รู้จักกับ "เบน วู้ดเบิร์น" วันเดอร์คิดคนใหม่แห่งแอนฟิลด์!

ดูเหมือนว่าเหล่านักเตะที่ที่ทำให้เหล่าเดอะ ค็อป หัวใจเต้นรัวที่สุดในช่วงแรกของพรีซีซั่น 3 นัดแรกที่ผ่านมาจะไม่ใช่สตาร์หน้าใหม่ที่ย้ายเข้ามาในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมาแต่อย่างใดครับ

เพราะคนที่ “ขโมยซีน” ได้กลับเป็นเหล่าดาวรุ่งจากอคาเดมี่ของสโมสรที่ได้รับโอกาสในการซ้อมร่วมกับทีมชุดใหญ่ในช่วงพรีซีซั่นที่ผ่านมา และได้โอกาสลงเล่นในช่วงแรกของพรีซีซั่นในยามที่นักเตะส่วนหนึ่งในทีมยังไม่กลับมารายงานตัวฝึกซ้อม

และหนึ่งในคนที่โดดเด่นจนกลายเป็นที่กล่าวขานถึงมากที่สุดคือ เบน วูดเบิร์น เจ้าหนูมหัศจรรย์รายใหม่ที่ว่ากันว่าน่าตื่นเต้นมากที่สุดนับตั้งแต่การแจ้งเกิดของ ไมเคิล โอเว่น เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว

วูดเบิร์น ไม่เพียงแค่ทำประตูได้ในเกมอุ่นเครื่อง 2 นัดล่าสุดกับ ฟลีทวูด ทาวน์ และวีแกน แต่ฟอร์มการเล่นโดยรวมของเขานั้นน่าเหลือเชื่อมากว่าจะเป็นเด็กวัยรุ่นที่เพิ่งจะสอบ GCSEs

(การสอบวัดความรู้ระดับชั้นมัธยมศึกษาในอังกฤษ) ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา และเมื่อ 6 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ยังลงซ้อมอยู่กับโรงเรียนมัธยม เรนฮิลล์ อยู่เลย

สิ่งที่เราได้เห็นจากเด็กคนนี้คือเซนส์ในการเล่นบอลที่ยอดเยี่ยม สัมผัสบอลแรกที่นุ่มนวล การตื่นตัวตลอดเวลา (awareness) ไม่นับการจบสกอร์ที่เยือกเย็นอย่างเหลือเชื่อ การสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีมได้

และยังสามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่งในแนวรุกโดยไม่ขัดเขิน ไม่แปลกที่ใครต่อใครจะตื่นเต้นกับเด็กคนนี้

แต่สำหรับคนที่ดูแล วูดเบิร์น มาตลอดอย่าง เดส มาเฮอร์ หัวหน้าโค้ชทีมชุดยู-16 ของลิเวอร์พูล ไม่ได้แปลกใจกับการแจ้งเกิดของเจ้าหนูสายเลือดเวลส์คนนี้

โดยก่อนหน้านี้เขาเคยเขียนถึง “วันเดอร์คิด" คนใหม่จากเคิร์กบี้ (สถานที่ตั้งอคาเดมี่ของลิเวอร์พูล) ลงในเว็บไซต์สโมสร

“6 สัปดาห์ที่แล้ว เบน ยังซ้อมอยู่กับทีมชุดยู-16 ของผม แต่ตอนนี้เขาได้เล่นในทีมชุดใหญ่ในช่วงพรีซีซั่น มันแสดงให้เห็นว่าสโมสรนั้นเชื่อมั่นในพรสวรรค์ของนักเตะอายุน้อยๆ

และถ้าเก่งพอไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็สามารถคว้าโอกาสได้ทั้งนั้น”

วูดเบิร์น เป็นเด็กที่เกิดในเชสเชียร์ และเข้าอคาเดมี่ของลิเวอร์พูลมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ถึงจะไม่ได้เป็น “สเกาเซอร์” เต็มขั้นแต่ก็ถือเป็นสายเลือดแท้ของสโมสรที่หาได้ยาก

โดยเขาได้โอกาสลงเล่นในทีมชุดอายุต่ำกว่า 18 ปีเมื่ออายุ 15 ปี และหลังจากนั้นเจ้าหนูรายนี้ก็พัฒนาอย่างก้าวกระโดด

เมเฮอร์ ยังการันตีให้ลูกศิษย์ว่าเด็กคนนี้มีโอกาสจะไปได้ไกลเพราะเป็นคนที่ถ่อมตนและรู้ดีว่ามีสิ่งที่ต้องเรียนรู้อีกมากมาย

“สิ่งที่ผมบอกได้ก็คือเขาเป็นหนึ่งในเด็กวัยรุ่นที่ถ่อมตัวที่สุดเท่าที่เราจะพบเห็น เขารู้ว่าเขาต้องเรียนรู้อีกมากมายแค่ไหน แต่ไม่มีอะไรที่ทำให้เขาไขว้เขวได้ และด้วยทัศนคติแบบนี้เขาสามารถไปได้ไกลเท่าที่เขาต้องการ”

“เขาเป็นเด็กเงียบๆที่สนใจแค่การทำหน้าที่ของเขา เขามีสมาธิสูงมาก เขาเป็นเด็กที่มีความสุขมากที่จะได้ลงฝึกซ้อม"

ย้อนหลังกลับไปเมื่อ 19 ปีก่อน ชาวเมืองลิเวอร์พูล เคยรู้สึกตื่นเต้นในอารมณ์ใกล้เคียงกันเมื่อมีข่าวว่ามีเด็กมหัศจรรย์รายหนึ่งกำลังทำผลงานที่น่าเหลือเชื่อในระดับเยาวชน

เด็กคนนั้นติดทีมเยาวชนอังกฤษทุกระดับ และทำประตูในทุกการลงสนามครั้งแรก และเป็นกำลังสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอ ยูธ คัพ”

ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล 1996-97 รอย อีแวนส์ ผู้จัดการทีมของลิเวอร์พูล ในขณะนั้นส่ง ไมเคิล โอเว่น ลงสนามในนัดสุดท้ายของฤดูกาลกับ วิมเบิลดัน ในเดือนพฤษภาคม 1997

และวันนั้นถึงทีมจะพ่าย 2-1 แต่โอเว่น ก็ทำประตูให้ทีมได้จริงๆ หลังจากนั้น โอเว่น ก็กลายเป็นความมหัศจรรย์ของวงการฟุตบอลอังกฤษ และวงการฟุตบอลระดับโลกในฐานะ “เบบี้โกล์” เพชฌฆาตหน้าเด็ก

หากจะวัดในความพิเศษแล้ว เบน วูดเบิร์น อาจจะด้อยกว่า โอเว่น ที่มีจุดเด่นคือความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ แต่ความนิ่งที่มาพร้อมกับความสามารถรอบด้านของเขา

ก็เป็นไปได้ที่เจ้าหนูวัย 16 ปีรายนี้จะก้าวมาเป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดใหญ่ในเร็วๆนี้ เยอร์เก้น คล็อปป์ เองตระหนักดีว่าสำหรับเด็กวัยนี้แม้จะฉายแววได้เร็วแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จทันทีทุกคน

เขาพร้อมจะอดทนรอเพื่อให้เด็กคนนี้พร้อมจริงๆก่อนจึงจะเรียกใช้งานอย่างจริงจัง ไม่เช่นนั้นจะเสี่ยงต่อการทำให้ “เสียคน” ได้ง่าย

แต่เรื่องทุกเรื่องบนโลกนั้นมีขอยกเว้นครับ เช่นกันกับเด็กที่มีความ “พิเศษ” ที่ไม่จำเป็นต้องเติบโตตามขั้นตอนเสมอไป

ผมเชื่อว่าเด็กคนนี้ไม่ธรรมดาครับ และผมรู้ว่า คล็อปป์ รวมถึงทุกคนเองก็มองออกเช่นกัน ไม่ต่างอะไรจากการมองดาวบนฟ้า ที่แม้ว่าจะมีดวงดาวพร่างพราวแค่ไหน จะมีดาวดวงหนึ่งที่สุกสกาวมากกว่าดวงอื่นเสมอ

คอลัมน์ Feature
by ลูกแม่กิ่ง (lookmaeking@hotmail.com)