ไม่ซ้ำหน้า! "ปราสาทสายฟ้า" บุกรัว "กระทิงป่า" 5-0 ลิ่ว 16 ทีม เอฟเอคัพ

ฟุตบอล ช้าง เอฟเอคัพ 2016 รอบ 32 ทีมสุดท้าย
วันพุธที่ 13 กรกฎาคม 2559
จันทบุรี เอฟซี 0-5 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
สนาม : อบจ.จันทบุรี

เริ่มครึ่งแรกได้เพียง 30 วินาที ปราสาทสายฟ้า ก็มาได้ลุ้นทักทายก่อนเมื่อ อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ ได้กระชากบอลไปทางฝั่งซ้ายสุดเส้นหลัง ก่อนจะตัดสินใจโยนไปที่เสาสอง ไคโอะ ฟิลิเป จักรยานอวกาศบอลเฉี่ยวเสาออกไป

นาทีที่ 14 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้เตะมุม เชาว์วัตน์ วีระชาติ เปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษกองหลังโขกสกัดบอลออกมาเข้าทางปืน สุภโชค สารชาติ ซัดสวนตูมเดียวบอลพุ่งตรงกรอบ แต่ทว่า ศราวุธ กุนอก นายด่านเจ้าถิ่นยืนอยู่ถูกที่รับบอลไว้ได้

นาทีที่ 26 ประตูแรกของเกมก็เกิดขึ้นเมื่อ กองหลังเจ้าถิ่นโขกสกัดบอลที่เปิดจากด้านข้างไม่ดี ชิติพัทธ์ แทนกลาง โขกตั้งให้ บรูโน โมไรรา ขึ้นโขกเหน่งๆ บอลผ่านมือ ศราวุธ กุนอก หายเข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0

นาทีที่ 28 ต่อเนื่องนาทีที่ 29 ปราสาทสายฟ้า ที่โหมบุกได้อย่างต่อเนื่องก็มาได้ลูกจุดโทษเมื่อ ไคโอะ ฟิลิเป ไปโดนรวบล้มในกรอบเขตโทษ และเป็น ไคโอะ ที่ลุกมารับหน้าที่สังหารด้วยเท้าซ้ายข้างถนัดเข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หนีห่างเป็น 2-0

นาทีที่ 41 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาได้ลุ้นประตูที่ 3 เมื่อ ไคโอะ ฟิลิเป ได้กระชากบอลตั้งแต่ครึ่งสนามเข้าไปในกรอบเขตโทษ โดยมี บรูโน โมไรรา วิ่งประคองมา ก่อนที่ ไคโอะ ฟิลิเป จะตัดสินใจยิงเอง ไปติดเซฟ ศราวุธ กุนอก ที่อ่านเกมขาดวิ่งมาบล็อกบอลไว้ได้ จากนั้นก็ไม่มีโอกาสทำประตูเพิ่ม ทำให้จบครึ่งเวลาแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำ จันทบุรี เอฟซี 2-0

ครึ่งเวลาหลัง ปราสาทสายฟ้า ก็ยังเปิดเกมเข้าใส่อยู่ฝ่ายเดียว นาทีที่ 51 ประตูที่ 3 ของเกมก็เกิดขึ้นเมื่อลูกฟุตบอลขลุกขลิกอยู่หน้าประตู ก่อนจะเป็น ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ที่ลงไปเป็นตัวสำรองซัดเสียบเสาเข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หนีเป็น 3-0

นาทีที่ 55 อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ ได้บอลตรงกลางสนามก่อนจะลากขึ้นหน้าแล้วแทงให้ ไคโอะ ฟิลิเป ได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะตัดสินใจซัดด้วยเท้าซ้ายบอลพุ่งไปติดเซฟของ ศราวุธ กุนอก นายด่านเจ้าถิ่น ก่อนที่กองหลังจะช่วยกันสกัดบอลพ้นอันตรายออกมาได้

นาทีที่ 58 เจ้าถิ่นที่บุกน้อยกว่ามาได้ลุ้นประตูเมื่อ มาช่า มาร็อค ตัวสำรองที่ส่งลงสนามมาได้เพียง 3 นาที ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษก่อนจะตัดสินใจยิงหักข้อบอลพุ่งเฉี่ยวเสาออกหลังไปแบบได้ลุ้นที่สุดในเกม

นาทีที่ 72 จันทบุรี เอฟซี มาได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อ ปฏิพัทธิ์ อามะตันตี ได้บอลทางฝั่งซ้าย ก่อนที่จะกระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษ แล้วตัดสินใจซัดเต็มข้อบอลพุ่งเข้าหาเสาแรก ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ล้มตัวรับไว้ได้สบาย

นาทีที่ 77 อับดุลฮาฟิส บือราเฮง ที่ได้ลงสนามในสีเสื้อบุรีรัมย์ ยุไนเต็ด เป็นเกมแรกแทงบอลให้ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ได้กระชากบอลเข้าหาเขตโทษ ก่อนดาวซัลโวไทยลีก 2015 จะจ่ายไปที่กรอบเขตโทษให้ สุภโชค สารชาติ ได้จับแล้วซัดเต็มข้อบอลเหินข้ามคานออกไป

นาทีที่ 84 กระทิงป่า มาได้ลุ้นประตูตีไข่แตกเมื่อ ปฏิพัทธิ์ อามะตันตี ได้บอลทางฝั่งขวาก่อนจะลากตัดเข้าในแล้วซัดเต็มแข้งบอลพุ่งเข้ากรอบ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ยืนถูกที่ถูกเวลาโดดปัดออกหลังไปได้

นาทีที่ 89 ปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็มาได้ประตูที่ 4 เมื่อ อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ เก็บบอลได้หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะตัดสินใจซัดเต็มข้อบอลพุ่งผ่านมือ ศราวุธ กุนอก เสียบเสาขวามือเข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หนีเป็น 4-0

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 3 ปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาได้ประตูย้ำชัยชนะเป็น 5-0 เมื่อ เชาว์วัตน์ วีระชาติ เปิดเตะมุมเข้าไป ชิติพัทธ์ แทนกลาง โขกเข้าประตูไป ทำให้จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะ จันทบุรี เอฟซี ไป 5-0 ตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
จันทบุรี เอฟซี : ศราวุธ กุนอก (ผู้รักษาประตู), ชินวัตร พันธ์เรือง, อารักษ์ อุดมธนินทร์, คามารา อับดุลลาญี (มาช่า มาร็อค น.55), ทรงศักดิ์ ชัยสมัคร, สมชาย ดีประวัติ, กัมลาส คำพันธ์ (C), ปฏิพัทธิ์ อามะตันตี, โช บยุง จุน, ธนรัตน์ เชษฐา (สุนทร ปิตตังทะโย น.76), ซูมาโฮโร มาฟา (มงคล ดำโดด น.23)
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ผู้รักษาประตู) (C), กษิดิศ ซีกฮาร์ท (อับดุลฮาฟิส บือราเฮง น.73), สุรีย์ สุขะ, ชิติพัทธ์ แทนกลาง, ซากีรีน ตีกาสม (อนาวิน จูจีน น.60), เชาว์วัตน์ วีระชาติ, รูเบนิลสัน ดอส ซานโตส, อานนท์ อมรเลิศศักดิ์, สุภโชค สารชาติ, ไคโอะ ฟิลิเป, บรูโน โมไรรา (ดิโอโก หลุยส์ ซานโต น.46)

ผลการแข่งขันในคู่อื่นๆ
สีหมอก เอฟซี 0–2 ระยอง เอฟซี
การท่าเรือ เอฟซี 1–0 บีอีซี เทโรศาสน
นนทบุรี เอฟซี 1–0 สมุทรสาคร เอฟซี
ประจวบ เอฟซี 4–1 ตราด เอฟซี
สุพรรณบุรี เอฟซี 3–0 กรุงธนบุรี เอฟซี
สุโขทัย เอฟซี 0-0 ซุปเปอร์ พาวเวอร์ สมุทรปราการ (สุโขทัย เอฟซี ชนะต่อเวลาพิเศษ 2-0)    
อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด 0–2 ราชบุรี มิตรผล เอฟซี
เชียงราย ยูไนเต็ด 2–1 บางกอกกล๊าส เอฟซี
ขอนแก่น ยูไนเต็ด 3–2 เชียงใหม่ เอฟซี
ชลบุรี เอฟซี 4–2 หนองบัว พิชญ เอฟซี
ชัยนาท ฮอร์นบิล 3–1 บ้านบึง ยูไนเต็ด
นครราชสีมา มาสด้า 2–0 นรา ยูไนเต็ด
พัทยา เอ็นเอ็นเค ยูไนเต็ด 1-1 เอสซีจี เมืองทองฯ (เอสซีจี เมืองทองฯ ชนะต่อเวลาพิเศษ 4-1)
ศรีสะเกษ เอฟซี 3–1 สงขลา ยูไนเต็ด
อาร์มี่ ยูไนเต็ด 3–2 กระบี่ เอฟซี