"5 คีย์แมน" พาโปรตุเกสทะลุถึงแชมป์!

"5 คีย์แมน" พาโปรตุเกสทะลุถึงแชมป์!

"5 คีย์แมน" พาโปรตุเกสทะลุถึงแชมป์!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“บางครั้งความสวยงามก็กินไม่ได้” วลีเด็ดที่แฟนบอลโครแอตน่าจะรู้ซึ้งเป็นอย่างดีหลังอุตส่าห์บุกแทบตายทว่าสุดท้ายกลับเจอดอกเดียวของ กวาเรสม่า ดับฝังหน้าตาเฉย

หากใครได้ดูเกมที่ผ่านมาก็คงจะเข้าใจตรงกันว่า นี่ไม่ต่างกับ "ยานอนหลับชั้นดี" ตลอดทั้งเกมทั้งสองทีมเดินเกมสุดเนือย และ ซัดประตูไม่เข้ากรอบแม้แต่หนเดียวกระทั่งนาทีที่ 117 ที่โปรตุเกสโต้กลับจนได้ซิวชัย

โอกาสที่เฉี่ยวไป-มาทำให้สาวกโครเอเชียยากที่จะจำใจยอมรับ นี่คือชาติที่หลังเกมใครหลายคนยกย่องพร้อมกับลงความเห็นว่าคู่ควรเหลือเกินกับการผ่านเข้ารอบต่อไป

ตรงข้ามกับทีมฝอยทองที่เล่นบอลสุดไม่เอาอ่าวทว่าสุดท้ายกลับเหมือนมีของกรุยทางเข้าสู่รอบ 8 ทีมได้อีกครั้ง

แต่ขึ้นชื่อว่าฟุตบอลย่อมไม่มีเรื่องบังเอิญ บนความโอดครวญของ “ตราหมากรุก” ,บนชัยชนะอันสุดเฮงของโปรตุเกสพวกเขาไม่ได้คว้ามันมาแบบฟลุ๊กๆ แม้จะแลดูเหมือนไร้ทรง

และไร้ระบบทว่าถึงตรงนี้ตลอด 4 เกมที่ผ่านมา ชาติเล็กๆจากตะวันตกสามารถทำสถิติไม่แพ้ใครในทัวร์นาเมนต์นี้ได้อีกครั้ง


วันนี้เราจะมาส่อง "5 เหตุผลสำคัญ" ที่มีสิทธิ์พาฝอยทองบ้าบิ่นเป็นแชมป์ได้สำเร็จ!


ศูนย์กลางจักรวาลที่ชื่อ "โรนัลโด้"

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ส่วนหนึ่งที่โปรตุเกสยังได้เสนอหน้าในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปต่อเกิดขึ้นเพราะเขาคนนี้ หลังต้องพบกับช่วงเวลาอันยากลำบากในสองเกมแรก ทว่านับตั้งแต่แมตช์กับฮังการี "CR7" เริ่มที่จะควานหาฟอร์มเก่งเจออีกครั้ง

ในเกมล่าสุดกับโครเอเชีย แม้แข้งวัย 31 ปีอาจบทบาทน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับความคาดหวังทว่าก็เป็นอีกครั้งที่ความอันตรายในเสี้ยวพริบตาของ "คริสติอาโน่ โรนัลโด้"

ส่งผลดีให้ทีมนั้นได้ประตู จังหวะสอดหาช่องพร้อมรับลูกจากเพื่อนก่อนจะได้จบสกอร์ทำให้นายทวารคู่แข่งต้องออกแรงปัด และ นั่นนำมาซึ่งการคว้าชัยในเวลาต่อมา 

เกมนี้โรนัลโด้ยังเล่นแบบใจกว้างโดยไม่คำนึงถึงตนเองดั่งที่เคยเป็นอีกด้วย และ นั่นทำให้เกมรุกโปรตุเกสดูมีชีวิตชีวา และ เป็นธรรมชาติมากขึ้นกว่าแต่ก่อนนั่นเอง ซึ่งในรอบถัดไปชะตากรรมของฝอยทองก็คงขึ้นอยู่กับโด้ผู้นี้

"ซูเปอร์ ซานเชส"

ในรูปเกมที่สุดน่าเบื่อ และ ชวนให้แฟนบอลนั้นหาวหลับย่อมไม่แปลกที่นั่นจะแสดงถึงการไร้ประสิทธิภาพในเกมรุกของทั้งสองฝ่ายโดยเฉพาะโปรตุเกสที่หาทำประตูไม่ได้ซักครั้ง

แต่แล้วในครึ่งเวลาหลังหมากอันแยบยลของ แฟร์นานโด ซานโต๊ส ก็ได้ผล การถอด อังเดร โกเมส ที่แม้นัดก่อนๆจะเล่นโดดเด่นออกทว่าในเมื่อเกมนี้กลับพริ้วไม่ได้ถือเป็นการเปลี่ยนตัวที่ถูกจุดด้วยประการทั้งปวง

การถูกส่งลงสังเวียนของ เรนาโต้ ซานเชส ทำให้เกมรับของโครเอเชียต้องปั่นป่วนมากกว่าครึ่งเวลาแรกจน ดาริโอ เซอร์น่า กัปตันโครแอตต้องคอยตามประกบเข้าบอลโฉ่งฉ่างพร้อมเสียฟาวส์หลายครั้ง

แม้ด้วยการที่เป็นดาวรุ่งอาจทำให้ในบางครั้งการจ่ายบอล และ ลีลาการลากเลื้อยของซานเชสดูจะติดขัด ไม่เข้าเป้าเท่าที่ควรแต่ก็มีอยู่หลายจังหวะที่เจ้าตัวทำให้ทีมนั้นได้เปรียบ

จังหวะที่ ซานเชส กระชากบอลมาคนเดียวก่อนไหลให้นานี่ป้อนบอลเข้ากลางซึ่งนำมาสู่ประตูชัยก็ทำให้แข้งตัวใหม่บาเยิร์น มิวนิค กลายเป็นผู้ปิดทองหลังพระชัยชนะของทีม

และบางที ซานโต๊ส อาจรู้ซึ้งแล้วว่าควรใช้ใครเป็นตัวหลักในเกมนัดถัดไป

"ซานโต๊สผู้ใจเด็ด"

หลังโดนสอยไปสามลูกในเกมเดียวกับฮังการีทำให้แฟนบอลหลายคนเริ่มแสดงความกังวลกับอนาคตของทีมนับจากนี้ แต่แล้ว แฟร์นานโด ซานโต๊ส กลับทำเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดพร้อมกับทำให้เกมรับของทีมแน่นปึ๊กทันตา

เกมนี้กุนซือชาวลิสบอนกล้าๆที่จะลองของ และ เปลี่ยนทีม ด้วยการปรับตัวผู้เล่นเฉพาะเกมรับจากแมตช์ที่แล้วถึง 3 ตำแหน่ง มีเพียง เปเป้ รายเดียวเท่านั้นที่ได้ไปต่อ ที่เหลืออย่าง ริคาร์โด้ คาร์วิลโญ่

ซึ่งช้าอืดเป็นเรือเกลือตามอายุการใช้งานบวกกับฟูลแบ็คทั้งสองข้างอย่าง เวย์เรนญ่า และ เอลิซู โดนดร็อปทำโทษอย่างไร้ความปราณี

การส่ง โชเซ่ ฟอนเต้ เป็นพาร์ทเนอร์กับเปเป้ ทำให้คู่กลางของทีมลงตัวยิ่งขึ้น ซานโต๊สทำให้แท็คติกที่โครเอเชียเตรียมมาต้องเป็นหมันเนื่องจากไม่มีใครคาดคิดว่า ยามหน้าสิ่วหน้าขวานกุนซือรายนี้จะกล้าๆปรับเกมรับยกแผง

และนั่นทำให้แนวรุกของโครแอตมิอาจจับทางได้ว่าทั้งสองแบ็คอย่าง เซดริค ซัวเรซ และ ราฟาเอล เกย์เรโร่ จะวิ่งไปในทิศทางใด

"เขี้ยวลากดินตัวพ่อ"

ถึงจะโดนปรามาสว่า นี่คือชุดที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบหลายปีทว่าสุดท้ายแล้วโปรตุเกสก็ยังเป็นโปรตุเกส ประสบการณ์ของพวกเขาที่ผ่านร้อนผ่านหนาวบนเวทีการแข่งขันมามากทำให้สุดท้ายทีมตราหมากรุกไม่อาจทำอะไรได้ดั่งใจจนโดนดอกเดียวปลิดชีพแบบมึนงง

มีสถิติอันน่าชวนทึ่งออกมาว่า นี่คือชาติที่ถูกโฉลกกับยูโรมากกว่าทีมไหนๆ ในปี 1996 พวกเขาจบด้วยรอบ 8 ทีมสุดท้ายก่อนที่ในปี 2000 ขุนพลฝอยทองจะทะลุเข้าสู่รอบรอง กระทั่งก้าวขึ้นเป็นรองแชมป์ในปี 2004

เช่นเดียวกับปี 2008 ที่โปรตุเกสต้องยุติเส้นทางตั้งแต่รอบ 8 ทีม ทว่าในยูโรหนล่าสุดเมื่อ 4 ปีก่อนพวกเขาก็กู้หน้าด้วยการกรุยทางสู่รอบรองฯอีกครั้งได้สำเร็จ

และในปี 2016 ครั้งนี้ถ้าจะให้เทียบกันแบบบัญญัติไตรยางศ์ มองดูจากสายที่ออกมาในการหลีกเลี่ยงทีมใหญ่ก็มีสิทธิ์เป็นไปได้ ฤาบางทีโปรตุเกสชุดนี้จะทะลุเข้าสู่รอบชิงแล้วจบด้วยตำแหน่งรองแชมป์!?

"ดวงล้วนๆ"

ไม่ต้องใช้หลักทฤษฏีอะไรมากมาย ทว่านี่คงเป็นเหตุผลที่หลายคนมองว่าเข้าท่าที่สุด! จะมีใครหน้าไหนอีกที่จบสามนัดแรกด้วยการเสมอทั้งหมดพร้อมกับวินาทีชีวิตที่จ่อหลุดเข้าไปดวลกับ

อังกฤษรวมถึงชาติยักษ์อย่าง เยอรมัน, อิตาลี, สเปน อยู่แล้วทว่าในวินาทีสุดท้ายไอซ์แลนด์กลับระเบิดตาข่ายได้พร้อมกับนำพาพวกเขาไปอยู่ในสายเบาที่มีแต่ชาติรองบ่อนหน้าตาเฉย

เช่นเดียวกับเกมล่าสุดที่เจ๊าจืดชืด 0-0 ใน 90 นาทีแถมยังโดนบุกเป็นว่าเล่นจนหัวใจแทบหล่นลงไปอยู่ตาตุ่มหลายครั้งทว่าสุดท้ายดอกเดียวที่ได้สวนตูมเน้นๆกลับพาทีมเข้ารอบดื้อๆซะงั้น

หากจะเอ่ยว่าทีมใดที่พกดวงมาทัวร์นาเมนต์นี้มากที่สุดคงไม่พ้น “ฝอยทอง” ชุดนี้อย่างแน่นอน

ในรอบ 8 ทีมแม้การดวลกับโปแลนด์จะไม่ใช่งานง่าย ทว่าหลังจากผ่านความมึนงงมาทั้งหมดชนิดที่กระทั่งแฟนบอลก็ไม่อาจรู้ได้ว่า พวกเอ็งหลุดมาได้อย่างไรบางทีโปรตุเกสคงไม่ต้องกังวลกับหนทางข้างหน้าอีกต่อไป

และหากจับพลัดจับผลูบ้าบิ่นถึงขั้นทะลุเป็นแชมป์มันซะขึ้นมา

นี่คงเป็นชาติที่ถูกยกย่องว่า “ม้ามืด” เปรียบดั่ง “แมวเก้าชีวิต” ตัวจริง!

คอลัมน์ ตุงตาข่าย
by มาสเตอร์ ริท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook