สกู๊ป : "การพบกันที่เท่าเทียม"

สกู๊ป : "การพบกันที่เท่าเทียม"

สกู๊ป : "การพบกันที่เท่าเทียม"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ครับที่ความสนใจของผู้คนส่วนใหญ่จะจับจ้องไปที่การพบกันของ 2 ซูเปอร์สตาร์ยุโรปที่เป็นเพื่อนร่วมทีม “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด เหมือนกัน

คนหนึ่งคืออดีตนักฟุตบอลค่าตัวแพงที่สุดในโลก และอีกคนคือนักฟุตบอลที่มีค่าตัวที่แพงที่สุดในโลก และทั้งสองต่างเป็น “หัวใจ” ของทีมตัวเองไม่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะกับโปรตุเกส หรือเวลส์ ก็ตาม

ระหว่าง คริสติอาโน่ โรนัลโด้ กับ แกเร็ธ เบล นั้นผมมองว่าเท่าเทียมกัน

เช่นกันกับโอกาสของ เวลส์ และ โปรตุเกส ที่แตกต่างกันไม่มากนัก สำหรับสองทีมที่ไม่มีใครคาดฝันมาก่อนว่าพวกเขาจะมาได้ไกลถึงเพียงนี้

ทีมหนึ่งเข้าแข่งรายการระดับเมเจอร์เป็นครั้งแรกในรอบ 58 ปี และไม่เคยเล่นฟุตบอลยูโรมาก่อน ขณะที่อีกทีมผลงานไม่สู้ดีนัก ไม่ชนะใครเลยใน 5 นัดที่ลงสนาม แต่กลับเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศได้

ซึ่งอีกด้านหนึ่งต้องยกย่องในเรื่องของ “หัวจิตหัวใจ” ว่าไม่แกร่งจริงคงมาถึงตรงนี้ไม่ได้เหมือนกัน

แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายเพียงใด เมื่อมาถึงจุดนี้แล้วกับโอกาสที่จะได้เดินทางไปถึงฝั่งฝันที่ สต๊าด เดอ ฟรองซ์ ในวันที่ 10 กรกฎาคม ซึ่งอยู่ตรงหน้า ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม

นักเตะของทั้งสองทีม - ไม่เฉพาะ โรนัลโด้ หรือ เบล - ต่างต้องพยายามต่อสู้อย่างเต็มที่ เพราะมันคือเส้นทางแห่งเกียรติยศที่อาจไม่ปรากฏตัวขึ้นอีกเลยในระยะเวลาหลายสิบปีนับจากนี้

สำหรับเกมนัดนี้ ในเชิงของ “คุณภาพ” แล้วอาจแตกต่างจากเกมอีกคู่หนึ่งระหว่าง เยอรมัน และฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นสองทีมที่มีมาตรฐานการเล่นสูงที่สุดในฟุตบอลยูโรครั้งนี้

(และโชคร้ายที่ต้องอยู่ร่วมสายล่างเหมือนกัน ทั้งที่ควรจะได้ไปพบกันในนัดชิงชนะเลิศมากกว่า)

สิ่งที่เราคาดหวังจะได้เห็นจากเกมที่ สต๊าด เดอ ลียง - หนึ่งในสนามที่สวยที่สุดของการแข่งขันฟุตบอลยูโรครั้งนี้ คือเกมที่สู้กันด้วยพลังกายและพลังใจล้วนๆ

เวลส์ อาจเป็นรองในเรื่องเทคนิคและความสามารถของผู้เล่น แต่ด้วยระบบการเล่น วินัย และความเข้าใจระหว่างกัน เป็นสิ่งที่พวกเขามีเหนือกว่า โปรตุเกส ที่จากวันแรกจนถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่ผ่านมา

พวกเขาไม่ได้แสดงให้เห็นถึงองค์ประกอบที่เรียกว่า “ทีม” เลย แต่มันก็เป็นความแตกต่างที่เท่าเทียมกันระหว่างสองทีม และน่าจะเป็นเกมที่มีแนวโน้มจะสนุกเพราะทั้งสองทีมจะเปิดเกมเข้าหากันแบบ “ไม่คิดมาก” 

และแน่นอนว่าเรามีสิทธิ์คาดหวังฟอร์มระดับ “เทวดาจุติ” จากทั้ง โรนัลโด้ และเบล ที่มีโอกาสจะเป็นผู้สร้างความแตกต่างในเกมนี้ ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลที่ดีที่จะเชื่อว่าพวกเขาจะเป็นผู้กำชัยชนะในเกมนี้ได้

ไม่ว่าจะเป็นการเข้าข้างตัวเองหรือไม่ นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญแม้แต่น้อยครับ

คอลัมน์ ช็องเซลิเซ่
by ลูกแม่กิ่ง (lookmaeking@hotmail.com)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook