สกู๊ป : ขอค้าน "เซาธ์เกต"

สกู๊ป : ขอค้าน "เซาธ์เกต"

สกู๊ป : ขอค้าน "เซาธ์เกต"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม้จะกระเด็นออกจากสารบบ ยูโร 2016 ไปแล้ว แต่กระแสของทีมชาติอังกฤษ ยังคงมีเรื่องให้ต้องพูดถึงอยู่ไม่ขาดสาย

ไม่ว่าจะเป็นประเด็นความ "ห่วย" ที่กระเด็นตกรอบ 16 ทีมไปแบบน่าผิดหวัง

หรือจะเป็นกระแสของกุนซือคนใหม่ ที่จะเข้ามาแทนที่ รอย ฮอดจ์สัน ที่ตอนนี้มีรายชื่อโผล่มาติดร่างแหกันชนิดรายวัน

ไล่เรียงตั้งแต่ แกเร็ธ เซาธ์เกต, อลัน พาร์ดิว, เอ็ดดี้ ฮาว, แซม อัลลาไดซ์, เบรนแดน ร็อดเจอร์ส, อาร์แซน เวนเกอร์ รวมถึง โลร็องต์ บล็องก์

ล่าสุดก็มีแนวความคิดสุดแปลกจาก ไรอัน กิ๊กส์ ที่เสนอให้แต่งตั้ง แกเร็ธ เซาธ์เกต เข้ามาเป็นกุนซือใหญ่ แต่ต้องมีขรัวเฒ่ารายอื่้นเป็นที่ปรึกษา

ซึ่งชื่อที่ระบุมาถือว่าเซอร์ไพรส์ไม่น้อยเมื่อมี หลุยส์ ฟาน ฮัล ติดโผมาด้วย

เอาตามช้อยส์ที่ 3 บิ๊กบอสของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ทั้ง แดน แอชเวิร์ธ, มาร์ติน เกล็นน์ และ เดวิด กิลล์ ได้วางคุณสมบัติไว้ มองดูแล้วคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดก็หนีไม่พ้น เวนเกอร์

นายใหญ่ชาวฝรั่งเศส ที่อยู่คุมทีมในพรีเมียร์ลีกมาเกือบ 20 ปี มีความคุ้นเคยกับฟุตบอลอังกฤษเป็นอย่างดี เป็นคนมีบารมี มีรางวี่รางวัลการันตีฝีมือ

ที่สำคัญมีสไตล์การทำทีม ที่เน้นเกมรุก เน้นการต่อบอลที่สวยงาม มันถูกคาดหวังว่าจะช่วยเรียกศรัทธาให้กับแฟนบอล "สิงโตคำราม" ได้

อย่างไรก็ตาม เวนเกอร์ นั้นยังมีสัญญากับ อาร์เซนอล อยู่อีก 1 ปี ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่มีความต้องการที่จะอำลา "ปืนใหญ่" ก่อนกำหนดเสียด้วย

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด ที่จะมีข่าวว่า อังกฤษ อยากได้โค้ชชั่วคราว 1 ปีเพื่อรอให้ "เจ๊เหี่ยว" ที่หมดสัญญามาคุมทีมแบบเต็มตัวในซัมเมอร์หน้า

ส่วนตัวเลือกที่เหลือโดยเฉพาะกลุ่มกุนซือที่เป็นอิงลิชชนพันธ์แท้ พูดกันตรงๆ ผมว่าโปร์ไฟล์ไม่ผ่าน และไม่ควรที่จะเสี่ยงด้วยประการทั้งปวง

อย่างในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่ผ่านมาก็ไม่มีใครที่ทำผลงานได้น่าประทับใจเลย ทั้ง คริสตัล พาเลซ, บอร์นมัธ และ ซันเดอร์แลนด์ ต่างก็เป็นทีมหนีตายทั้งสิ้น

ย้อนนึกถึงวันวานสมัยที่อังกฤษแต่งตั้ง สตีฟ แม็คคลาเรน เข้ามาเป็นนายใหญ่ ก่อนพาทีมสร้างผลงาน "อัปยศ" ด้วยการตกรอบคัดเลือก ยูโร 2008

ดีกรีของ "บิ๊กแม็ค" ยังดูดีกว่าทั้ง พาร์ดิว, ฮาว และ อัลลาไดซ์ อยู่มากโข

อีกคนที่เป็นตัวเต็ง แต่ผมของค้านหัวชนฝาก็คือ แกเร็ธ เซาธ์เกต ผมขออนุญาตปรามาสเลยว่า "มือไม่ถึง" และไม่ได้เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า 3 รายข้างต้นเลย

สมัยเป็นผู้เล่น เซาธ์เกต ถือว่าเป็นกองหลังที่แข็งแกร่งและมีความเป็นผู้นำมากๆ ทั้งในสมัยที่เล่นให้กับ แอสตัน วิลล่า และ มิดเดิลสโบรห์

ทว่างานคุมทีมกลับไม่ดีอย่างที่ควรจะเป็น เคยคุม "เดอะ โบโร่" 3 ปีระหว่างฤดูกาล 2006-2009 ก็พาทีมตกชั้นมาจากพรีเมียร์ลีกแบบหน้าตาเฉย

หลังจากแยกกับ มิดเดิลสโบรห์ เจ้าตัวก็ว่างงานยาวถึง 3-4 ปี ก่อนที่จะโดดมารับงานคุมทีมชาติอังกฤษ ชุดเล็ก

เอาแค่ตรงนี้ เชื่อว่าแฟนบอลหลายคนก็น่าจะ "ร้องยี้" แล้ว เพราะหากแนวทางการทำทีมดีจริง ระหว่างที่ตกงานอยู่ก็น่าจะได้ลองคุมทีมอื่นบ้าง

ที่รู้สึกแย่ที่สุดก็คือการคุม "สิงโตน้อย" ชุดยู-21 ไปเล่นศึกชิงแชมป์ยุโรป รอบสุดท้ายเมื่อปี 2015 นอกจากผลงานที่ล้มเหลวตกรอบแบ่งกลุ่มแล้ว

ขุมกำลังของ อังกฤษ ชุดนั้น ถือว่าไม่ขี้เหร่เลย ชื่อของ แจ็ค บัตแลนด์, คาร์ล เจนกินสัน, คาลั่ม แชมเบอร์ส, จอห์น สโตนส์, เจสซี่ ลินการ์ด รวมถึง แฮร์รี่ เคน ต่างเป็นผู้เล่นที่เราคุ้นหูคุ้นตาผ่านเวทีพรีเมียร์ลีกแทบทั้งสิ้น

ทว่า เซาธ์เกต กลับไม่สามารถใช้งานพวกเขาได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย และไม่ได้แสดงให้เห็นถึง "กึ๋น" ที่มากพอจะพาทีมให้ประสบความสำเร็จได้เลย

โดยเฉพาะเกมนัดเปิดสนามที่แพ้ให้กับ โปรตุเกส 0-1 เกมนั้นผมมีโอกาสได้ชมจนจบ 90 นาที ซึ่งต้องบอกว่า “ผิดหวัง” มากๆ

บอลโดนยิงนำในนาที 57 แต่กุนซือวัย 45 ปีกลับ “ใจมด” ไม่กล้าได้กล้าเสีย ไม่ยอมเล่นกองหน้าคู่เพื่อทวงประตูคืน

เซาธ์เกต ส่ง แดนนี่ อิงส์ ลงสนามในนาที 74 ทว่ากลับเลือกให้กองหน้ารายนี้ไปเล่นปีก ซึ่งเจ้าตัวก็โชว์ฟอร์มไม่ออก และไม่ได้แบ่งเบาภาระของ แฮร์รี่ เคน เลย

ตัวอย่างดังกล่าวอาจจะอคติส่วนตัว ที่เอาเกมเพียงนัดเดียวมาตัดสิน ทว่า 2 เกมหลังจากนั้นทีม “สิงโตน้อย” ก็ไม่ได้เล่นดีไปกว่านัดแรกเลย

แม้ เซาธ์เกต จะกู้หน้ากู้ตาของตัวเอง ด้วยการพาทีมชุด ยู-21 คว้าแชมป์ ตูลง คัพ ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1994

ทว่าตรงนี้ก็ไม่ได้ช่วยให้เครดิตในตัวเขาดูดีขึ้นมามากนัก เพราะมันเป็นเพียงฟุตบอลระดับเยาวชน ที่มาตรฐานคนละเรื่องเลยกับทีมชุดใหญ่

ที่ผ่านมาก็มีหลายทีมที่ดันกุนซือจากชุดเยาวชนขึ้นมาคุมทีมชาติชุดใหญ่ ซึ่งผมพูดตรงๆ แทบนึกชื่อไม่ออกเหมือนกันว่ามีใครบ้างที่ประสบความสำเร็จ

แม้จะมีรายงานระบุว่า เซาธ์เกต นั้นไม่สนใจที่จะรับงานคุมทีมชุดใหญ่ ทว่าด้วยกระแส ด้วยทิศทาง การเปลี่ยนใจก็อาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ

จนกว่า อังกฤษ จะได้โค้ชคนใหม่อย่างเป็นทางการ ผมขอค้านหัวชนฝาว่า เซาธ์เกต ไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นความหวังสูงสุดของแฟนบอลเมืองผู้ดี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook