเป็นถึงกัปตันทีมทว่า รามอส กลับยังมีลูกเหวอให้เราได้เห็น ตรงข้ามกับ โกดิน ที่สุดนิ่ง และการอ่านเกมสุดกินขาด แม้อายุอานามจะยังน้อยแต่การที่เก๋าเกินวัยก็ทำให้ โกดิน เข้าวินเหนือรามอสไป

-----------------------------------------------------------------

>>>กองกลาง<<<
โกเก้ ปะทะ โทนี่ โครส

ลูกหม้อของทีม “ตราหมี” ฉายฟอร์มสุดยอดที่ยากจะลืมเลือนในซีซั่นนี้ ด้วยวัยแค่ 24 ปี แต่โกเก้กลับนิ่งเกินตัว พร้อมสวมบทเพลย์เมกเกอร์คอยบงการเกม รวมถึงบรรจงแอสซิสต์ช่วยให้ทีมได้ประตูไปหลายครั้ง

ฝั่ง โทนี่ โครส ซีซั่นนี้นับว่าเป็นปีที่ไม่น่าจดจำสำหรับเจ้าตัว จากมิดฟิลด์ที่ถูกจับตาในฟุตบอลโลก 2014 โครสกลายเป็นสำรองอดทนในยุค ราฟาเอล เบนิเตซ แต่ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ ผลัดเปลี่ยนมายุค ซีดาน บทบาทเจ้าตัวเริ่มชัดเจนมากขึ้น โครสประสานงานกับ คาซิเมโร่ ได้อย่างลงตัวพร้อมนำพา “ราชันชุดขาว” ยุคใหม่ให้กลับมาเกรียงไกร

ปอนด์ต่อปอนด์ : โกเก้ กินขาด

เหตุผล : นี่คือซีซั่นที่ว่ากันว่าพีคที่สุดในอาชีพของโกเก้ ความยอดเยี่ยมของเจ้าตัวเทียบไม่ได้เลยกับ โครส ที่ล้มลุกคลุกคลานมาตลอดทั้งซีซั่นกว่าจะหาจุดลงตัวเจอ เช่นเดียวกับการจ่ายบอลที่เป็นรองโกเก้อยู่หลายขุม ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ โกเก้ จะได้รับการยกให้เหนือกว่ายอดแข้งชาวเยอรมันไป

-----------------------------------------------------------------

>>> ปีก <<<
อองตวน กรีซมันน์ ปะทะ แกเร็ธ เบล

ก้าวขึ้นมาเป็นสตาร์ที่เจิดจรัสฉายแสงสำหรับ กรีซมันน์ ฟอร์มการเล่นในรอบที่แล้วซึ่งพบกับ บาเยิร์น และ บาร์เซโลน่า ยังทำให้หลายฝ่ายต้องตราตรึง ไม่เพียงแต่มีทั้งความเร็วและเทคนิค ทว่าปีกทีมชาติฝรั่งเศสยังงัดทักษะออกมาใช้ได้ถูกจังหวะ ไม่ฝืน พร้อมมีการยิงที่สุดเฉียบขาด

มากันที่ แกเร็ธ เบล แม้นี่จะเป็นซีซั่นที่มาดริดต้องเผชิญกับมรสุมอยู่หลายหน ทว่ากับฟอร์มการเล่นส่วนตัวแล้วเจ้าตัวถือว่าครองใจแฟนๆได้สำเร็จทั้งในยุคของ เบนิเตซ เรื่อยมาถึง ซีดาน จำนวน 19 ประตูอาจเป็นอะไรที่ไม่มากเมื่อเทียบกับราคาและความคาดหวัง แต่หากมองถึงมรสุมที่เจ้าตัวต้องประสบแล้วนับว่าน่าพอใจ

ปอนด์ต่อปอนด์ : เสมอกันแบบสูสี

เหตุผล : กินกันไม่ลงจริงๆกับฟอร์มของทั้งสองฝ่าย เบลคือผู้ปิดทองหลังพระที่ซัดประตูเซฟชีวิตราชันชุดขาวบ่อยครั้ง ขณะที่ กรีซมันน์ ก็เปรียบดั่งคีย์แมนสำคัญที่ทำให้ แอต.มาดริด ปีนี้เจิดจรัสขึ้นมา เมื่อเป็นเช่นนี้ทั้งสองฝ่ายจึงไม่ต่างกับสองกำลังหลักที่พาสโมสรกรุยทางจนมาบรรจบกันดั่งปัจจุบัน

-----------------------------------------------------------------

>>> กองหน้า <<<
เฟร์นานโด ตอร์เรส ปะทะ คริสติอาโน่ โรนัลโด้

ราวกับกลับชาติมาเกิด ไม่น่าเชื่อว่าจากม้าแก่ที่ทำท่าจะหมดอนาคตมาแล้ว ถึงตรงนี้ ตอร์เรส ขวัญใจของใครหลายๆคน จะกลายร่างเป็นเครื่องจักรถล่มประตูอีกครั้งได้ แม้จะล่วงเลยเข้าสู่วัย 32 ปีแต่ดูเหมือน ณ ปัจจุบัน ตอร์เรสจะกลับมาสู่จุดท็อปฟอร์มอีกครั้งพร้อมกับความนิ่ง และเยือกเย็นมากกว่าแต่ก่อน

ฝั่ง คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ชื่อนี้คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณให้มากความ นี่คือเครื่องหมายการค้าของทีม “ราชัน” ยุคปัจจุบัน ผลงาน 51 ประตู ทำให้โรนัลโด้กลายเป็นดาวซัลโวที่ซัดมากสุดในวงการฟุตบอลยุโรป แม้จะถูกค่อนขอดว่าเห็นแก่ตัวไปบ้างกับการที่ทะนงตงไม่ต่างกับศูนย์กลาง แต่คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธความยอดเยี่ยมของแข้งรายนี้

ปอนด์ต่อปอนด์ : CR7 ฉลุยโลด!

เหตุผล : คงไม่ต้องหาเหตุผลเพื่อมาลบล้างความจริงได้เลย แม้ ตอร์เรส จะยอดเยี่ยมเพียงใด ทว่าหากไม่นับ เมสซี่ และ ซัวเรซ ณ เวลานี้ก็คงหาใครมาเทียบเคียงโรนัลโด้ยาก แม้บ่อยครั้งที่เจ้าตัวจะถูกหลายฝ่ายหมั่นไส้ แต่นี่คือดาวเตะที่น่าทำให้โลกต้องตกตะลึง และทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของวงการ

และนี่ก็คือการเทียบปอนด์ต่อปอนด์ตามทรรศนะส่วนตัวของผู้เขียน ส่วนเกมในวันพรุ่งนี้ใครจะอยู่ใครจะไป อีกไม่นานคงได้รู้กัน

มาสเตอร์ ริท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook