สกู๊ป : "มูรินโญ่" The Chosen One ???

สกู๊ป : "มูรินโญ่" The Chosen One ???

สกู๊ป : "มูรินโญ่" The Chosen One ???
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หายไปจากหน้าคอลัมน์ของหนังสือพิมพ์กีฬารายวันฮอตสกอร์ไปสักระยะ เพราะตอนนี้ภารกิจส่วนตัวเยอะเหลือเกิน แต่วันนี้มีโอกาสได้กลับมาทักทายแฟนๆคอกีฬา โดยเฉพาะคอฟุตบอลนอกทั้งหลายอีกครั้งนึง ซึ่งที่ผ่านมามีข่าวมากมายโดยเฉพาะการย้ายทีม ซื้อขายนักเตะรวมถึงโค้ชหรือผู้จัดการทีมด้วย

โดยข่าวใหญ่เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาคงหนีไม่พ้นตำแหน่งนายใหญ่คนใหม่ในถิ่น “โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด” ของเดอะ สเปเชี่ยล วัน “โจเซ่ มูรินโญ่” โค้ชจอมอหังการซึ่งเชื่อว่าสาวกเร้ด อาร์มี่ “แมนฯ ยูไนเต็ด” ทุกคนคงมีความสุขกับเรื่องนี้ไม่น้อย ดีไม่ดีมากกว่า การที่ “หลุยส์ ฟาน ฮัล” พาทีมไปเล่น “ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก” และได้ทำทีมต่อเสียอีก

ต้องยอมรับว่า 7 ปีที่รอคอย นับตั้งแต่เจ้าตัวออกมาแสดงความปรารถนาว่าอยากจะคุมทีมที่ยิ่งใหญ่อย่าง “แมนฯ ยูไนเต็ด” สักครั้งในชีวิต ตอนนี้ต้องเรียกว่า “ฝันเป็นจริง” แล้ว พร้อมสัญญาอีก 3 ปี

อย่างไรก็ตามถึงแม้เจ้าตัวจะมีเวลาอีกประมาณเกือบ 3 เดือนเต็มในการเปลี่ยนแปลงทีม ซื้อนักเตะที่ตัวเองต้องการเข้ามาแต่ก็คงไม่ได้ทั้งหมด ถึงจะมีงบประมาณที่เชื่อว่า “จำนวนมาก” จากบอร์ดบริหารของทีมก็ตาม เพราะการทำทีมใหญ่ในยุคนี้ต้อง “ใจเย็น” ไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้แบบทันทีทันใด

ที่สำคัญต้องดูกันในระยะยาวว่า “แบรนด์มูรินโญ่” จะคุมนักเตะที่เหลือมาจากยุคของจอมปรัชญาคนก่อนไหวไหม เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง ยิ่งเรื่อง “สปิริตของนักเตะ” ภายในทีม บางคนอาจจะเคยร่วมงานกับเจ้าตัวมาแล้วเคมีไม่ตรงกัน เช่น “ฆวน มาต้า”

ก่อนหน้านี้ต้องยอมรับว่า อดีตนักเตะของทีมหลายคนแสดงออกอย่างชัดเจนว่า ไม่อยากเห็น “มูรินโญ่” มาคุมทีม อย่างเช่น “เอริค คันโตน่า” หรือ “ไรอัน กิกส์” จาก “ทัศนคติ” ในการทำบอลของเจ้าตัวที่ “เน้นผล มากกว่า วิธีการเล่น” ซึ่งจุดนี้ด้วยกระมังที่ทำให้ “เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน” อดีตกุนซือปรมาจารย์ยอมหักอกเจ้าตัว เพื่อเลือก “เดวิด มอยส์” คนบ้านเดียวกันให้เป็น “The Chosen One”

 

มาถึงตรงนี้ยังคิดไม่ออกว่า “แมนฯ ยูไนเต็ด” ในแบบ “มูสไตล์” จะหน้าตาแบบไหน และจะตรงใจกับสิ่งที่แฟนบอลอยากได้หรือเปล่า อย่างสมัยของจอมปรัชญาถ้วยเดียว (ได้แค่แชมป์ “เอฟเอ คัพ” รายการเดียว แลกกับเงิน 200 ล้านปอนด์) ที่กลายเป็นบอล “เกมรับ” และ “โยนยาว” อาศัยกองกลางสูงเกือบ 200 ซม. แบบ “มารูยาน เฟลไลนี่” มาคอยเป็นตัวโหม่ง ซึ่งน่าอับอายขายขี้หน้าไม่น้อย

แต่ก็ไม่มีทางเหมือน “เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน” อย่างแน่นอน เพราะ “ทัศนคติ” ในการทำทีมต่างกันอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าทั้งคู่จะมาจากพื้นฐานศาสตร์ฟุตบอลเดียวกันที่ “สถาบันอบรมโค้ชของยูฟ่า” ที่สกอตแลนด์

บางทีการมาของ “มูรินโญ่” คราวนี้ อาจจะเรียกไม่ได้เต็มปากว่าเป็น ชายผู้ถูกเลือก “The Chosen One” เพราะเจ้าตัวไม่ยอมเป็นตัวเลือกของใครแน่นอน แต่แน่นอนว่าเขาคือ “เดอะ สเปเชี่ยล วัน” หรือ “เดอะ โอนลี่ วัน” ตัวจริง ที่จะเข้ามาเขียนประวัติศาสตร์ของหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ในบทต่อไปนับจากนี้ครับ

คุณเชื่อผมไหม!!!

แบงค์ พิพัช

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook